วันพฤหัสบดี ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559, 18.54 น.
24 มี.ค. 59 นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
"Chuchart Srisaeng" ถึงคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก ก่อเหตุขับรถยนต์ไล่ยิงและทำร้ายร่างกาย 5 นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลย์สงคราม จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา
ข้อความดังนี้
.....หลังเกิดเหตุนักศึกษาที่ถูกทำร้ายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรพิษณุโลกว่าถูกเจ้าหน้าตำรวจดังกล่าวทำร้ายร่างกาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนั้นไปแจ้งความว่า นักศึกษาขับขี่รถยนต์เฉี่ยวรถยนต์ของพวกตนแล้วหลบหนี จึงเกิดบันดาลโทสะ
.....เรื่องเงียบอยู่จนถึงเมื่อวานคือวันที่ 23 มีนาคม 2559 นักศึกษาที่ถูกทำร้ายพร้อมเพื่อนนักศึกษาประมาณ 30 คน ได้ไปร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6
.....วันนี้จึงมีข่าวว่า ได้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนั้นที่ยศร้อยตำรวจเอก 1 นาย ร้อยตำรวจโท 1 นาย และสิบตำรวจเอก 1 นาย ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 โดยไม่มีกำหนดเวลา ได้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและมีการสอบสวนดำเนินคดีแล้ว
.....การกระทำของเจ้าหน้าตำรวจกลุ่มดังกล่าว ที่อ้างว่าถูกรถยนต์ของนักศึกษาที่ถูกทำร้ายเฉี่ยวชน ก็ยังฟังไม่ได้ยุติว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ และแม้จะเกิดขึ้นจริงก็เป็นเพียงความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก เจ้าหน้าตำรวจกลุ่มนั้นย่อมไม่มีอำนาจใดๆ ตามกฎหมายที่จะกระทำการดังที่กระทำไปได้
.....กรณีเช่นนี้ไม่ใช่การบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 แต่เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจที่คิดว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีอาวุธปืนอยู่ในมือ จะทำอะไรก็ได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาต้องช่วยเหลืออย่างมากก็เพียงถูกย้าย พอเรื่องเงียบก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ เช่นรายอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
.....โชคดีของนักศึกษาที่ถูกกระทำที่การกระทำของเจ้าหน้าตำรวจดังกล่าว มีผู้ถ่ายคลิปวิดิโอไว้โดยละเอียดทุกขั้นตอน มิฉะนั้นเรื่องนี้ก็คงเงียบหายไปแล้ว
.....การกระทำของตำรวจกลุ่มนี้เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมซึ่งต้องลงโทษทุกกรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 โดยการกระทำเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาคือ
.....1 การใช้อาวุธปืนยิงไปที่รถยนต์ของนักศึกษาและถูกรถยนต์หลายนัดเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.....2 การใช้อาวุธยิงไปที่รถยนต์ซึ่งมีผู้นั่งอยู่ในรถยนต์ 5 คน ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนย่อมไปถูกผู้ที่นั่งอยู่ในรถยนต์ถึงแก่ความตายได้ เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าตามมาตรา 288,80 มีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 33 ปี 4 เดือน หรือจำคุก 10 ปี ถึง 13 ปี 4 เดือน
.....3 การใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้นักศึกษาเปิดประตูรถยนต์และลงมาจากรถยนต์ เป็นความผิดตามมาตรา 309 วรรคสอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.....4 การทำร้ายร่างกายนักศึกษาจนได้รับอันตรายแก่กาย ถ้าได้รับอันตรายสาหัส เป็นความผิดตามมาตรา 297 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี แต่ถ้าไม่ได้รับอันรายสาหัส เป็นความผิดตามมาตรา 295 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.....ขอบอกให้นักศึกษาที่ถูกกระทำทุกคนว่า ถ้าเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีหน้าที่ต้องสอบสวนดำเนินคดีไม่ดำเนินคดีแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้
.....ท่านมีอำนาจที่จะดำเนินการฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้ต่อศาลด้วยตนเอง ถ้าไม่สามารถหาทนายความได้ก็ไปขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ หรือเนติบัณฑิตยสภาได้ เพราะไม่ควรปล่อยให้กรณีเช่นนี้เงียบหายไปอีก เฉกเช่นคดีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาหลายๆ ครั้งแล้วก็เงียบหายไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง