คุณหญิงสุจิตรา จิราธิวัฒน์ มงคลกิติ

หนึ่งในเคล็ดลับของอาหารอร่อยสิ่งสำคัญก็คือวัตถุดิบคุณภาพดี มีประโยชน์ ยิ่งถ้าได้ไอเดียและเคล็ดลับการปรุงจากมืออาชีพแล้วรับรองได้ว่าอาหารมื้อนั้นอร่อยคูณสองภายในงานแถลงข่าว “งานโครงการหลวง 46”จัดขึ้นโดย มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เชิญฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ มาร่วมสร้างสรรค์เมนูอร่อยพร้อมสุขภาพดีจากผลผลิตโครงการหลวงที่มีสินค้าไฮไลท์ ได้แก่ เสาวรสพันธุ์เหลืองหวาน มะระรูปหัวใจ อาร์ติโชค โดยงาน “โครงการหลวง 46” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ลิเซียนทัส” ดอกไม้ของแม่ นอกจากจะมีสินค้าเกษตรสดๆ จากฟาร์มโครงการหลวงมาให้เลือกซื้อแล้ว ยังสามารถเลือกช็อปผลิตภัณฑ์มากมายจากร้านโครงการส่วนพระองค์และผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงกว่า 3,000 รายการ ในบรรยากาศไลฟ์สไตล์ ซูเปอร์มาร์เก็ตอันทันสมัยระหว่างวันที่ 7-16 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดมูลนิธิโครงการหลวง กล่าวว่า งาน “โครงการหลวง 46” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ลิเซียนทัส” ดอกไม้ของแม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบงานปีนี้มีผลผลิตสดใหม่จากฟาร์มมานำเสนอ ได้แก่ เสาวรสพันธุ์เหลืองหวาน มะระรูปหัวใจ ดอกลิเซียนทัส โดยมะระรูปหัวใจเป็นมะระพันธุ์ใหม่ที่มีรสชาติค่อนข้างหวาน ไม่ขมเหมือนมะระทั่วไป นอกจากนี้ ยังมีความหมายสื่อถึงวันแม่อีกด้วย

ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์

“เสาวรสพันธุ์เหลืองหวาน เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เราคัดขึ้นมา รับประทานสด ผลโตสีเหลือง น้ำหนักดี เนื้อแน่น น้ำเยอะ มีความฉ่ำรสชาติหอมหวานคล้ายกลิ่นน้ำผึ้งเล็กน้อย ส่วนดอกลิเซียนทัสเป็นที่นิยมในต่างประเทศมากว่า 30 ปีแล้ว โดยในประเทศไทยพื้นที่ดำเนินงานของโครงการหลวงถือเป็นพื้นที่แห่งแรกที่สามารถปลูกได้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์มาจากญี่ปุ่น อยากให้ผู้บริโภคช่วยกันสนับสนุนดอกไม้ที่ปลูกได้ในประเทศไทย เพราะช่วงนี้ดอกไม้จากประเทศเพื่อนบ้านได้ถูกนำเข้ามาจำหน่ายจำนวนมาก โครงการหลวงจึงต้องพัฒนาสายพันธุ์ดอกไม้ให้มีความแตกต่าง”

คุณหญิงสุจิตรา จิราธิวัฒน์ มงคลกิติรองประธานกรรมการบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด มีนโยบายและปณิธานอันแน่วแน่ในการสนับสนุนงานของมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งแต่ละปีได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากประชาชน และที่สำคัญงานครั้งนี้ก็จัดอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของโครงการหลวง พร้อมกิจกรรมทั่วศูนย์การค้าฯ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์แนะนำในแต่ละปี รวมถึงผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์ในราคาพิเศษ

ด้านฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ ที่มาสาธิตเมนูจากสินค้าแนะนำ โดยได้นำเสาวรสมาปรุงเป็นน้ำสลัดรับประทานคู่กับผักสลัด เผยว่า น้ำสลัดมีรสเปรี้ยวจากเสาวรสและรสหวานจากน้ำผึ้งโครงการหลวงผสมกับมายองเนส เพิ่มความเผ็ดด้วย
พริกไทยดำและมัสตาด ตีเข้าด้วยกัน ส่วนผักโครงการหลวงให้เลือกแบบที่ชอบได้เลย เน้นที่สีสันหลากหลายแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผักกาดแก้ว มะเขือเทศหลากสี ใส่รากบัวต้มกับน้ำอ้อยเพิ่มความหอมหวาน ได้รสกรุบกรอบ ส่วนมะระรูปหัวใจก็นำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย เคล็ดลับการทำมะระให้อร่อยคือต้มใส่เกลือเล็กน้อยแล้วล้างในน้ำเย็นเป็นการเจือจางความขมฃ

