“การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการบริโภคให้เกิดความยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ได้ส่งเสริมภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนดำเนินโครงการที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาสีเขียวของประเทศ (Green Growth) ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS)

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เข้าร่วมโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ล่าสุดในปีนี้สถานประกอบการซีพีเอฟทั้งฟาร์มและโรงงานทั่วประเทศ 47 แห่ง ได้รับประกาศนียบัตรโครงการ Less จาก อบก. ภายในงาน“ร้อยดวงใจ ร่วมใจลดโลกร้อน” ประจำปี 2559 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกภายในสถานประกอบการอย่างจริงจัง

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทมีการกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการลดก๊าซเรือนกระจกลงจากปัจจุบันร้อยละ 20-25 ในทุกภาคส่วน ภายในปี พ.ศ.2573 ในส่วนของซีพีเอฟได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืน 3 เสาหลัก“อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่” โดยภายใต้เสาหลักดินน้ำป่าคงอยู่มีการดำเนินโครงการเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านเป้าหมายบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ

นายวุฒิชัยกล่าวต่อไปว่า ซีพีเอฟ ร่วมกับ อบก. ดำเนินโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้สถานประกอบการซีพีเอฟจำนวน 47 แห่ง ได้รับประกาศนียบัตรจากการดำเนินโครงการประเภทการลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การจัดการขยะและของเสีย ตลอดจนด้านป่าไม้และพื้นที่สีเขียว สามารถลดและกักเก็บ CO2 โดยรวมได้ 15,424.73 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากการดำเนินโครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศและโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน สามารถกักเก็บ CO2 โดยรวมได้ 12,130 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และจากโครงการลดใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ตลอดจนการจัดการของเสีย สามารถลดการปล่อย CO2 โดยรวมได้ 3,294.73 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า  อาทิ ฟาร์มเขาไม้แก้ว 2 จังหวัดปราจีนบุรี สามารถกักเก็บ CO2 ได้มากที่สุดที่ 3,847 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำหนองแค จังหวัดสระบุรี ยังสามารถลดการปล่อย CO2 ได้ 3,046 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากการติดตั้งเครื่องบดประสิทธิภาพสูง

ด้านนายดวงมนู ลีลาวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจเป็ด-ไก่กระทง ซีพีเอฟ กล่าวถึงการได้รับรางวัลว่า “ในปีนี้ฟาร์มไก่และเป็ดกระทง ส่งเข้าร่วมโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) จำนวน 10 ฟาร์ม จากปีที่แล้วที่ส่งฟาร์มเข้าร่วมโครงการเพียง 5 ฟาร์ม ทำให้ปัจจุบันฟาร์มไก่และเป็ดกระทงของซีพีเอฟ เข้าร่วมโครงการ LESS แล้วรวม 15 ฟาร์ม จาก 50 ฟาร์มทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าเข้าร่วมโครงการครบทุกฟาร์มในอีก 2 ปี โดยแต่ละฟาร์มจะคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ในแต่ละท้องถิ่น อาทิต้นสักทอง ยูคาลิปตัส ประดู่ป่า มะฮอกกานี พะยูง มะค่าโมง ฯลฯ ซึ่งเป็นไม้ที่โตเร็ว ดูแลง่าย ซึ่งนอกจากองค์กรจะให้ความสำคัญกับการปลูกต้นไม้ภายในสถานประกอบการแล้วยังมีพนักงานในแต่ละฟาร์มอาสาเข้ามาช่วยกันปลูก ดูแล ทำให้ระบบนิเวศน์รอบรั้วฟาร์มอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน”