นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (RICHY) เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 บริษัทมองว่าในโซนกรุงเทพฯจะยังเป็นทำเลที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด โดยเฉพาะในบริเวณแนวของรถไฟฟ้าสายใหม่ ที่จะเริ่มดำเนินการหลังจากนี้ ซึ่งสวนทางกับโซนต่างจังหวัด ที่จะมีแต่โครงการที่เป็นของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาดที่จะมีการทยอยกันเปิดโครงการใหม่เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก ต้องปรับกลยุทธ์ในการบริหารงาน

“ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาหลายๆ ด้าน ทั้งการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงกับผู้ประกอบการด้วยกันเอง โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่เจาะตลาดทุกประเภทหรือทุกเซ็กเม้นท์ เปิดโครงการในทุกระดับราคา ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง ดังนั้นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก จึงต้องปรับกลยุทธ์ในการบริหารงาน เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้”นางอาภา กล่าว

ในส่วนของกำลังซื้อหลังจากนี้ บริษัทมองว่าจะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากปัจจัยราคาต้นทุนด้านพลังงานที่ปรับลดลง และค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของบริษัทนั้น ในปี 2558 นี้ มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง 4 โครงการ โดยล่าสุดบริษัทมีที่ดินในมือหรือแลนด์แบงก์แล้ว 2 ทำเล อยู่ใกล้รถไฟฟ้าทั้งสายใหม่และสายเก่า

ส่วนในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2556 แม้จะไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากปัจจัยทางด้านสถานการณ์ทางการเมืองที่มาตั้งแต่ต้นปี 2557 จนคลี่คลายในช่วงกลางปี 2557 ทำให้บริษัทต้องเร่งบริหารงานขาย ตลอดจนการโอนกรรมสิทธิ์บ้านให้กับลูกค้ามากขึ้น โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นยอดขายที่มาจากโครงการ “ริชพาร์ค @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์” และโครงการอื่นๆ อีก 6 โครงการ ขณะที่ยอดรับรู้รายได้นั้นอยู่ที่ 1,230 ล้านบาท

สำหรับในปี 2558 นี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10-15% ซึ่งจะเกิดจากการรับรู้รายได้จากโครงการขนาดใหญ่ โดยแบ่งเป็นโครงการแนวสูง คือ “ริชพาร์ค @ เจ้าพระยา” คาดว่าจะรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท และโครงการอื่นๆอีกประมาณ 700 ล้านบาท ที่มีทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง

นางอาภากล่าวว่า โครงการ “เดอะริช @ สาทร-ตากสิน” ที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24-25 มกราคม 2558 นี้ บริษัทคาดว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 400 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านบางนาในรูปแบบผสมผสานหรือมิกซ์ยูส ประกอบด้วย อาคารพักอาศัยระดับบนหรือพรีเมียม และศูนย์การค้า มีมูลค่าโครงการกว่า 3,500 ล้านบาท