สุทธิพงษ์ สุริยะ

“บ่อยครั้งที่เราไปเดินที่ร้านโครงการหลวงแล้ว จะเห็นได้ว่ามีคนมาถามพนักงานเยอะเหมือนกันว่า ผักชนิดต่างๆ ที่ดูแปลกตา สามารถนำไปปรุงเป็นอะไรได้บ้าง เพราะเป็นเรื่องปกติที่คนจะซื้อแต่ผักพื้นๆ ที่คุ้นเคยเลยจะไม่กล้าซื้อผักบางประเภทที่ไม่คุ้นเคย แต่ถ้ามีคนมาสร้างสรรค์เมนูให้ดู มันเป็นเหมือนการเปิดโลกทัศน์ให้ได้เรียนรู้เมนูที่หลากหลาย เพิ่มไอเดียในการทำอาหารใหม่ๆ เป็นการต่อยอดความคิดให้กับผู้บริโภค จึงขอเชิญชวนให้มาชมการสาธิตการปรุงอาหารที่งาน “โครงการหลวง 46” จะมีผู้เชี่ยวชาญผลัดเปลี่ยนกันทุกวัน แล้วลองซื้อผักใหม่ๆ ไปปรุงอาหารดู

วิธีการทำไม่ยากเลย หลักๆ คือ ทานสด, ทำให้สุกโดยการนึ่ง ต้ม ย่าง แล้วไปผสมผสานกับส่วนผสมอย่างอื่นเพื่อเพิ่มคุณค่าและความอร่อย เช่น บัทเตอร์นัทจะคล้ายกับฟักทอง เนื้อสัมผัสจะแน่น รสหวาน ที่นำไปปรุงอาหารได้ทั้งคาวและหวาน เช่น ซุปครีม, พาย, ผัดไข่, อบน้ำผึ้ง, ต้มทานกับน้ำพริกก็ได้”

ส่วน หนิง-ศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์บอกว่า “เป็นคนซื้อวัตถุดิบส่วนสามีเป็นคนทำอาหาร อย่างผักซื้อของโครงการหลวงเป็นประจำ เพราะหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต บ้านเราทานผักกันเยอะ ส่วนลูกชอบเยลลี่บ๊วยมาก อโวคาโดจะชอบที่สุดต้องเอาไว้ใส่สลัด ยิ่งไอศกรีมอโวคาโดที่มีจำหน่ายเฉพาะที่งานโครงการหลวง จะเป็นเมนูที่ต้องซื้อ และขาดไม่ได้กับร้านจำหน่ายผลิตภัณท์โครงการในพระราชดำริ เพราะชอบซื้อผ้าไทยเก็บไว้ตัดชุด เห็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์อย่างเสาวรสพันธุ์เหลืองหวานแล้วต้องบอกว่าอดใจไม่ไหว เพราะที่บ้านชอบทานน้ำผักผลไม้ปั่น ส่วนมะระรูปหัวใจต้องบอกว่าอยากให้สามีทำแกงจืดมะระยัดไส้ให้ทาน เพราะเราชอบทานมะระกันอยู่แล้วและอยากรู้รสชาติของมะระที่ไม่ขมว่าจะเป็นอย่างไร”ม.ล.สมรดา ชุมพล บอกว่า “สำหรับสินค้าไฮไลท์ในงานโครงการหลวงที่เป็นมะระรูปหัวใจ เห็นแล้วนึกออกทันที อยากเอาไปทำมะระผัดไข่ทานและด้วยความที่ลูกมันไม่ใหญ่มาก คิดว่ามันเหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่เป็นครอบครัวขนาดเล็กสามารถนำไปปรุงอาหารได้หมดภายในครั้งเดียว อีกอย่างที่คิดว่าน่าจะทำได้คือ นำไปผสมรวมกับน้ำผลไม้สกัดที่ดื่มเป็นประจำน่าจะช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ให้อาหารที่เราชอบได้ ขอเชิญชวนให้มาจับจ่ายกันที่งาน “โครงการหลวง 46” นะคะ นอกจากจะได้สินค้าดี และอร่อยแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ เรามีผักผลไม้เมืองหนาวไว้รับประทานโดยที่ไม่ต้องซื้อของนำเข้า ดอกไม้ก็เช่นกัน ดอกลิเซียนทัสที่ทางโครงการหลวงได้นำสายพันธุ์มาจากญี่ปุ่นแล้วมาวิจัยและพัฒนาต่อ ทำให้มีเงินหมุนเวียนไปยังเกษตรกรทุกภาคส่วน”

วิภาวี คอมันตร์ และ ศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์

ม.ล.สมรดา ชุมพล

ดอกลิเซียนทัส และมะระรูปหัวใจ

สลัดโครงการหลวงกับน้ำสลัดเสาวรสและโรสแมรี่

เสาวรสเหลืองพันธุ์หวาน