นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ทิสโก้ยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมัน ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในปีนี้ และการขยายตัวของสินเชื่อซึ่งฟื้นตัวต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่เริ่มกลับมาบริโภคและลงทุนมากขึ้น ประกอบกับรายงานผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ดีกว่าคาดค่อนข้างมาก ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มปรับเพิ่มประมาณการผลกำไรของตลาดหุ้นยุโรปในช่วงเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปที่ TISCO ESU แนะนำคือ “ตลาดหุ้นเยอรมัน” ซึ่งยังคงเป็นประเทศที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป โดยล่าสุดแม้ดัชนีตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) จะปรับฐานลงมาราว 10% จากจุดสูงสุดในเดือนเมษายนจากความกังวลเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ และการเทขายพันธบัตรทั่วโลกในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาก็ตาม แต่เชื่อว่าทั้งสองประเด็นจะเริ่มคลี่คลาย ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ โดยในประเด็นการเจรจาหนี้ของกรีซ ทั้งสองฝ่ายเริ่มมีท่าทีประนีประนอมมากขึ้น โดยดูจากการเมืองในประเทศกรีซเอง ซึ่งผลการสำรวจความนิยมภายในประเทศชี้ว่า ประชาชนเกินกว่าครึ่งต้องการเป็นสมาชิกยูโรต่อไปและพร้อมยอมรับเงื่อนไขในการขอเงินช่วยเหลือ ส่วนในฝ่ายสหภาพยุโรปก็เริ่มมีท่าทีอ่อนลงในการเจรจาครั้งล่าสุดเช่นกัน

ส่วนประเด็นความผันผวนในตลาดพันธบัตรคาดว่าจะคลี่คลายลงเช่นกัน เนื่องจากอุปทานของพันธบัตรในยุโรปที่ลดลงจะส่งผลให้ Yield ปรับตัวลดลงในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า โดยกำหนดการออกพันธบัตรใหม่ในยุโรปมีแนวโน้มลดลงในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมขณะที่พันธบัตรจำนวนมากมีกำหนดไถ่ถอน ซึ่งทำให้ปริมาณพันธบัตรในตลาดมีแนวโน้มลดลง

“จากการที่หุ้นยุโรปปรับฐานในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ valuation ของตลาดหุ้นเยอรมันอยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก โดยซื้อขายที่ forward P/E ที่เพียง 13 เท่า เทียบกับตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมที่ 15.5 เท่า และตลาดหุ้นไทยที่ 14 เท่า รวมทั้งจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตลาดหุ้นเยอรมันมีความน่าสนใจลงทุนมากและแนะนำใช้โอกาสในช่วงที่หุ้นเยอรมันปรับฐานเป็นจังหวะเพิ่มพอร์ตลงทุน เพื่อเปิดโอกาสในการรับผลตอบแทน” นายคมศร กล่าว