ผู้บริหารกรุงศรี ออโต้ กฤติยา ศรีสนิท, ภิญโญ จันทสุวรรณ์ และ ไพโรจน์ ชื่นครุฑ
เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในห้องเรียนสื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียนล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการขยายโอกาสทางการศึกษา อันจะเป็นพื้นฐานในการนำไปสู่การเติบโตที่ดีในอนาคต จึงเป็นที่มาของโครงการ “กรุงศรี ออโต้” ที่ กรุงศรี ออโต้ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เครือกรุงศรี ได้ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2553 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนในชุมชนที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนหนังสือและสื่อการสอนให้มีโอกาสทัดเทียมเท่ากับเด็กในชุมชนเมืองตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนไทยมีนิสัยรักการอ่านและรู้จักแสวงหาความรู้นอกห้องเรียน ล่าสุดส่งมอบ ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ ให้แก่ 2 โรงเรียน โรงเรียนบ้านหนองค้ากลางฮุง จ.ขอนแก่น และโรงเรียนห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี
ไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ธุรกิจด้านสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ากรุงศรี ออโต้ ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อยานยนต์ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมสร้างความเข้มเข็งให้กับชุมชนและท้องถิ่น ภายใต้แนวปฏิบัติหลักของบริษัท คือการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ ซึ่งไม่เพียงครอบคลุมเฉพาะการพิจารณาสินเชื่อเท่านั้น แต่รวมถึงการช่วยเหลือสังคมในทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะด้านการศึกษาซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เยาวชนของเรามีความแข็งแกร่งด้านความรู้และทักษะการใช้ชีวิต
ด.ญ.ปาลิตา แก่นจันทร์ดำ และเพื่อนๆ ดีใจที่มีห้องสมุดใหม่
“กรุงศรี ออโต้ ได้ดำเนินโครงการห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ ไปทั่วทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และในปี 2558 ได้ส่งมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 11 ให้กับโรงเรียนบ้านหนองค้ากลางฮุง ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่นและห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 12 ให้กับโรงเรียนห้วยใหญ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ ได้ส่งมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ไปแล้ว 12 แห่งทั่วประเทศ นอกเหนือจากการส่งมอบห้องสมุด พร้อมทุนการศึกษาอุปกรณ์การเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์กีฬาแล้ว เรายังได้รับความร่วมมือจากพนักงานจิตอาสาและคู่ค้าพันธมิตรเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์ภายในงาน อาทิ การปรับปรุงสนามเด็กเล่นและภูมิทัศน์โรงเรียน กิจกรรมสันทนาการ ตลอดจนจัดอบรมโครงการ 70 ปี กรุงศรี 70 โรงเรียนรอบรู้เรื่องเงิน ให้กับนักเรียนเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีวินัยทางการเงินและรู้จักการออมเงินควบคู่ไปกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยเช่นกัน”
สุพัฒน์ นริยา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองค้ากลางฮุง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า “พอได้รับการติดต่อจากกรุงศรี ออโต้ ผมก็รู้สึกดีใจแทนเด็กๆ ที่จะมีแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนที่มีมาตรฐาน ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 11 นี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สอดคล้องกับนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ของภาครัฐที่ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้ขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเองและมีความสุขกับการเรียนรู้นักเรียนสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่ตนเองสนใจได้พี่อาจจะสอนน้องเพื่อนสอนเพื่อนเรียนรู้ไปด้วยกันได้”
บรรยากาศการมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ ที่โรงเรียนบ้านหนองค้ากลางฮุง จ.ขอนแก่น
นิลุบล ประดับพร ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี กล่าวว่า “ที่ผ่านมาโรงเรียนของเราไม่เคยมีห้องสมุดเราต้องกั้นห้องแบ่งครึ่งเป็นห้องพยาบาลและห้องเก็บหนังสือ ซึ่งหนังสือส่วนมากเป็นหนังสือที่ได้รับการบริจาคและบางส่วนมาจากงบประมาณที่โรงเรียนจัดสรรมาซื้อหนังสือเพิ่มเติม เมื่อทางกรุงศรี ออโต้ มาดำเนินการสร้างห้องสมุดให้ ทางเราดีใจมาก เพราะห้องสมุดถือเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนทุกเพศทุกวัยเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับเด็กๆ ที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสเท่ากับที่อื่นเด็กที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ยากจนและขาดแคลนครูมั่นใจว่าเราจะได้ประโยชน์สูงสุดจากห้องสมุดนี้ค่ะ”
ด.ญ.ปาลิตา แก่นจันทร์ดำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี เผยความรู้สึกที่ได้ห้องสมุดใหม่ บอกว่า “หนูชอบอ่านหนังสือค่ะชอบอ่านทั้งนิทานและหนังสือเรียน ก่อนหน้านี้โรงเรียนไม่มีห้องสมุดพอมีห้องสมุดใหม่นี้หนูชอบมากค่ะ เพราะมีหนังสือหลายแบบและหนังสือใหม่ๆ มากมาย หนูคิดว่าการอ่านหนังสือทำให้เรามีความรู้ฉลาดแล้วก็ช่วยเหลือตัวเองได้ค่ะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี