นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มสินเชื่อ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK เปิดเผยว่า ธนาคารคาดสินเชื่อปีนี้โตได้สูงสุดประมาณ 22-25% หรือเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 27,000 ล้านบาท จากพอร์ตคงค้างสิ้นปีก่อน 117,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะโฟกัสสินเชื่อเอสเอ็มอีกับสินเชื่อรายใหญ่ ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้พอร์ตสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ประมาณ 53% เอสเอ็มอี 20% สินเชื่อรายย่อย 26% และคุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 2%
“ปีนี้มองสินเชื่อรายใหญ่น่าจะเติบโตไปตามเศรษฐกิจของประเทศ จากการที่รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้สินเชื่อประเภทธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างเติบโต รวมถึงสินเชื่อด้านภาคการขนส่งด้วย”
ทั้งนี้ ในส่วนของสินเชื่อบ้านปีนี้บริษัทจะยังคงระมัดระวังเหมือนปีก่อน เพราะยังมีความกังวลเกี่ยวกับหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงต่อจากปีก่อน จึงคาดว่าจะควบคุมการเติบโตสินเชื่อบ้านปีนี้ไม่ให้เกิน 10% ขณะที่สินเชื่อรายย่อย ธนาคารก็จะอาศัยผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญประเภทนี้อยู่แล้ว ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้ผู้ประกอบการเหล่านั้น เช่น บริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ S11 ที่ธนาคารได้ให้สินเชื่อมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง S11 จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ธนาคารก็จะเป็นผู้สนับสนุนหลักทางการเงินแก่ S11 แทนที่เข้าไปทำสินเชื่อรถจักรยานยนต์เอง เพราะธนาคารไม่มีความถนัด
นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK เปิดเผย ว่าผลการดำเนินงานปี2557 มีกำไรสุทธิ 1,201ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34.5% ส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้จากเงินปันผล และกำไรจากเงินลงทุน NPL ต่ำเพียง 1.98% ของเงินให้สินเชื่อรวม เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 2.3%
ทั้งนี้ ประมาณกลางปีนี้ธนาคารจะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ประมาณ 3-5 พันล้านบาท เพื่อนำมาเพิ่มเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคาร ให้ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 12.4% เป็นกว่า 13% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะรองรับการเติบโตของธุรกิจได้อีก 3 ปี
ส่วนจากกรณีที่มีข่าวซีพีจะเข้ามาซื้อ LHBANK ว่า ขอยืนยันเหมือนกับที่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯไปเมื่อวานนี้ ว่า ธนาคารไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามยอมรับว่าปีที่ผ่านมามีการเจรจากับพาร์ทเนอร์ต่างชาติประมาณ 3 ราย ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด เนื่องจากปีก่อนไทยเผชิญปัญหาทางการเมือง ทำให้พาร์ทเนอร์รายหนึ่งเกิดความไม่มั่นใจจึงชะลอเรื่องดังกล่าวไว้ ขณะที่อีกรายต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจโลกจึงมีความกังวลในการเข้าไปร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรในประเทศต่างๆ
ส่วนอีก 1 ราย ยังไม่มีความพร้อม ซึ่งเป็นปัญหาภายในของพาร์ทเนอร์รายดังกล่าวเอง ทำให้โดยสรุปแล้ว LHBANK คงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการทำผลประกอบการให้ดีด้วยตัวเอง จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม จึงจะตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
“เมื่อคุยมาถึงจุดๆหนึ่ง ความพร้อมยังไม่เกิดขึ้นยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด เราเลยได้คำตอบว่าสิ่งที่ต้องทำ คือ โฟกัสผลประกอบการให้ได้ก่อน คือ โตได้ด้วยตัวเอง เมื่อเหมาะสมและถึงเวลาก็ง่ายต่อการตัดสินใจและการที่เราจะหาพันธมิตร เราไม่ได้ต้องการให้พาร์ทเนอร์มาช่วยเรื่องเงิน แต่เราอยากได้ธุรกิจที่ให้ประโยชน์ร่วมกัน” นางศศิธร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี