พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวระหว่างเดินทางไปทัศนศึกษา ณ ห้องแสดงเทคโนโลยีของ บริษัท เอ็นทีที โดโคโมะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 มีนาคม2556ว่า ได้ศึกษาเทคโนโลยี และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ 4G (LTE) เพราะประเทศญี่ปุ่นกำลังจะเปิดบริการ 4G ในย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz)เช่นเดียวกับประเทศไทย
สำหรับ เอ็นทีที โดโคโมะ นับเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของโลกที่กำลังปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นผู้ให้บริการหลากหลายที่ต่อยอดจากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หลัก ที่รองรับลูกค้าทั่วประเทศบน 3G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และโครงข่าย 4G ซึ่งเปิดให้บริการในย่าน 1500 เมกะเฮิรตซ์ และ 2.1 กิกะเฮิรตซ์(GHz) ส่วนในย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์จะเปิดบริการในปีนี้ ซึ่งนับเป็นโครงข่ายแรกๆของโลกที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ และยังสร้างความแตกต่างด้วยการพัฒนาระบบช่วยเหลือในการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน เอ็นทีที โดโคโมะ มีลูกค้าใช้บริการรวม 61 ล้านราย คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด ราว 48% จากจำนวนประชากรรวมในประเทศ 120 ล้านราย ส่วนบริการ 4Gมีลูกค้าใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ล้านราย
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมการรองรับการเปิดให้บริการ4G ในอนาคตว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทค. ในวันที่ 20 มีนาคม 2556นี้ จะมีการเสนอตั้ง คณะกรรมการจัดการบริหารคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งจะเป็นคณะทำงานสำหรับจัดการประมูลคลื่นความถี่ 4G (LTE) โดยคณะทำงานฯชุดนี้ จะมีลักษณะคล้ายกลับคณะทำงานจัดการประมูลคลื่นความถี่ 3G 2.1 กิกะเฮิรตซ์ โดยจะมีการจัดทำแผนการประมูล วิธีการประมูล ราคาคลื่นความถี่ทั้ง 20 เมกะเฮิรตซ์ หรือ 4 ชุดคลื่นความถี่ จำนวนชุดละ 5 เมกะเฮิรตซ์ว่าจะมีราคาเท่าไร โดยแผนการประมูล 4G นี้เดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในตุลาคม2556ปี 2556 แต่ต้องเลื่อนไปปลายปีหน้า เพราะติดปัญหาด้านกฎหมาย และยอมรับว่าติดปัญหาการเรียกคืนคลื่นจากบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน)
"เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งในการประชุมบอร์ดกทค.วันที่ 20 มีนาคม 2556นี้ หากอนุมัติตั้งคณะทำงานแล้วเสร็จ เราก็จะเดินหน้าเตรียมการประมูลทันที ซึ่งการเตรียมการจะทำควบคู่ไปกับการร่างแผนการเยียวยาลูกค้าที่อยู่ในระบบ 2G และการหาข้อสรุปในประเด็นกฎหมายด้วย" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
ปัจจุบันคลื่น1800 กสท ได้ให้สัมปทานกับ บริษัททรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) และสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน2556 มีผู้ใช้บริการค้างอยู่ในระบบราว 18 ล้านราย โดย กสทช.มีเยียวยาลูกค้า คาดว่าจะยกร่างแผนเยียวได้เสร็จภายใน 3 เดือน หรือราวเดือนมิถุนายน2556นี้ ส่วนทาง กสท ผู้เป็นเจ้าของสัญญาสัมปทานก็ต้องส่งแผน และมาตรการเยียวลูกค้า และดูแลลูกค้าในระบบด้วยเช่นกัน
ขณะที่นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกสทช. ด้านกฎหมายในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า กสทช.จะขอความร่วมมือในการขอคืนคลื่น แต่ถ้าหากไม่ให้ความร่วมมือก็จำเป็นต้องใช้ทุกมาตรการเพื่อบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาด ทั้งมาตรการทางปกครอง มาตรการทางแพ่ง และอาญา ซึ่งกรณีที่มีการฝ่าฝืนใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งๆที่ได้มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้วว่าหมดสิทธิ์ใช้ และหากไปสนับสนุนให้มีการลงทุน หรือหาลูกค้าเพิ่ม ก็เท่ากับว่ามีเจตนาจะกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงขอเตือนว่าผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจะต้องรับความเสี่ยงต่อบทกำหนดโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนบทบาทของ กสทช.เอง ก็ต้องดำเนินการมิฉะนั้นจะถูกข้อหาฐานปฎิบัติหน้าที่ไม่ชอบ หรือ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ไปด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี