เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมพึ่งบุญ ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับชาวนา และภาคเอกชนที่มีธุรกิจด้านการเกษตร ได้จัดสัมมนาในหัวข้อ “Road Map เพื่อการพัฒนาการเกษตร และแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน”
การสัมมนาครั้งนี้ นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย อนันต์ ดาโลดม ยืนยันว่าจะนำสาระจากการสัมมนาเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อพิจารณากำหนดเป็น Road Map สำหรับการปฏิรูปการเกษตรต่อไป
เริ่มต้นการสัมมนาด้วยการบรรยายพิเศษของ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชวลิต ชูขจร เรื่อง “มาตรการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือก และนโยบายการพัฒนาการเกษตรในช่วงการเปลี่ยนถ่าย” ซึ่งส่วนใหญ่ท่านปลัดฯ ไม่ค่อยได้พูดถึงการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกสักเท่าไร เพียงแต่บอกว่า คสช. โดย พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของ คสช. ซึ่งดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นให้กระทรวงเกษตรฯ ลดโครงการในลักษณะประชานิยม ให้ดำเนินโครงการตามแนวพระราชดำริให้กว้างขวาง โดยการให้ความรู้กับเกษตรกร
ส่วนเรื่องของข้าวให้หาทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ด้วยการลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กรมการข้าวต่อยอดศูนย์ข้าวชุมชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้เป็นธนาคารข้าว สำหรับปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย และสารเคมีนั้น ได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาคุยกันแล้ว ยอมที่จะลดราคาปุ๋ยเคมี และสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชลง ต่อไปคงอยู่ที่การตรวจสอบติดตามการจำหน่ายปัจจัยการผลิตในท้องตลาดว่าจะเป็นไปตามที่ตกลงกันหรือไม่
สำหรับ Road Map ที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอ คือ การพัฒนาระบบชลประทาน การปฏิรูปเกษตรกรและองค์กรเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง ปฏิรูปหน่วยงานภาครัฐให้มีความร่วมมือกับท้องถิ่น และภาคเอกชนให้มากขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงข้อมูลการเกษตรให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ปฏิรูประบบการช่วยเหลือเกษตรกร เช่น การประกันภัยพืชผล และสินเชื่อผ่อนปรน เป็นต้น ปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรให้ทันสมัยและมีความคล่องตัวมากขึ้น
ในการสัมมนาครั้งนี้ นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย อนันต์ ดาโลดม บรรยายพิเศษ เรื่อง “การพัฒนาการเกษตรและการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรอย่างยั่งยืน” โดยเริ่มต้นว่า การเกษตรของไทย เป็นการเกษตรที่อาศัยน้ำฝน มีพื้นที่เกษตรในเขตชลประทานน้อยมาก การเพาะปลูกจึงขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นเกษตรกรไทยยังเป็นเกษตรกรรายย่อย ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ต้องเช่าที่ทำกิน จึงเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการพัฒนา การลงทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ที่ผ่านมารัฐบาลมองว่าเกษตรกรเป็นเพียงกลไกในการผลิต และปล่อยให้ข้าราชการ นักการเมือง เอกชน แสวงหาผลประโยชน์จากเกษตรกร เอารัดเอาเปรียบเสมอมา รัฐบาลไม่จริงในการแก้ปัญหา ดูง่ายๆ จากงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คิดเป็นเพียงร้อยละ 3 ของงบประมาณทั้งหมด ในขณะที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องดูแลเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รัฐมนตรีที่มาบริหารกระทรวงเกษตรฯก็เองไม่รู้เรื่องเกษตร และไม่พยายามที่จะรู้ ดังนั้นจะนำพาการเกษตรไปถูกทิศถูกทางได้อย่างไร
นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย มีเอกสารเสนอ Road Map ให้ที่สัมมนาพิจารณาด้วย มีบางส่วนที่ตรงกับที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอ และบางส่วนก็ตรงกับที่ คสช. เน้นย้ำ เช่น การพัฒนาระบบชลประทาน การส่งเสริมโครงการตามแนวพระราชดำริ การลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร การให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินของตนเอง การปรับปรุงกฎหมาย การปฏิรูปหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ การพัฒนาเกษตรกรและองค์กรของเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เป็นต้น
ณ วันนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า Road Map จากเวทีสัมมนาในวันนี้จะออกมาอย่างไร ขอแต่ให้มีคนใจถึงๆ มาช่วยผลักดันให้ เป็นการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรของไทยให้หมดไปอย่างยั่งยืนเสียที
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี