สศอ.เชื่อการส่งออกปี’58 โตเพียง 1-2% ระบุ ปัจจัยลบอื้อ ห่วงสงครามตะวันออกกลางบานปลาย ฉุดเศรษฐกิจโลกฟุบ แต่ยังมีข่าวดีเมื่อผลสำรวจ WEF ระบุศักยภาพการแข่งขันไทยดีขึ้น 6อันดับมาอยู่ที่ 31 ของโลก แถมเป็นเบอร์ 3 ของอาเซียน รับ “การเมือง” มีเสถียรภาพ
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มของภาคการผลิตไทย ว่าจากการประเมินภาวะตลาดโลกในขณะนี้ มีปัจจัยลบด้านต่างๆสูงมาก คาดว่ายอดการส่งออกรวมของไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวในระดับ 1-2% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมคาดว่าจะขยายตัว 3-4% และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัวประมาณ 2-3% ทั้งนี้ สศอ.จะต้องจับตาดูตัวเลขการส่งออกในช่วงกลางปีนี้ก่อน จึงจะสามารถประเมินได้ชัดเจน
“ปัจจัยลบที่สำคัญยังมาจากความขัดแย้งในต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือไอเอส ถ้าหากบานปลาย ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัญหาการถูกตัดจีเอสพี และภาวะเศรษฐกิจยุโรปที่ซบเซา ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้
ล้วนกระทบต่อยอดการส่งออกของไทย” นายอุดม กล่าว
นอกจากนี้ยังมีหลายปัจจัยสะท้อนให้เห็นถึงกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ มีอัตราการนำเข้าเครื่องจักร และวัตถุดิบต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองต่อตลาดภายในประเทศ หรือตลาดส่งออก แต่ในภาพรวมก็ทำให้ภาคการผลิตปรับตัวดีขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, อาหาร, สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการส่งออกของไทยติดลบ 2 ปี ซ้อนนั้น แต่จากการประเมินพบว่าศักยภาพการผลิตของไทยยังอยู่ในอันดับต้นๆ ของอาเซียน โดยผลการสำรวจจาก World Economic Forum (WEF) พบว่าศักยภาพการแข่งขันของไทยในปี 2014-2015 อยู่ในอันดับที่ 31 ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่อยู่ในอันดับ 37 หรือ ดีขึ้น 6 อันดับ แต่เมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอาเซียนประเทศที่มีศักยภาพการแข่งขันสูงสุด ได้แก่ สิงคโปร์ อยู่ในอันดับ 2 ของโลก รองลงมาเป็นมาเลเซีย อยู่ในอันดับ 20 ไทยอยู่ในอันดับ 31 อินโดนีเซียอันดับ 34 ฟิลิปปินส์ อันดับ 52
“ปัจจัยที่ใช้ในการประเมินศักยภาพการแข่งขันของ WEF ด้านหนึ่งก็คือความมีเสถียรภาพความมั่นคงทางการเมือง ซึ่งในปีนี้ไทยกลับมามีความมั่นคงทางการเมืองสูงขึ้น ประกอบกับรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ก็ทำให้มั่นใจว่าอันดับการแข่งขันของไทยในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น”นายอุดม กล่าว
ทั้งนี้ สศอ. ยังได้เพิ่มศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา โดยได้นำร่องจัดตั้งเครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา ประสานความร่วมมือระหว่างนักวิจัย กับผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ยางชนิดใหม่ๆที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ซึ่งหากเครือข่ายอุตสาหกรรมยางสำเร็จ ก็จะขยายไปสู่การตั้งเครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร และเครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมวิศวกรรมเครื่องจักร ซึ่งจะรวมไปถึงเครื่องจักรการเกษตร เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ โดยโครงการนี้
จะช่วยยกระดับการวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมไทยให้สูงขึ้น
สำหรับสาเหตุที่การส่งออกของไทยติดลบต่อเนื่องอีกปัจจัยหนึ่งคือมาจากปัญหาด้านการตลาด เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการเน้นหนักแต่ในเรื่องการผลิต ซึ่งหากเพิ่มกลยุทธ์ด้านการตลาดลงไป ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก ดังนั้นรัฐบาลจึงได้มีนโยบายให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวจากการผลิตเพื่อขายอย่างเดียว ไปสู่การบริหารจัดการด้านการขายมากขึ้น และการส่งเสริมให้ไทยเป็นเทรดดิ้งเซ็นเตอร์ โดยใช้ความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนภาคพื้นทวีป ติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขยายการค้ารองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
นอกจากนี้ ยังได้ปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขึ้นสูง และมีนวัตกรรมให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ภาคการผลิตของไทยยกระดับหลีกหนีการแข่งขันในการผลิตสินค้าขั้นพื้นฐานกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ศักยภาพการแข่งขันของไทยในระยะยาวจะแข็งแกร่งมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี