ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ปัญหาการสูบบุหรี่ในประเทศไทยทวีความรุนแรง โดยเฉพาะอายุของนักสูบหน้าใหม่ที่ลดน้อยลงและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม อย่างกว้างขวางและเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทำให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเป็นจำนวนมาก ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2558 พบว่าจำนวนประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจำนวน 54.8 ล้านคน เป็นผู้สูบบุหรี่ 11.4 ล้านคน โดยเป็นผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ 10 ล้านคน และเป็นผู้ที่สูบบุหรี่นานๆ ครั้ง 1.4 ล้านคน อายุเฉลี่ยที่เริ่มสูบบุหรี่ครั้งแรกของผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำคือ 17.8 ปี ขณะที่อายุเฉลี่ยที่เริ่มสูบบุหรี่เป็นปกตินิสัยคือ 19.5 ปี เมื่อเทียบกับปี 2550 พบว่าทุกกลุ่มวัยมีอายุเฉลี่ยที่เริ่มสูบบุหรี่น้อยลง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน 15-24 ปี เริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุน้อยลงค่อนข้างมากกว่ากลุ่มอื่น คือจากปี 2550 เยาวชนเริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุ 16.8 ปี และในปี 2557 เริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุ 15.6 ปี
ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีมาตรการในการควบคุมยาสูบ และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ด้วยการสร้างความมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการดำเนินงานแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่องในระดับพื้นที่ ที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการควบคุมยาสูบ ให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ(Sustainable Development Goals-SDGs)ตามกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC) ที่นำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ มีเป้าหมายลดการตายก่อนวันอันควรจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สอดคล้องกับเป้าหมาย The 9 globaltargets for NCD : 2025 ที่ต้องลดอัตราการบริโภคยาสูบลงอย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี 2568
นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559 ได้อนุมัติแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ พ.ศ.2559-2562 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีความตระหนักถึงภาวะเสพติดและพิษภัยร้ายแรงของยาสูบ ป้องกันไม่ให้เกิดผู้เสพหน้าใหม่ เฝ้าระวังธุรกิจยาสูบและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติฯสู่การปฎิบัติในระดับพื้นที่ที่สำคัญ คือความร่วมมือของทุกจังหวัดที่มีร่วมดำเนินการควบคุมยาสูบไปพร้อมๆ กัน โดยเน้นมาตรการ 3 ลด2 เพิ่มคือ ลดนักสูบหน้าใหม่ ลดจำนวนผู้สูบเดิมในชนบท ลดควันบุหรี่มือสองที่ทำงาน ที่สาธารณะ และที่บ้าน และเพิ่มผู้ขับเคลื่อนระดับพื้นที่ จังหวัดและท้องถิ่น พัฒนาระบบบริการและเพิ่มบริการเชิงรุกเพื่อช่วยเลิกบุหรี่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี