'โต้ง'ผวาเจ๊งจำนำข้าว
เกิน2.6แสนล.
หักพณ.ตั้ง‘สุภา’กลับ
นั่งเก้าอี้ปธ.กก.ปิดบัญชี
‘บุญทรง’ลุยแจงชาวนา
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าได้มีการแต่งตั้งให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ดูแลด้านสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กลับมารับหน้าที่ประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตรอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
คลังงัดพณ.ตั้ง‘สุภา’กลับปธ.ปิดบัญชี
แหล่งข่าวในกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่น.ส.สุภาประเมินไว้ว่าจะขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท สร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายการเมือง เป็นเหตุให้น.ส.สุภาต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว แต่ขณะนี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เริ่มจะมีความขัดแย้งกับกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ในเรื่องข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวที่ไม่ตรงกัน
โดยกระทรวงการคลังเห็นว่า สมควรให้น.ส.สุภากลับมาทำหน้าที่เป็นประธานปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวต่อไปเพื่อจะให้ข้อมูลของการรับจำนำออกมาตามความเป็นจริงมากที่สุด และนายกิตติรัตน์จะยึดข้อมูลที่คณะกรรมการปิดบัญชีฯของน.ส.สุภาสรุปเป็นหลัก อีกทั้ง เป็นข้อมูลที่ส่งให้กระทรวงพาณิชย์ใช้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน แต่กลับถูกกระทรวงพาณิชย์ปฎิเสธ ทำให้เกิดความขัดแย้งดังกล่าว
‘โต้ง’ผวาเจ๊งมากกว่า2.6แสนล.
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ขณะนี้นายกิตติรัตน์และผู้บริหารกระทรวงการคลัง เริ่มวิตกกับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวมากขึ้น เมื่อข้อมูลล่าสุดสรุปว่า มีการใช้เงินไปสูงสุดถึง 6.6 แสนล้านบาท จากที่ตั้งเป้าจะใช้ไม่ให้เกิน 5 แสนล้านบาท รวมถึงยังมีข้าวค้างสต๊อกอีกจำนวนมาก เพราะระบายข้าวไม่ได้ เนื่องจากราคารับจำนำข้าวสูงกว่าราคาตลาด ทำให้มีแนวโน้มว่าจะขาดทุนเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ข้าวที่เก็บไว้เสื่อมสภาพลงทุกวัน คาดว่าจะขาดทุนมากกว่า 2.6 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังวิตกในเรื่องข้อมูลโครงการจำนำข้าวที่ขัดแย้งกัน ซึ่งเป็นปัจจัยให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ ออกมาขู่ว่าจะปรับลดเครดิตลง โดยกระทรวงการคลังต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนจากกระทรวงพาณิชย์ก่อน จึงจะทำหนังสือชี้แจงมูดี้ส์ต่อไป
แหล่งข่าวระบุอีกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายบุญทรงเตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเรียกประชุมด่วน โดยมีน.ส.สุภามาชี้แจงข้อมูลการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวที่สูงถึง 2.6 แสนล้านบาท ว่าข้อมูลเป็นอย่างไร บุญทรงนำทีมแจงล้างสมองชาวนา
วันเดียวกัน ที่หอประชุมจักรกฤษณ นาคะรัต โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กระทรวงพาณิชย์ นำโดย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เดินสายจัดเสวนา จำนำข้าวสัญจร จับเข่าคุยเกษตรกรชาวนา เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลให้กับชาวนา หลังโครงการดังกล่าวถูกโจมตีอย่างหนักว่าตัวเลขขาดทุนสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท
แผ่นเสียงตกร่องโต้ขาดทุน2.6แสนล.
โดยนายบุญทรงยืนยันว่า ตัวเลขขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปีแรกขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท นั้นไม่เป็นความจริง เป็นข้อมูลที่นำเสนอ แต่ยังไม่มีการยืนยัน กระทรวงพาณิชย์เร่งตรวจสอบที่มาที่ไป ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลทำโครงการ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าทำความเสียหายให้ประเทศชาติ จึงเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด มาทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงของโครงการรับจำนำข้าวโดยพูดคุยกับเกษตรกรชาวนาที่จ.พิษณุโลกเป็นแห่งแรก และจะเดินสายในพื้นที่ภาคอื่นต่อไป
“แม้โครงการรับจำนำข้าวใช้เม็ดเงินมากก็จริง แต่เงินเหล่านั้นจะลงไปสู่มือเกษตรกรอย่างแท้จริง มีระบบการจ่ายเงินที่ชัดเจน มีการบันทึก มีหน่วยงานออกตรวจสอบไม่ให้ชาวนาถูกเอารัดเอาเปรียบ ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการจำนำข้าวต่อไป แต่เราต้องมีความมั่นใจร่วมกันว่า เม็ดเงินที่ลงไปมีผลบวกกับชาวนา ย้อนกลับมาส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ”นายบุญทรงกล่าว
และว่า ในปีที่สองของโครงการรับจำนำข้าว ทั้งข้าวเปลือกนาปรังและนาปี รัฐใช้เงินไปประมาณ 6 แสนล้านบาท มีข้าวเปลือกมาอยู่ในมือรัฐบาล และแปรสภาพเป็นข้าวสารเพื่อระบายออก และนำเงินคืนรัฐบาลไปแล้ว 1.2 แสนล้านบาท เราดำเนินโครงการด้วยความระมัดระวัง และรัฐบาลไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ
ซัดฝ่ายค้านอิจฉา-กลัวเสียคะแนน
ด้านนายทนุศักดิ์กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สามารถจ่ายเงินถึงมือชาวนาได้ มีปัญหาเดียวคือ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเกินกว่า 5 แสนบาท ที่ต้องมีคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นข้าวของเกษตรกรจริง ป้องกันการสวมสิทธิ์อีกทั้ง ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา โครงการรับจำนำข้าวถูกโจมตีมาตลอด จึงต้องตรวจสอบการรับจำนำให้ชัดเจน ทำให้เกษตรกรได้รับเงินล่าช้า โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลไม่ต้องการให้โครงการนี้สำเร็จ ถ้าสำเร็จ เลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนก็จะเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารอีก ขอยืนยันว่า รัฐบาล จะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป
‘เต้น’โยนกขช.เคาะตัวเลขเจ๊ง
ขณะที่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทุกโครงการที่รัฐบาลทำ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร ไม่ว่าจำนำข้าว หรือ แทรกแซงราคา เป็นโครงการที่ไม่ประสงค์กำไร ในโลกของความเป็นจริงคือ ควักเงินของรัฐบาลอุดหนุนเกษตรเป็นหลัก หลังรัฐบาลเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวมา ดึงดูดให้ชาวนานำข้าวมาเก็บกับรัฐ เมื่อข้าวถูกดูดออกจากตลาดมาอยู่ในมือรัฐมาก มาอยู่ในมือรัฐ ขณะที่ความต้องการข้าวในประเทศและตลาดต่างประเทศยังมีอยู่ ส่งผลให้ราคาข้าวถูกปรับสูงขึ้น ชาวนาที่ร่วมจำนำข้าว ก็ได้เงินเพิ่มตามสภาพความเป็นจริงของคุณภาพข้าวและความชื้น ชาวนาที่ไม่ได้จำนำข้าว ก็ได้ประโยชน์จากราคารับซื้อที่สูงขึ้น
“ถามว่าขาดทุนหรือไม่ ขาดทุนแน่นอน โครงการรับจำนำข้าว มีคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ที่ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมอบหมายให้รองปลัดฯทำข้อมูลปิดบัญชี ตัวเลขเหล่านี้ ขาดทุนเท่าไหร่ จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผ่านที่ประชุมคณะกรรมการข้าว (กขช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่ที่น่าประหลาดใจคือ วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้ประชุมคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ และสรุปเป็นเอกสารลับแต่ข้อมูลกลับมาโผล่ในเฟซบุ๊คของรองนายกฯสมัยที่แล้วว่า ปีแรกของการจำนำข้าว รัฐขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท” นายณัฐวุฒิระบุ
ยันเดินหน้าจำนำต่อ-ฟุ้งรายได้เพิ่ม
รมช.พาณิชย์ผู้นี้ยังยืนยันว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่มีที่มาที่ไป มาจากคนที่แถลงข่าวโจมตีรัฐบาล ทั้งเฟซบุ๊ค และการแถลงข่าวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ล่าสุดแถลงว่า 2.2 แสนล้านบาท และขาดทุนดำเนินการ 4 หมื่นล้านบาท จนถึงขณะนี้ เอกสารจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ก็ยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุม กขช. อย่างเป็นทางการ จะมาคาดคั้นให้กระทรวงพาณิชย์ตอบว่าขาดทุนเท่าไหร่ จึงยังสรุปไม่ได้
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า ตัวเลขจากธ.ก.ส.รายงานให้เห็นว่า มีเม็ดเงินเข้าถึงมือชาวนาในปีแรกของโครงการรับจำนำข้าว ข้าวนาปีฤดูการผลิต2554/2555 มีข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการ 6.95 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 118,000 ล้านบาท ข้าวนาปรังฤดูการผลิต 2555 มีข้าวเข้าโครงการ 14.7 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 218,000 ล้านบาท รวมปีแรก มีข้าวเข้าโครงการ 21.65 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 337,000 ล้านบาท
ในปีที่สองของโครงการ ฤดูการผลิต 2556 รอบแรก มีข้าวเข้าโครงการ 14.02 ล้านตัน โอนเงินเข้าเกษตรกร 228,000 ล้านบาท รอบที่สอง ข้าวเข้าโครงการ 3.45 ล้านตัน โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 52,000 ล้านบาท รวมโครงการรับจำนำข้าวสองปี โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรแล้ว 618,000 ล้านบาท ส่งผลให้เกษตรกรที่เป็นชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานที่ปลูกข้าวมาก และรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ส่วนตัวเลขการขาดทุนนั้น จะไปสรุปแน่ชัดในที่ประชุม กขช.ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 13 มิถุนายน และกระทรวงพาณิชย์จะเดินสายจัดเวทีสัญจรพบเกษตรกรทั่วประเทศต่อไป
ส.ชาวนาสงสัยปิดบังตัวเลขจริง
ด้านนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งการที่กระทรวงพาณิชย์ไม่ชัดเจน และไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขขาดทุน ถือเป็นเรื่องน่าสงสัย เพราะโครงการรับจำนำข้าว ทำต่อเนื่องมา 2 ปี ตัวเลขหรือข้อมูลต่างๆ จะต้องอยู่ในหัว หรือทุกเดือนก็ต้องจดบันทึกทั้งปริมาณข้าว ราคาที่ขาย เงินที่ได้จากการขายข้าว จึงไม่ใช่เรื่องยากในการเปิดเผยข้อมูล
ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถยุติโครงการรับจำนำข้าวได้ แต่ต้องหาหนทางทำให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไป โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมาก ซึ่งแนวทางปรับลดวงเงินรับจำนำข้าวสามารถทำได้ หากรัฐบาลเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่แท้จริงออกมาให้ชัดเจนว่ามีจำนวนเท่าไร เพราะเมื่อชาวนาเห็นข้อมูลที่แท้จริง เชื่อว่าชาวนาน่าจะเข้าใจ ถึงสาเหตุที่ต้องปรับลดวงเงินรับจำนำ
ปชป.บี้นายกฯปูอย่าลอยตัว
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์แถลงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไม่ควรลอยตัวจากปัญหานี้ เนื่องจากเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ต้องเข้ามารับผิดชอบทำความจริงให้กระจ่างว่าตัวเลขขาดทุนเป็นเท่าใด ทั้งนี้ โครงการนำจำข้าวที่รัฐบาลดำเนินการ มีปัญหาทั้งขาดทุนหนักอย่างที่ไม่ควรจะเป็น และมีการทุจริตรั่วไหลครบวงจรตั้งแต่รับจำนำ เก็บรักษา และระบายข้าว แต่รัฐบาลก็ปล่อยให้ดำเนินการต่อ นายกฯไม่ได้ดำเนินการใดๆเพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ดักคออย่าให้ขรก.แก้ตัวเลขเจ๊ง
“สัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ซึ่งจะพิจารณาเรื่องการรับจำนำข้าวทั้งระบบ รวมทั้งตัวเลขการดำเนินโครงการที่ขาดทุนมโหฬาร ตนเชื่อว่าจะมีความพยายามแก้ไขตัวเลขของทางราชการเกี่ยวกับการขาดทุนในโครงการนี้ เพื่อให้ตัวเลขการขาดทุนต่ำอย่างที่รัฐบาลต้องการ จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่าอย่าปล่อยให้นักการเมืองที่ไม่มีความสามารถในการบริหารโครงการจำนำข้าว สมรู้ร่วมคิดกับข้าราชการบางคนดำเนินการเช่นนี้ นายกฯต้องกล้าพูดความจริงกับประชาชน มากกว่าบิดเบือนข้อมูล”นายองอาจกล่าว
พท.ซัดปชป.ยกเมฆโจมตีจำนำข้าว
มีความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย เริ่มออกมาตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ ที่โจมตีโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลระบุขาดทุนสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างวาทกรรมลักษณะยกเมฆของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เอาตัวเลขจากการรายงานข่าว ซึ่งยังไม่มีการตรวจสอบมาตัดแปะ โจมตีรัฐบาล
“โต้ง-บุญทรง”แจงพรรค11มิ.ย.
โดยนายพร้อมพงศ์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบนโยบายโครงการรับจำนำข้าว ของคณะทำงานพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์กับประชาชน การระบายข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขายข้าวได้ดีกว่ารัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์ในโครงการประกันราคา และเกษตรกรได้ประโยชน์จากการจำนำข้าวเกือบ 5 พันบาทต่อตัน และในวันที่ 11 มิถุนายน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์จะมาชี้แจงข้อสงสัยเรื่องโครงการจำนำข้าวต่อที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย
เอาคืนปชป.ยื่นสอบประกันราคา
โฆษกพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ขายข้าวได้ดีกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ที่มีโครงการประกันราคาข้าว จากการตรวจสอบพบว่า โครงการประกันราคาข้าวเป็นการทำงานบนกระดาษ ไม่เห็นเม็ดข้าว ส่อทุจริตตั้งแต่ต้นทางทั้งการลงทะเบียนสวมสิทธิเป็นชาวนา การกดราคา การแจ้งจำนวนที่นาเกินจริง เป็นความร่วมมือของกลุ่มบุคคล โรงสี ข้าราชการ และนักการเมือง และโครงการดังกล่าวขาดทุนถึง 1.3 แสนล้านบาท ไม่ใช่ 60,000 ล้านบาทตามที่พูด ขณะนี้ข้อมูลส่วนหนึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว และในวันที่ 10 มิถุนายน เวลา 10.00 น.จะไปยื่นหลักฐานต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการประกันราคา สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ขอท้านายอภิสิทธิ์ว่า ถ้าจะคว่ำโครงการจำนำข้าว ขอให้ขึ้นป้ายทั่วประเทศว่าไม่เอาโครงการนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี