การเดินสายพบ 2 แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคือนายสนธิ ลิ้มทองกุลและพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ของนายบรรหาร ศิลปอาชา ผู้นำเงาพรรคชาติไทยพัฒนา นอกจากจะล้มเหลวไม่เป็นท่ายังถูกเปิดโปงธาตุแท้และสะท้อนให้เห็นถึงปาหี่สร้างภาพสภาปฏิรูปลวงโลกที่ส่อเจตนามุ่งทำทุกอย่างเพื่อนักโทษชายแม้วของรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้
นอกจากจะปัดไม่เข้าร่วมปาหี่สภาปฏิลวงของรัฐบาลหุ่นเชิดเพื่อแม้วอย่างสิ้นเชิงแล้ว ทั้ง นายสนธิ และ พล.ต.จำลอง ฉีกหน้า นายบรรหาร แบบไม่เกรงใจตรงไปตรงมาต่อหน้าเหล่าสื่อมวลชน เริ่มจาก พล.ต.จำลอง ที่ตีแสกหน้าด้วยคำกล่าวที่ว่า รัฐบาลอย่ามัวแต่เล่นเกมสร้างภาพปาหี่ปฏิลวงให้เสียเวลา เพราะต้นตอปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ล้วนเกิดจากพฤติกรรมของรัฐบาลหุ่นเชิดเพื่อแม้วทั้งสิ้น ทั้งเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญและผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีเป้าหมายแอบแฝงมุ่งฟอกโทษความผิดให้ นักโทษชายแม้ว และเหล่าแกนนำเสื้อแดงที่ก่อการร้ายเผาเมืองเมื่อปี 2553 รวมทั้งวางแผนทำลายระบบตรวจสอบถ่วงดุลและผูกขาดอำนาจหวังยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งหากรัฐบาลเลิกพฤติกรรมที่ว่าก็ไม่จำเป็นต้องมีปาหี่สภาปฏิลวงแต่อย่างใด
ส่วน นายสนธิ ถามจี้ใจดำ นายบรรหาร ว่า นักโทษชายแม้ว สมควรกลับมาติดคุกรับโทษตามคำพิพากษาของศาลในคดีทุจริตหรือไม่ ซึ่ง นายบรรหาร ส่อให้เห็นธาตุแท้ด้วยการกล่าวในทำนองแก้ตัวแทนว่า นักโทษชายแม้ว ไม่ได้ทำผิดอะไรและไม่ได้รับความเป็นธรรม
หากคำกล่าวของ นายบรรหาร ดังกล่าวเป็นจริง ก็เท่ากับว่าคำพิพากษาให้จำคุก นักโทษชายแม้ว 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาของศาลเป็นคำพิพากษาที่ไม่เที่ยงธรรม
นายสนธิ ยังดักคอถามซ้ำอีกว่า หากวันหนึ่งมีกฏหมายนิรโทษกรรมให้ นักโทษชายแม้ว จะว่าอย่างไร ซึ่ง นายบรรหาร ถึงกับอึ้งก่อนที่จะตอบแบบหลบเลี่ยงอ้างว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนขอไม่ตอบ
ท่าทีอึกอักเลี่ยงที่จะแสดงจุดยืนกรณีนิรโทษกรรมให้ นักโทษชายแม้ว สะท้อนให้เห็นความไม่จริงใจในการเดินสายเพื่อปฏิรูปการเมืองและสร้างความปรองดอง รวมทั้งชี้ให้เห็นว่า นายบรรหาร ไม่มีหลักคิดในเรื่องหลักนิติรัฐอยู่ในสมองแม้แต่น้อย เพราะหากเป็นคนที่ยึดถือหลักนิติรัฐจริงจะต้องกล้าฟันธงได้ในทันทีว่า เมื่อถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกก็ต้องยอมรับโทษตามคำพิพากษาของศาล ส่วนเมื่อรับโทษแล้วจะมีการออกกฏหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ค่อยมาว่ากันทีหลัง
อีกคำถามของ นายสนธิ ที่ตีแสกหน้า นายบรรหาร ก็คือคำถามที่ว่า นายบรรหาร คิดหรือไม่ว่าตัวเองคือหนึ่งในตัวปัญหาของประเทศ ซึ่งเมื่อเจอคำถามแรงแบบนี้ของ นายสนธิ เจ้าพ่อปลาไหลถึงกับอึกอึกแต่ก็ใช้ความลื่นตีกรรเชียงหนีเอาตัวรอดด้วยการตอบแบบเฉไฉถามม้าตอบช้างว่า ตัวเองไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้นและจริงใจที่จะร่วมมือกับทุกฝ่าย
ในการพบปะระหว่าง นายบรรหาร กับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครั้งนี้ยังการถามถึงวลีเด็ดในอดีตของ นายบรรหาร ที่เคยกล่าวว่าเป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง ซึ่ง
นายบรรหาร บ่ายเบี่ยงอ้างว่าไม่เคยพูดวลีดังกล่าวทั้งๆที่สื่อเคยลงข่าวกันอย่างครึกโครม
เพราะฉะนั้นการเดินสายสร้างภาพพบแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยของนายบรรหารครั้งนี้ถือว่าสอบตกทุกคำถามและขาดทุนป่นปี้ เพราะสะท้อนให้เห็นว่า ตราบใดคุณภาพนักการเมืองเป็นอย่างที่เห็นและเอาแต่สร้างภาพเล่นปาหี่ลวงโลกก็อย่าหวังเลยว่าการเมืองจะเกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี