นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ โดยใช้ศูนย์ Boot Camp ที่จังหวัดชลบุรี ในการพัฒนาครูผู้สอนภาษาอังกฤษนำร่องจำนวน 350 คนไปแล้วนั้น พบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้น จะขยายผลการจัดอบรมครูภาษาอังกฤษไปยังศูนย์ Boot Camp ใน 4 ภูมิภาค จำนวน  50,000 คนส่วนการเพิ่มจำนวนชั่วโมงสอนภาษาอังกฤษในระดับชั้นประถมศึกษา (ป.) ปีที่ 1-3จาก 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็น 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2559 นั้น จะดำเนินการในโรงเรียนโครงการประชารัฐ โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการลดเวลาเพิ่มเวลารู้ และโรงเรียนที่มีความพร้อมและสมัครใจเข้าร่วมประมาณ 2 หมื่นโรงทั่วประเทศซึ่งการเพิ่มชั่วโมงสอนภาษาอังกฤษ จาก 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็น 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์นั้น เบื้องต้นในชั่วโมงที่ 1จะเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสอนภาษาอังกฤษ ชั่วโมงที่ 2 เน้นภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวันชั่วโมงที่ 3 จัดการเรียนการสอนโดยใช้หนังสือ ชั่วโมงที่ 4 เน้นให้เด็กรู้คำศัพท์อย่างน้อยวันละ 5 คำ และชั่วโมงที่ 5 เน้นซ่อมเสริมให้ผู้ที่เรียนอ่อนภาษาอังกฤษ โดย ขณะนี้ สพฐ.ได้จัดทำคลังคำศัพท์ที่เด็กใช้ในชั้นเรียนต่างๆ ที่ควรจะรู้ รวมถึงให้จัดสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนเพื่อให้เอื้อต่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ สพฐ. จะมีการเพิ่มชั่วโมงเรียนวิชาภาษาไทย เป็นสัปดาห์ละ 5 ชั่วโมงด้วยเพราะภาษาไทยก็เป็นสิ่งจำเป็นที่เด็กต้องเรียนรู้

นายการุณ กล่าวต่อว่า ไม่ต้องกังวลว่าเด็กจะเรียนมากเกินไป หรือไปกระทบในช่วงกิจกรรมเพิ่มเวลารู้ เพราะจะมีการจัดทำโรดแมปการจัดการเรียนการสอนทั้งหมด ให้อยู่ในกรอบโครงสร้างเดิมคือเวลาเรียนระดับประถมฯจะไม่เกิน1,000 ชั่วโมงต่อปี เมื่อมีวิชาภาษาอังกฤษและภาษาไทยเพิ่มขึ้นมาก็จะต้องมีการบูรณาการวิชาอื่นเข้าด้วยกันมากขึ้น และแบ่งกลุ่มการสอนที่ครูจะสอนในวิชาต่างๆเป็นกลุ่มสาระที่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งครูจะต้องนำไปใช้วัดประเมินผลในระดับชาติ และกลุ่มสาระที่ควรรู้ ที่ใช้วัดประเมินผลในระดับชั้นเรียน จะระบุหัวใจสำคัญของการจัดการเรียนรู้แต่ละเรื่องให้ชัดเจนว่า เด็กจะต้องรู้อะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้จะเป็นการช่วยครูให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