นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 คาดว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากเป็นปีที่เริ่มเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเป็นทางการ ดังนั้นธุรกิจและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนจะเริ่มขยายตัวมากขึ้น และส่งผลให้ภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยมีการเติบโตตามไปด้วย จากการเดินทางหรือเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและทำธุรกิจของชาวต่างชาติ โดยโซนที่คาดว่าน่าจะมีการเติบโตที่ดี อาทิ แนวรถไฟฟ้าสายต่างๆในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองในภูมิภาคที่ชาวต่างชาติให้ความนิยม อาทิ ภูเก็ต พัทยา และศรีราชา

“การขยายตัวของตลาดท่องเที่ยว ส่งผลให้ความต้องการที่พักอาศัยในเมืองท่องเที่ยวปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆอย่างเช่นพัทยา ภูเก็ต ซึ่งในช่วงเทศกาล และช่วงฤดูท่องเที่ยว ถือว่ามีความต้องการของตลาดหรือดีมานด์สูงกว่าสินค้าในตลาดหรือซัพพลาย ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อจับกลุ่มนักลงทุนระยะยาว โดยบริษัทมีแนวคิดในการพัฒนาอาคารชุดในเมืองท่องเที่ยว เพื่อขายให้แก่นักลงทุนซื้อและปล่อยเช่าให้แก่บริษัท เพื่อนำห้องชุดมาบริหารในรูปแบบห้องพักโรงแรม”นายวิษณุ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 1,271 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2558 นี้บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2557 มากถึง 50% ขณะที่ยอดขายในปี 2558 ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โดยในปี 2558 นี้บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่อีกกว่า 4 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 23,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทจะขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้าในต่างจังหวัดตามหัวเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ ประกอบด้วย โครงการ “ณุศา ศรีราชา” มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ,โครงการ “ณุศา ศรีราชา ออนเซ็น” มูลค่าโครงการ 5,700 ล้านบาท ,โครงการ “ณุศา รายา ภูเก็ต” มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท และโครงการ “ณุศา พัทยา” มูลค่าโครงการ 8,500 ล้านบาท

โดยโครงการที่บริษัทจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ คือโครงการ “ศรีราชา” ซึ่งเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บนพื้นที่ 10 ไร่ เป็นอาคารสูง 29-30 ชั้น จำนวน 4 อาคาร จำนวน 1,000 หน่วย (ยูนิต) ขนาดตั้งแต่ 30-100 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ อยู่ในเมืองเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และเมืองท่องเที่ยว สามารถรองรับการลงทุนช่วงเปิด AEC ได้อย่างดี เน้นเจาสะกลุ่มลูกค้าต่างชาติอย่างกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในชลบุรีและโซนจังหวัดภาคตะวันออก