30 ธ.ค. 58 รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับรายงานการติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค และได้รายงานให้พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับทราบแล้วว่าขณะนี้มีความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น และนักศึกษาเอแบคหยุดเรียนไป 2 วันแล้ว (ตั้งแต่วันที่ 29-30 ธ.ค.) และมีการกระทบกระทั่งกันที่ด้านหน้าประตูทางเข้าและรั้วของ ม.เอแบค วิทยาเขตหัวกมาก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนี้เป็นผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของอุดมศึกษาไทยที่ไม่ควรจะใช้วิถีทางการกระทบกระทั่งดังกล่าว แต่ควรจะใช้วิถีทางปัญญาในการพูดคุยกัน  โดยขณะนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศธ.ได้สั่งการให้สำนักงานคระกรรมการการอุดมศึกษา เรียกประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เพื่อพิจารณากรณีที่เกิดขึ้น ว่ามีความรุนแรงถึงขั้นที่จะต้องเข้าไปควบคุมมหาวิทยาลัยหรือไม่

ส่วนการแก้ปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้าก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารมหาวิทยาลัย  ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้บริหารเพราะยังมีข้อขัดแย้งตรงจุดนั้นอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยก็ต้องดูแลจัดการกันเองก่อน  ตราบใดที่ศธ.ยังไม่มีอำนาจลงไปจัดการตามกฏหมาย แต่หากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าไปควบคุมดูแล

ปลัด ศธ. กล่าวว่า อำนาจทางกฎหมายที่ ศธ. จะนำมาใช้ควบคุมมหาวิทยาลัยเอแบคได้คือ มาตรา 86 ตามพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ซึ่งก่อนหน้านี้ รมว.ศึกษาธิการ เคยนำมาใช้ควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน ในปี 2554 เพื่อแก้ไขปัญหาการขายใบประกาศนียบัตรวิชาชีพครูมาแล้ว โดยการดำเนินการนั้น จะมีคณะกรรมการเข้าไปดูแลอย่างน้อย 5 คน เพื่อไปดูแลเรื่องต่างๆ ของมหาวิทยาลัย และหากเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็จะคืนมหาวิทยาลัยให้กลับไปดูแลดังเดิม ดังนั้น รมว.ศึกษาธิการ จึงต้องเร่งให้ กกอ. รีบประชุม เพราะ รมว.ศึกษาธิการ ไม่มีอำนาจโดยตรง และหาก กกอ. มีมติไฟเขียวก็จะสามารถใช้มาตรา 86 ได้ ซึ่งก็ รมว.ศึกษาธิการ ก็จะสามารถใช้อำนาจได้ตามคำแนะนำของ กกอ. ทั้งนี้ คาดว่าจะประชุม กกอ.ได้ในวันที่ 4 ม.ค.2559 เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดราชการ และหากเรียกประชุมในช่วงนี้คณะกรรมการก็จะไม่ครบองค์ประชุม ก็จะไม่สามารถใช้อำนาจทางกฎหมายได้

"ผมในฐานะ กกอ.คนหนึ่ง ผมเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองแล้ว และก็ไม่น่าดูเลย อุดมศึกษาจะต้องเป็นแบบอย่างของสังคม แต่ใช่ใช้วิธีแบบนี้ ส่วนที่นายสุทธิพร บอกว่า กระทรวงฯไม่มีอำนาจเข้าไปดูแลนั้นก็ถูกต้อง แต่นี่คือการศึกษาไทย อุดมศึกษาก็อยู่ในการศึกษาไทย และอุดมศึกษาเอกชนเองก็มีมาตรการ และมีกฏหมายต่างๆเพื่อจะดูแลสภามหาวิทยาลัย เมื่อสภามหาิทยาลัยดูแลกันเองไม่ได้ ก็จะต้องมี กกอ.ให้คำแนะนำกับรัฐมนตรี ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งการปรับโครงสร้างกระทรวงใหม่นี้ อาจจะมีการปรับข้อกฏหมายบางข้อเพื่อที่จะให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น" ปลัด ศธ. กล่าว