ดิสนีย์ โปรโมทโปสเตอร์แรก ‘Beauty and the Beast’
เอาใจคอภาพยนตร์ที่สร้างมาจากการ์ตูนเรื่องดัง ดิสนีย์เดินหน้าโปรโมท “Beauty and the Beast” ภาพยนตร์ไลฟ์แอ๊กชั่นเรื่องล่าสุด ด้วยการปล่อยโปสเตอร์แรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ออกมาเรียกน้ำย่อยแฟนๆ
“Beauty and the Beast” ในภาคนี้นำแสดงโดย เอ็มมา วัตสัน, แดน สตีเวนส์, เอียน แมคเคลแลน, ลุค อีแวนส์, จอช แกด, เอ็มมา ทอมพ์สัน และ เควิน ไคล์น โดยมีกำหนดฉายให้เราๆ ได้ชมกันในเดือนมีนาคมปีหน้า
เรื่องย่อของ “Beauty and the Beast” ภาคนี้จะดำเนินเรื่องตามต้นฉบับดั้งเดิม โดยเป็นเรื่องของเจ้าชายหนุ่มรูปงามผู้หยิ่งยโส ซึ่งทั้งเขาและข้าราชบริพารในปราสาทได้ถูกสาปเอาไว้โดยแม่มดผู้ชั่วร้าย ซึ่งทำให้เขาต้องกลายเป็นอสูรหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว จนกว่าเขาได้เรียนรู้ที่จะให้ความรัก และได้รับความรักแท้กลับมา ทางด้านนางเอกของเรานั้นก็เป็นสาวชาวบ้านที่ทั้งสวยทั้งหัวรั้น ที่ต้องเดินทางไปช่วยบิดาที่ถูกจับขังเอาไว้ในปราสาท และก่อให้เกิดเป็นความรักระหว่างโฉมงามกับเจ้าชายอสูรในที่สุด
‘มิลา คูนิส’ สวยเป๊ะได้ไร้เมคอัพ
เรียกได้ว่ากล้ามากๆ จริงๆ สำหรับนางเอกสาวลูกหนึ่ง มิลา คูนิส ที่ต้องมาขึ้นปกนิตยสารแกลเมอร์ ฉบับเดือนสิงหาคม แบบไร้เมคอัพ แต่ก็ยังสวยสมเป็นหวานใจพระเอกหนุ่ม แอชตัน คัชเชอร์
คูนิสให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันไม่ค่อยได้แต่งหน้าอยู่แล้ว ฉันไม่ได้สระผมทุกวันด้วย มันไม่ใช่อะไรที่ฉันจะมานั่งทำให้กับตัวเอง ฉันยกย่องผู้หญิงที่ยอมตื่นให้เร็วขึ้น 30-40 นาที เพื่อมาเขียนอายไลน์เนอร์ ฉันคิดว่ามันสวยนะ แต่ฉันแค่ไม่ใช่คนประเภทนั้น ดังนั้นการที่มาถ่ายทำอะไรสักอย่าง แล้วมีช่างแต่งหน้ามาเติมครีมบนหน้า แล้วส่งฉันออกไปถ่ายรูป ฉันเลยรู้สึกว่า อืม...มันทำให้ชีวิตง่ายขึ้นจริงๆ และคุณก็ยังได้รับการปกป้องอีกด้วย ไม่มีใครอยากทำให้คุณออกมาดูแย่หรอก”
นอกจากนี้ นางเอกสาวยังแสดงอาการไม่ชอบใจต่อการที่สื่อสิ่งพิมพ์มักใช้โฟโต้ช็อปรีทัชภาพมากจนเกินควรอีกด้วยว่า “มีบริษัทหนึ่งที่ฉันเคยถ่ายแบบด้วยครั้งนึง แล้วพวกเขาแต่งรูปมากจนเกินไป ทำให้ฉันรู้สึกว่า นี่มันไม่ใช่ฉันเลยนะ คือมีประโยชน์อะไร คุณต้องการใช้ชื่อของฉัน แล้วคุณก็ต้องการภาพของฉันในแบบที่ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ฉันเกลียดอะไรแบบนี้มากๆ คือตอนนี้ถ้าถามว่าฉันอยากจะให้พวกเขาทำตาของฉันให้บวมน้อยลง แล้วเพิ่มแสงให้กับภาพอีกสักนิดไหม (แน่ล่ะ) แต่ถ้าถามว่าฉันอยากให้พวกเขายืดขาฉันให้ยาวขึ้น ทำเอวฉันให้บางลง ทำสะโพกให้โค้งขึ้น ต่อคอฉันให้ยาวอีกนิด บลา บลา บลา ไหม
คำตอบคือไม่”
บริทนีย์ สเปียร์ ร่วมทีมศิลปินร้องเพลงระลึกถึงเหตุร้ายในออร์แลนโด
เหล่านักร้องดังจากอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นบริทนีย์ สเปียร์, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, เซลีนา โกเมซ และศิลปินอื่นๆ ร่วม 24 ชีวิต ต่างร่วมกันร้องเพลงเพื่อการกุศล ระลึกถึงเหตุกราดยิงในออร์แลนโดเมื่อเร็วๆ นี้ กับเพลงที่มีชื่อว่า “Hands” เพื่อหารายได้บริจาคให้กับครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ การให้คำปรึกษา รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืน
ผู้ก่อเหตุกราดยิงในครั้งนี้มีชื่อว่า โอมาร์ มาทีนโดยเขาเป็นต้นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 49 ราย และบาดเจ็บอีก 53 คน ต่อการกราดยิงเข้าไปที่คลับเกย์แห่งหนึ่ง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
เพลง “Hands” ถูกแต่งขึ้นโดย จัสติน ทรานเตอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของผลงานเพลงดังๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นเพลง “Sorry” ของ จัสติน บีเบอร์ รวมถึงเพลงของโกเมซ, เกวน สเตฟานี่ และฟอล เอาท์ บอย โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า “คงจะเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วโลก ผมได้ตื่นขึ้นมาเพื่อรับรู้ข่าวนี้ในตอนเช้า และมันก็น่าขนลุก น่าเศร้า และน่ากลัวมาก” ซึ่งนั่นทำให้เขาตัดสินใจเป็นอาสาสมัครที่เดอะ เซ็นเตอร์ ออร์แลนโดซึ่งเป็นศูนย์รวมเหล่ากลุ่มรักร่วมเพศที่สำคัญในแถบนั้น
นอกจากศิลปินที่ได้กล่าวไปแล้ว “Hands”ยังเป็นผลงานที่ศิลปินดังคนอื่นๆ มีส่วนร่วมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สเตฟานี่, แมรี่เจ.ไบล์จ, เจสัน เดอรูโล, เมแกน เทรนเนอร์,ฮวน, อดัม แลมเบิร์ท, จัสซี่ สมอลเลต,เนท รูซ ฯลฯ
ด้วยเหตุที่มีศิลปินดังมาร่วมร้องเพลงนี้เป็นจำนวนมาก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอัดเสียงเพลงนี้ได้อย่างราบรื่น แต่ทรานเตอร์ก็กล่าวว่านักร้องทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะทำงานนี้ให้ออกมาสำเร็จ “เราได้แจกจ่ายงานให้กับทุกคน โดยอยู่บนพื้นฐานที่เราคิดแล้วว่าเสียงร้องของใครเหมาะกับเพลงส่วนไหน แล้วเราก็ขอให้เขาร้องในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เผื่อๆ เอาไว้ แต่ทุกคนก็ทำให้มันสำเร็จออกมาได้ทันเวลา แล้วพวกเราก็มีเสียงพิเศษเยอะเลย...อย่างแมรี่ เจ ไบล์จ ก็อัดเสียงที่นิวออร์ลีน บริทนีย์ สเปียร์อยู่ที่ทาวสัน โอ๊คส์ นะผมคิดว่า พิงค์อยู่ที่ซานตา บาร์บารา, เซลีนาอัดเสียงจากรถสตูดิโอของเธอ แดน เรย์โนลด์ส อัดเสียงที่บ้าน อดัม แลมเบิร์ท อยู่ที่ลักเซมเบิร์ก”
‘เกวน สเตฟานี่’ได้ฤกษ์เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อก่อนแต่งงาน
ในที่สุด นักร้องสาว เกวน สเตฟานี่ ก็ดำเนินเรื่องตามกฎหมายเพื่อเปลี่ยนชื่อกลับไปใช้ชื่อเดิมก่อนแต่งงาน หลังจากการหย่าร้างกับอดีตสามีร็อกเกอร์ แกวิน รอสเดล
สเตฟานี่เลิกรากับสามีเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาอยู่ 13 ปี โดยเธอให้เหตุผลในการหย่าร้างครั้งนี้ว่าเป็นเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของรอสเดล ทั้งสองได้ดำเนินการหย่าร้างกันมาจนเพิ่งเสร็จสิ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และตอนนี้นักร้องสาวได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการจาก เกวน รอสเดล กลับมาใช้สเตฟานี่เหมือนเดิม
นักร้องสาวให้สัมภาษณ์ว่า การสิ้นสุดชีวิตสมรสอันเป็นเหมือนเทพนิยายของเธอ ได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของเธอ “ความฝันของฉันมันแตกสลายเป็นชิ้นๆ สิ่งที่ฉันต้องการในชีวิตก็แค่มีลูก ได้แต่งงาน เหมือนกับที่พ่อแม่ของฉันมี” ซึ่งพ่อแม่ของสเตฟานี่กำลังจะฉลองครบรอบการครองรักกัน 50 ปีเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ สเตฟานี่ยังได้กล่าวถึงความยากลำบากในการต่อสู้เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกชายทั้งสามอันได้แก่ คิงส์ตัน วัย 10 ปี ซูมา วัย 7 ปีและ อพอลโล วัย 2 ขวบ “มันเป็นอะไรที่บ้ามากๆ เพราะไม่เพียงแต่ครอบครัวของเราจะแตกเท่านั้น แต่ลูกๆ ของฉันต้องถูกพรากเวลาครึ่งหนึ่งไปจากฉันอีกด้วย ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกว่า อะไรเนี่ยะ ฉันทำอะไรลงไป”
สื่อมวลชนเปิดเผยข้อความในจดหมาย ลาตายอดีตแฟน ‘จิม แคร์รีย์’
จดหมายลาตายของ แคธรีโอนา ไวท์ อดีตแฟนของ จิม แคร์รีย์ที่ถูกเขียนขึ้นก่อนการเสียชีวิตของเธอเพิ่งถูกเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเนื้อความในจดหมายพบว่าเธอได้บอกเล่าถึงเรื่องราวการผิดหวังในความรัก ก่อนที่จะกินยาเกินขนาด
ศพของไวท์ เมคอัพอาร์ติสท์สาวถูกพบที่บ้านเช่าในลอสแองเจลิสเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากมีข่าวว่าไวท์ได้เลิกรากับแคร์รีย์ แต่แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับแคร์รีย์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าทั้งสองเพียงแค่ขออยู่ห่างๆ กันสักพัก ยังไม่ได้เลิกกันจริงๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปสำรวจที่เกิดเหตุ พบยาที่มีฤทธิ์ร้ายแรงสี่ชนิดอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งจดหมายลาตายที่มีการกล่าวพาดพิงถึงดาราหนุ่มซึ่งเป็นแฟนเก่า โดยรายละเอียดได้กล่าวถึงความเสียใจของเธอต่อการเลิกราในครั้งนี้ จดหมายกล่าวว่า “ฉันได้ใช้เวลามาแล้วสามวัน อย่างไม่เชื่อว่าคุณจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว ฉันคงจะสามารถใช้ชีวิตได้ต่อไปแบบคนอกหัก และพยายามต่อส่วนที่แตกสลายกลับเข้ามาเหมือนเดิม ฉันทำได้นะ แต่ฉันไม่ได้มีกำลังใจที่จะทำในตอนนี้ ฉันขอโทษที่ทำให้คุณรู้สึกว่าฉันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อคุณ ฉันพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคุณแล้ว... ฉันไม่ได้รู้เรื่องการทำศพหรืออะไรแบบนั้น คุณคือครอบครัวของฉัน ดังนั้นอะไรก็ตามที่คุณเลือกก็คงจะดีแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันด้วย ฉันแค่ไม่ได้เกิดมาเพื่อโลกใบนี้”
จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางตำรวจได้พบข้อความจากแคร์รีย์ถึงโทรศัพท์ของไวท์ ซึ่งเขาได้ถามหายาแก้ปวดของเขาคืนจากเธอ เพราะเขาเห็นว่ามันหายไปจากห้องน้ำ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีรายงานว่าไวท์ได้เสียชีวิตเพราะเสพยาเกินขนาดหลายชนิด ซึ่งรวมทั้งยาป้องกันอาการคลื่นไส้ ยาควบคุมอดรีนาลีน ยาแก้ปวด และยานอนหลับ โดยเธอมีประวัติการพยายามฆ่าตัวตายด้วยยาแก้ปวดมาแล้วตั้งแต่ปี 2012
Quote : ความสุขและความมั่นใจ เป็นสิ่งที่สวยที่สุดที่คุณจะสวมใส่ได้
เทเลอร์ สวิฟท์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี