ผู้บริหาร ส.อ.ท. วอนนายกฯ อย่ายุบสภาฯ โอดยังซมพิษค่าแรง300บาทไม่หาย กลัวจะนำนโยบายค่าจ้าง 400 บาทมาหาเสียงครั้งหน้าอีก แฉห้างสรรพสินค้า บีบโรงงานเอสเอ็มอี ลดราคาสินค้าลง 10-20% อ้างนำสินค้าไปจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถมในช่วงเทศกาล
นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยการเมืองยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเรื่องของนโยบาย ดังนั้นภาคเอกชนไม่ต้องการให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุบสภาฯ ก่อนกำหนด เพราะหากยุบสภาฯก่อนกำหนด เกรงว่าพรรคการเมืองจะมีการนำนโยบายปรับค่าจ้างขั้นต่ำจากวันละ 300 บาทเป็น 400 บาท มาหาเสียง เพื่อหวังผลชนะการเลือกตั้นขึ้นมาก็ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนเพิ่มขึ้น
“ค่าแรงวันละ 300 บาทก็ทำให้ผู้ประกอบการแย่อยู่แล้ว เพราะมีต้นทุนสูงแถมยังขายของได้ลำบากซึ่งที่ผ่านมาก็มีการปรับตัว โดยบางรายก็ปรับตัวได้แล้วและบางรายก็ยังไม่สามารถปรับตัวได้ ดังนั้นนายกฯ ยิ่งลักษณ์ยังไม่ยุบสภาฯ ในช่วงนี้อย่างน้อยก็คงไม่มีเรื่องของค่าจ้างขั้นต่ำพุ่งแบบก้าวกระโดดอีกในช่วง 1-2 ปี”นายธนิต กล่าว
สำหรับปัจจัยที่เอกชนมองว่าในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวมาจากโครงการลงทุนของรัฐบาลทั้งเรื่องน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทก็เริ่มทะยอยเข้าสู่ระบบแล้ว
อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงที่ภาคเอกชนยังกังวล คงเป็นเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ยังซบเซาทั้งในส่วนของสหรัฐฯ ยุโรป และ เอเซีย โดยเฉพาะเรื่องของการว่างงานในกลุ่มประเทศยุโรปที่อยู่ในระดับ 12% ซึ่งถือว่าสูงมาก รวมถึงปัญหาการขาดแคลนสภาพคล่องของเอสเอ็มอีไทย ซึ่งในส่วนของสภาพคล่องต้องการให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายกว่าเดิม เพราะหากมีสภาพคล่องเข้ามาช่วยเสริมในตอนนี้ก็อาจทำให้ผู้ประกอบการประคองตัวได้ถึงปีหน้า
นายธนิต กล่าวว่า ขณะนี้นอกผู้ประกอบการโรงงานจะประสบกับต้นทุนสูงแล้ว ทาง ห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีก ยังมาเจรจากับโรงงานผลิตสินค้าระดับเอสเอ็มอีลดราคาลง 10-20% เพื่อนำสินค้าดังกล่าวไปจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม รองรับเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ เนื่องจากปัจจุบันบรรดาห้างร้านมีกลยุทธการแข่งขันที่รุนแรงมาก ส่วนใหญ่เน้นการลดราคาเพื่อแย่งลูกค้าและกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ส่งผลให้โรงงานบางส่วนได้รับความเดือดร้อน เพราะหากไม่เข้าร่วมก็จะมีผลกระทบต่อการทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต
ทั้งนี้ที่ผ่านมาโรงงานในภาคอุตสาหกรรมประสบปัญหาจากต้นทุนการผลิตอย่างมาก โดยเฉพาะต้นทุนเรื่องของค่าแรง วัตถุดิบ และประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากไม่สามารถปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาหลายรายได้ทดลองปรับราคาไปแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะลูกค้าหันไปสั่งออเดอร์จากโรงงานที่ไม่ปรับราคาสินค้า
“ตอนนี้ยอมรับว่าภาคการผลิตอาการหนักมาก โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่ต้นทุนสูงแต่ปรับราคาสินค้าได้ลำบาก เนื่องจากภาคการบริโภคของประเทศชะลอตัวอย่างหนักติดต่อมาหลายเดือนแล้ว ขณะที่ห้างร้านต่างๆ ก็จำเป็นต้องหามาตรการในการกระตุ้นกำลังซื้อของบริโภค และแน่นอนผู้ที่ถูกกดราคามากที่สุดคือโรงงานผลิต เพราะหากห้างฯ ลดราคาสินค้า 30-40% ก็ต้องกดราคาจากโรงงานแล้วเกินครึ่งหนึ่งของราคาที่ลดลง”นายธนิต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี