4 ส.ค.61 พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า โครงการนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในการใช้ชีวิตประจำวันให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และต้องการนำข้อมูลของประชาชนมาจัดทำนโยบายเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด อีกทั้งยังต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยได้พัฒนาชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการดังกล่าวมีประชาชนลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งสิ้น 14.1 ล้านคน ผ่านหลักเกณฑ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน ซึ่งขณะนี้ได้รับบัตรไปแล้ว 97% โดยสวัสดิการจากบัตรดังกล่าวในเฟสแรก ระหว่างเดือน ต.ค.60 – มิ.ย. 61 สำหรับผู้มีรายได้เกิน 3 หมื่นบาทแต่ไม่ถึง 1 แสนบาทต่อปี จะได้รับเงินจับจ่ายซื้อสิ่งของจำเป็นในร้านค้าที่มีเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 3 หมื่นบาทต่อปีจะได้รับ 300 บาทต่อเดือน โดยเฟสสอง ระหว่างเดือน ก.พ.61-ก.ค.61 จะมีการปรับเพิ่มเงินให้กับผู้เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาชีพที่ภาครัฐจัดให้ เป็น 300 และ 500 บาท ตามลำดับ
“ในเฟสสองจะเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้สะดวกขึ้น โดยโครงการเงินประชารัฐ ที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ในร้านค้าปลีกทั่วไปผ่านแอปพลิเคชั่นของธนาคารกรุงไทย ซึ่งในเดือน ก.ค.นี้มีร้านค้ารายย่อยลงทะเบียนแล้ว 1.5 หมื่นร้านค้า คาดว่าในเดือน ก.ย. จะมีร้านค้าเข้าร่วม 1 แสนแห่ง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการหักภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ใช้บัตรประชารัฐ โดยจะเป็นเงินคืนเข้าบัตรในเดือนต่อไป ถ้าไม่มีข้อติดขัดอะไรจะสามารถเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ในปลายปีนี้ และรัฐบาลจะพยายามรับฟังความคิดเห็นเพื่อพัฒนาการให้บริการประชาชนต่อไป” พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี