นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2558 โดยจะมีการลดจำนวนการเปิดโครงการใหม่เหลือ 27 โครงการ จากเดิม 28 โครงการ แต่มูลค่าโครงการโดยรวมยังคงเดิม คือ 31,100 ล้านบาท

โดยเป็นการปรับลดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เหลือ 8 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท จากเดิมที่วางแผนไว้จะเปิดใหม่ 9 โครงการ ด้วยการหันมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดระดับบนที่มีมูลค่าสูง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน และมองว่ากำลังซื้อของลูกค้าในระดับบนมีมากกว่าระดับกลางและระดับล่าง สำหรับโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ในปี 2558 จะคงไว้ที่ 19 โครงการ หรือมูลค่ารวม 16,100 ล้านบาท 

“การที่บริษัทปรับลดโครงการคอนโดมิเนียมลง แต่มูลค่าโครงการยังคงเดิมนั้น เพราะจะหันไปเน้นเปิดคอนโดมิเนียมที่มูลค่าสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และเพื่อรองรับตลาดระดับบนที่มีกำลังซื้อ นอกจากนี้
ยังมองภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะเติบโตขึ้น ก็ต้องเห็นความชัดเจนจากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน”นายไตรเตชะ กล่าว 

สำหรับยอดขายของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 5,500 ล้านบาท มั่นใจว่าทั้งปี 2558 จะทำได้ตามเป้าหมาย 23,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ในปี 2558 มั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 22,000 ล้านบาท เติบโต 15% จากปี 2557 โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 39,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2558 นี้ประมาณ 19,000 ล้านบาท 

นายไตรเตชะกล่าวว่า แม้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์จะมีการปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อโครงการแนวราบมากกว่าคอนโดมิเนียม เนื่องจากโครงการแนวราบหากลูกค้าตัดสินใจซื้อสามารถกู้เงินได้ในอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน ต่างจากคอนโดมิเนียมที่ต้องใช้เวลานานในการกู้ และส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อบริษัทนั้น คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.9% จากปี 2557 ที่เฉลี่ย 5.6-5.7% ซึ่งเป็นผลจากสถาบันการเงินมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากมีความกังวลหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลทำให้มีความสามารถในการชำระหนี้น้อยลง