หน้าหนาว ผิวหนังของเราสูญเสียความชุ่มชื่นทำให้เกิดอาการผิวแห้งได้มากกว่าช่วงอื่นๆ ของปี อาการผิวแห้งที่เกิดจากสภาพแวดล้อม อุณหภูมิที่แห้ง อาการเย็น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำทางผิวหนัง ซึ่งถ้าผิวแห้งกร้านมากจะขาดความยืดหยุ่น ทำให้เกิดการลอกของผิวและอาการคัน ถ้ารุนแรงจะเกิดการบวม อักเสบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อตามมา และยังเป็นต้นตอของโรคผิวหนังเรื้อรัง ทำให้คนรอบข้างรู้สึก รังเกียจที่จะเข้าใกล้ เพราะคิดว่าเป็นโรคติดต่อ เกิดความไม่มั่นใจเป็นปัญหาในการเข้าสังคม หรือแม้แต่เกิดอาการเฉพาะที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงาน
นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสถาบันโรคผิวหนัง ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอนาถา พร้อมเป็นทุนในการช่วยกิจการของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทุนการศึกษาให้แก่แพทย์และบุคลากรในสถาบันโรคผิวหนังรวมถึงบำเพ็ญสาธารณกุศลด้านสาธารณสุข ได้กล่าวถึงความสำคัญของผิวหนังว่า ผิวหนัง เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ชั้นนอกสุดของร่างกาย ช่วยป้องกันร่างกายของเราจากสิ่งแวดล้อมที่อันตรายมากมาย ผิวหนังไม่ใช่มีหน้าที่เพียงให้ความสวยงามเท่านั้นแต่ยังสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ทุกคนด้วย ผิวหนังเป็นอวัยวะที่มีชีวิต มีเซลล์ มีอวัยวะย่อยๆ ที่ช่วยกันทำหน้าที่มากมาย เช่น รับความรู้สึกต่างๆ ควบคุมอุณหภูมิ ป้องกันเชื้อโรค แลสิ่งแปลกปลอมภายนอก ซึ่งเราต้องช่วยกันบำรุงรักษาผิวของเราให้แข็งแรง มีสุขภาพผิวที่ดีด้วย
“อาการผิวแห้ง เป็นอาการสำคัญเบื้องต้นที่แสดงถึงสภาพผิวหนังที่เริ่มมีปัญหาและจะทำงานไม่ได้เต็มที่ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 ผิวแห้งทั่วไป จะมีอาการผิวแห้งตึงและคันเล็กน้อย พบเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง ระดับที่ 2 ผิวแห้งปานกลาง จะพบในผู้ที่เป็นโรคผิวหนังหรือสัมผัสกับสารระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า แขน ขา ระดับนี้ผิวหนังจะลอกเป็นขุยหรือสะเก็ดเล็กน้อย แดงและคัน สุดท้ายคือระดับที่ 3 ผิวแห้งมาก ผิวหนังจะแห้งตึง ลอกเป็นขุยเป็นสะเก็ด ตึงปริแตกเป็นแผล แดงบวมคันหรือแสบ มักเกิดจากโรคผิวหนังเรื้อรัง หรือโรคภูมิแพ้รุนแรง โรคจากพันธุกรรม เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือสัมผัสสารระคายเคืองเป็นเวลานาน”
คุณหมอกล่าวเสริมว่า “วิธีการดูแลผิวให้ห่างไกลจากผิวแห้งในช่วงหน้าหนาว ทำง่ายๆ ได้ทุกวัน ได้แก่ 1.การทาโลชั่นให้ความชุ่มชื่นเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยควรทาหลังอาบน้ำเสร็จทันทีภายใน 3-5 นาที ซึ่งครีมจะดูดซึมและให้ความชุ่มชื่นกับผิวดีกว่าทาช่วงเวลาอื่น 2.รับประทานอาหารและดื่มน้ำอย่างเพียงพอก็เป็นส่วนสำคัญ สารอาหารบางชนิดช่วยให้เซลล์ผิวหนังผลิตน้ำมันของผิวหนังตามธรรมชาติได้ดีขึ้น เช่น วิตามินอี ไข่ไก่ ปลาเนื้อวัวหมู ถั่วต่างๆ พืชผักต่างๆ 3.ทำความสะอาดผิวหนังเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับผิว 4.ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใส่สารฆ่าเชื้อที่มากเกินจำเป็น อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือผิวแห้งได้ และ 5.ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัด หรืออาบน้ำนานเกินไปซึ่งจะทำให้ผิวแห้ง
และด้วยการตระหนักถึงอาการผิวแห้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดปัญหาผิวหนังในประเทศไทย มูลนิธิฯ จึงจับมือกับผลิตภัณฑ์ “วาสลีน โททอล มอยซ์เจอร์” โลชั่นบำรุงผิวกาย สร้างสรรค์แคมเปญ “วาสลีน ฟื้นบำรุง 1,000,000 สัมผัสจากผิวสู่ใจ”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไทยได้ส่งต่อความอบอุ่น พร้อมทั้งยังทำให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลผิวในช่วงหน้าหนาวและช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้านอย่างล้ำลึกเพื่อผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่นยาวนาน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/vaseline
นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี