11 เม.ย.61 นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เปิดเผยถึงผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัย ณ สิ้นปี 2560 ทั่วประเทศ โดยประมาณการจำนวนทรัพย์สินที่ต่างชาติซื้อ ดังนี้

1.ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีการซื้อขายกันเฉพาะภายในปี 2560 มีถึง 576,396 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 113,280 ล้านบาท ถูกซื้อโดยชาวต่างชาติ หรือราวร้อยละ 20 ซึ่งหากประเทศไทยมีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เช่น ณ อัตราร้อยละ 1 ก็จะได้ภาษีถึง 5,764 ล้านบาทแล้ว

2.ชาวต่างชาตินิยมซื้อที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมากที่สุด โดยมีมูลค่าสูงสุดถึง 83,170 ล้านบาท จากหุ้นค่าการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั้งหมด 415,852 ล้านบาท ณ ปี 2560 หรือประมาณร้อยละ 20 ของทั้งหมด

3. ณ มูลค่า 415,852 ล้านบาทในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้นมีส่วนแบ่งถึงร้อยละ 72 ของมูลค่าของที่อยู่อาศัย 576,396 ล้านบาทในปี 2560

“เมื่อ 10 ปีก่อน ศูนย์ข้อมูลพบว่าการซื้อขายที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครมีสัดส่วนเพียงครึ่งหนึ่งของทั่วประเทศ แต่ในภาวะที่เกิดการซบเซาในจังหวัดภูมิภาค จึงทำให้ส่วนแบ่งของเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก” นายโสภณ กล่าว

4.ในทำนองเดียวกันมูลค่าการซื้อขายที่อยู่อาศัยในปี 2560 ในเขตกรุงเทพมหานครและมณฑลที่ชี้ถึง 83,170 ล้านบาทนั้น มีส่วนแบ่งร้อยละ 74 ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดทั่วประเทศที่ 113,280 ล้านบาท กรุงเทพมหานครจึงเป็นพื้นที่สำคัญที่ต่างชาติสนใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทย 5.สำหรับอันดับสองของประเทศไทยก็คือเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบว่ามีการซื้อขายกันถึง 21,746 ล้านบาท ทั้งนี้ประมาณร้อยละ 30 หรือ 6,524 ล้านบาท เป็นการซื้อขายโดยชาวต่างชาติ

“จะเห็นได้ว่าเมืองอันดับสองมีส่วนแบ่งการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเพียง 4% เท่านั้น มูลค่าการซื้อขายในพัทยาเป็นเพียงส่วนน้อย ขนาดตลาดของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลใหญ่กว่าพัทยาถึง 19 เท่า อย่างไรก็ตามหากรวมมูลค่าการซื้อขายของจังหวัดชลบุรีทั้งหมด จะมีมูลค่าขนาดใหญ่กว่านี้มาก” นายโสภณ ระบุ

และ 6.ส่วนเมืองอันดับสามคือภูเก็ต ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มากที่สุดเป็นอันดับสอง ณ ปี 2560 มีต่างชาติซื้อรวมทั้งหมด 5,448 ล้านบาท จากที่มีการซื้อขายทั้งหมด 18,161 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปัจจุบันต่างชาตินิยมซื้อสังหาริมทรัพย์โดยมักเป็นชาวญี่ปุ่น ชาวยุโรป สแกนดิเนเวีย รัสเซีย และจีนในระยะหลัง การให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่มีในข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามต่างชาติก็สามารถซื้อได้ หากมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาบำรุงประเทศ

“ยิ่งกว่านั้นประเทศไทยยังขาดระบบฐานข้อมูลการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของประเทศไทยที่ควรปรับปรุง เชื่อว่าถ้ามีการจัดการข้อมูลที่ดี จะได้จำนวนคนซื้อและมูลค่าซื้อขายมาก แต่เชื่อว่าที่ผ่านมา การซื้อขายเป็นไปในลักษณะที่ซื้อในนามบุคคลอื่น ซื้อในนามบริษัทบ้าง จึงไม่เป็นที่เปิดเผยนัก” นายโสภณ กล่าวทิ้งท้าย