นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบัวทอง พร็อพเพอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การจากที่สถานการณ์บ้านเมืองที่เริ่มคลี่คลาย ถือเป็นเรื่องที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่ดีที่สุด เนื่องจากในสายตาของนักลงทุนต่างชาติบางราย ยังไม่มีความเชื่อมั่นในการที่จะเข้ามาลงทุนในไทยมากนัก
ส่วนภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 นี้ยังถือว่าไม่ค่อยหวือหวามากนัก หากเปรียบเทียบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้องเจอกับวิกฤติหลายเหตุการณ์ ทำให้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2558 มองว่าในไตรมาสแรกกำลังซื้อน่าจะยังไม่ฟื้นตัว และอาจจะทรงตัว แต่ก็มีโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นที่เข้ามากระตุ้น เพราะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะช่วยให้ตลาดคึกคักขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ต่างชาติมีสิทธิ์ซื้อได้
ในส่วนของโครงการแนวราบ ก็คงต้องทำการบ้านหนัก เพราะจะพัฒนาโครงการได้ยากขึ้น เนื่องจากที่ดินราคาแพงขึ้นมากในหลายทำเล ในขณะที่กำลังซื้อชะลอตัว ผู้ประกอบการจะต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ หรือพัฒนาประสิทธิภาพของพนักงานให้มีความสามารถมากขึ้น เน้นการให้บริการที่รวดเร็ว และที่สำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ควรเพิ่มทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 2 ภาษา เพื่อรองรับ AEC ในปี 2558 สำหรับเรื่องภาษานั้น บริษัทมีนโยบายจัดจ้างอาจารย์มาสอนภาษาอังกฤษให้กับพนักงานของบริษัทในปี 2558 นี้ด้วย
นายไพโรจน์กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทในปี 2558 นั้น ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 1,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2557 โดยยังคงเน้นบ้านจัดสรรมากขึ้น ซึ่งจะเป็นทั้งการพัฒนาโครงการใหม่และเฟสต่อเนื่องประมาณ 4-5 โครงการ แต่ยังคงรักษาสัดส่วนธุรกิจบริหารงานขายโครงการ ล่าสุด บริษัทได้ซื้อที่ดินย่านบางบัวทอง-สุพรรณบุรี 60 ไร่ มูลค่า 200 ล้านบาท โดยมีแผนจะพัฒนาเป็นบ้านจัดสรร บ้านแฝด จำนวนกว่า 400 หน่วย (ยูนิต) มูลค่าโครงการเกือบ 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลอดปี 2557 กลุ่มบริษัทบัวทองยังคงเดินหน้าธุรกิจบริหารงานโครงการ แม้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทจะลดสัดส่วนการบริหารงานโครงการไปบ้าง แต่ธุรกิจหรือรายได้ก็ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิม คือ 1,500 ล้านบาท จากรายได้ทั้งหมด ปัจจุบันสามารถทำยอดขาย ในช่วง 11 เดือนของปี 2557 ที่ 1,550 ล้านบาท และคาดว่าในเดือนธันวาคม 2557 จะสามารถทำได้อีกไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท รวมเป็น 1,670 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ทำยอดขายได้ 1,519 ล้านบาท ถือว่ายอดขายเติบโตขึ้น 10%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี