นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมรถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ วงเงิน 276,000 ล้านบาท ว่าได้มีการหารือใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1)เรื่องต้นทุนของโครงการที่ให้คณะทำงานของทั้ง 2 ฝ่าย กลับไปดูในรายละเอียดของรายการที่จำเป็นและไม่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนในการก่อสร้าง ซึ่งทางญี่ปุ่นได้เสนอแนวทางการลดต้นทุนดังกล่าวโดยการดำเนินการระยะจากกรุงเทพฯ-พิษณุโลก อาจต้องแบ่งย่อยและบางสถานีอาจต้องถูกตัดออกไป เช่น สถานีพิจิตร และสถานีลพบุรี เป็นต้น แต่ถ้าตัดออกไปจะมีผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสาร ซึ่งมองว่าตัดสถานีออกแล้วต้นทุนลดลงจริงแต่ไม่คุ้มค่ากับที่จำนวนผู้โดยสารหายไป จึงต้องศึกษาให้รอบคอบอีกครั้ง
2) ประเด็นด้านความเร็วกระทรวงยืนยันว่ายังคงใช้ระบบและเทคโนโลยีของรถไฟความเร็วสูงชินคันเซนที่ความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น หากความเร็วต่ำกว่านี้ประชาชนส่วนใหญ่จะเลือกใช้การเดินทางรูปแบบอื่น จากรายงานการศึกษายังระบุอีกว่าถ้าหากระยะทาง 500 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะเกิดความคุ้มค่า หากเป็นรถไฟความเร็วสูงควรมีระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร และจุดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 749 กิโลเมตร
3) ประเด็นเรื่องของความเชื่อมโยงควรจะเชื่อมต่อระหว่างประเทศเช่นเดียวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนที่มีความต้องการในการเดินทางของประชาชนจีนสูง โดยกระทรวงคมนาคมเสนอให้พิจารณาความเชื่อมโยงฝั่งตะวันออก-ตะวันตก ในเส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร ที่เชื่อว่าในอนาคตจะมีศักยภาพอย่างแน่นอน โดยทางญี่ปุ่นจะเข้ามาช่วยทำการศึกษาในเส้นทางบ้านไผ่-นครสวรรค์ และในเส้นทางนครสวรรค์-แม่สอด ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เป็นผู้ศึกษา
สำหรับการพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทางของโครงการและบริเวณสถานีนั้น ถือเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้โครงการมีความคุ้มค่าสูงสุด หากเน้นเฉพาะการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟความเร็วสูงนั้นจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ประมาณ 7% และถ้าพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว EIRR จะอยู่ที่ประมาณ 14% ในส่วนของการลงทุน อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อหาแหล่งเงินทุนของโครงการ เบื้องต้นอาจจะเป็นรูปแบบของการร่วมทุนทั้งโครงการระหว่างไทยและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องหารือร่วมกับญี่ปุ่นอีกครั้ง และเตรียมเสนอความเป็นได้ของโครงการรถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาภายในมีนาคมนี้
“เส้นทางเชียงใหม่นั้นก็สามารถพัฒนาในเรื่องของการขนส่งสินค้าด้วย แต่รถไฟความเร็วสูงไม่ได้ใช้ในเรื่องของการขนส่งสินค้าจะใช้เฉพาะขนส่งผู้โดยสารเพื่อให้ความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย ทางญี่ปุ่นก็จะกลับไปทำการบ้านเพิ่มในเพื่อนำมาประกอบข้อมูลในการนำเสนอ ครม.ต่อไป ส่วนที่ญี่ปุ่นเสนอให้ตัดบางสถานีออกเพื่อลดต้นทุนนั้นก็ได้ขอให้ทางญี่ปุ่นกลับไปดูรายละเอียดอีกครั้งว่ารายการแต่ละเรื่องมีความถูกต้องมากน้อยแค่ไหนหรืออาจจะมีรายการอื่นๆ อีกที่ตัดได้ ซึ่งก็เป็นอีกโจทย์หนึ่งที่ต้องศึกษา โดยทางญี่ปุ่นก็เสนอมาทางญี่ปุ่นมีเงินกู้พร้อมและให้ดอกเบี้ยถูกด้วย แต่เราต้องการลดภาระหนี้ จึงต้องช่วยกันพิจารณาว่ามีรูปแบบอื่นหรือไม่ที่จะลดภาระได้เช่นการร่วมทุนเป็นต้น” นายอาคม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี