นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยถึง แนวโน้มการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯปี 2558 ว่า ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2557 และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่คงต้องจับตามองในบางพื้นที่และบางประเภทหรือเซ็กเมนต์ที่ได้รับผลกระทบเรื่องหนี้ครัวเรือน โดยความต้องการอันดับหนึ่งยังคงอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี)แต่จากข้อจำกัดด้านพื้นที่ ทำให้โครงการใหม่มีน้อยลง โดยเฉพาะตลาดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (รีเซล) ยังเป็นที่น่าจับตา เพราะสามารถตอบโจทย์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในย่านซีบีดีได้
สำหรับในส่วนของบริษัท พบว่าตลาดคอนโดมิเนียมรีเซลของบริษัท มีอัตราเติบโตขึ้นทุกปี ปัจจุบันบริษัทมีหน่วย (ยูนิต) ที่รับฝากขายประมาณ 9,000 ยูนิต ในจำนวนนี้ 5,600 ยูนิต อยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ดูจากผลประกอบการในปี 2557 ปิดการขายคอนโดมิเนียมรีเซลได้ประมาณ 560 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 4,700 ล้านบาท เติบโตจากปี 2556 ถึง 88% หรือมีมูลค่าการขายเพิ่มขึ้น 2,200 ล้านบาท
ส่วนในปี 2558 นี้ บริษัทประมาณการยอดขายไว้ที่ 5,000 ล้านบาท โดยโครงการรีเซลส่วนใหญ่ที่ปิดการขายได้ จะอยู่ในพื้นที่ซีบีดีและแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งนับว่าเป็นการสะท้อนความต้องการของตลาดหรือดีมานด์ในโซนนี้ได้เป็นอย่างดี
“ปัจจัยที่ทำให้คอนโดมิเนียมรีเซลได้รับความนิยม มาจากคอนโดมิเนียมในย่านซีบีดีมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนราคาคอนโดมิเนียมรีเซลเองต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ประมาณ 15% โดยคอนโดมิเนียมรีเซลที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี จะได้รับความนิยมสูงและขายได้ดีที่สุด ส่วนทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พร้อมพงษ์-ทองหล่อ สำหรับขนาดห้องชุดที่ขายได้ไม่เปลี่ยนแปลง คือ 1 ห้องนอน อยู่ที่ 70% และอีก 30% คือขนาด 2 ห้องนอนหรือใหญ่กว่า ซึ่งแปรผันตามจำนวนห้องชุดคงค้างที่มีอยู่ในตลาด แต่ที่น่าสนใจคือระยะหลังลูกค้าหันมาซื้อขนาด 2 ห้องนอน มากขึ้น” นายภูมิภักดิ์ กล่าว
ในด้านทำเลโซนกรุงเทพฯตอนเหนือ เป็นโซนที่มีสินค้าในตลาดที่เสนอขายหรือซัพพลายมากที่สุด คือ 36,343 ยูนิต และมีดีมานด์ 24,693 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราการดูดซับเฉลี่ย 68% โดยพื้นที่พหลโยธิน-รัชโยธิน-เกษตร มีอัตราการดูดซับดีที่สุด
คือ 76% ซัพพลายส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่แนวรถไฟฟ้าสีม่วงคือวงศ์สว่าง ซัพพลายที่มีมากรองลงมาอยู่ในพื้นที่รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว มีอัตราการดูดซับ 66% และ 70% ตามลำดับ
ส่วนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่รามอินทราลงมาถึงบางนา มีซัพพลาย 18,664 ยูนิต และมีดีมานด์ 12,528 ยูนิต คิดเป็นอัตราการดูดซับเฉลี่ย 67% บริเวณที่มีการตอบรับดีที่สุดคือ เกษตรนวมินทร์-รามอินทรา มีอัตราการดูดซับ 89% ขณะที่โซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก มีซัพพลาย 21,679 ยูนิต และมีดีมานด์ 16,416 ยูนิต คิดเป็นอัตราการดูดซับเฉลี่ย 76% ซึ่งซัพพลายส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณ รัชาดาภิเษก-ท่าพระ มีซัพพลายเกือบ 8,000 ยูนิต และมีดีมานด์กว่า 6,000 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราการดูดซับ 77% อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะครึ่งปีหลัง พบว่ามีโครงการที่เปิดตัวขายใหม่ในกรุงเทพฯ 56 โครงการ มีซัพพลายใหม่ 22,491 ยูนิต และดีมานด์ใหม่ 13,592 ยูนิต คิดเป็นอัตราการดูดซับ 60%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี