นส.รัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการ ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ(BOI ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากได้ทะยอยเข้ามาซื้อพื้นที่ในการตั้งนิคมอุตสาหกรรม หรือตั้งโรงงานใหม่และขยายกิจการในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี (Asean Economic Community-AEC)  โดยเฉพาะนักลงทุนจีนที่อยู่ระหว่างการเจรจาขอซื้อพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ในจ.ขอนแก่น  เพื่อจัดตั้งนิคมฯ ตอบสนองความต้องการนักลงทุนจีน ญี่ปุ่น  ยุโรป และไทย  ที่จะลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมสีเขียว หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

              “ พื้นที่ส่วนใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ไม่มีปัญหาชาวบ้านคัดค้าน และที่สำคัญการเข้ามาตั้งโรงงานที่เป็นลักษณะสีเขียว ไม่มีปัญหาสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้”นส.รัตนวิมล กล่าว

                ขณะที่นักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากที่เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับพื้นที่นิคมฯ ในภาคอีสานเช่นกัน เพื่อที่จะเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่เตรียมย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในประเทศไทย รวมถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่จะขยายกิจการออกมาจากภาคตะวันออก ที่มีปัญหาพื้นที่การลงทุนเหลือน้อย

                “พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายแห่งมีนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศทะยอยเข้ามาซื้อที่ดินในการตั้งโรงงานกันมาก ส่งผลให้ที่ดินของชาวบ้านปรับเพิ่มสูงมาก เพราะนักลงทุนมองว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมเหมือนกับภาคกลาง และที่สำคัญสามารถกระจายสินค้าไปยังประเทศลาว กัมพูชา และ เวียดนามได้ง่าย หลังจากที่มีการเปิดเออีซี แล้ว

                 นส.รัตนวิมล กล่าวอีกว่า  อย่างไรก็ตามยังมีนักลงทุนไทยหลายรายที่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แสดงความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างพม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รองรับการเปิดเออีซีเช่นกัน ในเบื้องต้นบีโอไอได้นำผู้ประกอบการไปศึกษาลู่ทางการลงทุน รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างความสะดวกผู้ประกอบการไทย