นายประสัณห์ เชื้อพานิช นายกสภาวิชาชีพบัญชี เปิดเผยว่า สภาวิชาชีพบัญชีกำลังศึกษารูปแบบรายงานการสอบบัญชีแบบใหม่ตามมาตรฐานการสอบบัญชีระหว่างประเทศ และคาดว่าจะประกาศใช้สำหรับการตรวจสอบงบการเงินที่มีรอบระยะเวลาสิ้นสุดในหรือหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2559
สำหรับรายงานของผู้สอบบัญชีแบบใหม่จะเน้นเพิ่มการสื่อสารข้อมูลให้ตรงกับความต้องการและประโยชน์ของผู้ใช้ โดยเฉพาะสำหรับงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้เพิ่มเนื้อหาเรื่องสำคัญในการตรวจสอบ (Key Audit Matters) ซึ่งเป็นการให้ความเห็นของผู้สอบบัญชีในเรื่อง 1.เรื่องที่มีความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ผู้สอบบัญชีประเมินไว้ว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในงบการเงิน 2.เรื่องที่ต้องใช้ดุลยพินิจที่สำคัญของผู้สอบบัญชีในการตรวจสอบ ซึ่งมักเป็นการตรวจสอบรายการบัญชีที่ผู้บริหารใช้ดุลยพินิจในการประมาณการทางบัญชี และรายการเหล่านี้เป็นประมาณการ ที่มีความไม่แน่นอนสูง 3.ผลกระทบต่อการตรวจสอบ เหตุการณ์หรือรายการที่สำคัญ
นายประสัณห์กล่าวว่า รายงานของผู้สอบบัญชีแบบใหม่นี้ไม่ได้ทำให้กระบวนการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเพียงแต่ผู้สอบบัญชีต้องใช้ดุลยพินิจในการเลือกเรื่องสำคัญในการตรวจสอบที่จะนำเสนอในรายงานของผู้สอบบัญชี ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งบการเงินมีความเข้าใจ และใช้ประโยชน์จากงบการเงินได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันสภาวิชาชีพบัญชีมีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 60,000 คน
ทั้งนี้ได้เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องรายงานผู้สอบบัญชีแบบใหม่แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการจัดทำรายงานทางการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างกว้างขวาง โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.fap.or.th/ข่าวบัญชีแต่ละด้าน/ด้านการสอบบัญชี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี