มนุษย์เงินเดือนเฮ
‘คลัง’ชงครม.ไฟเขียว
กม.ตั้งกองทุนบำนาญ
บีบนายจ้างจ่ายสมทบ
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังหารือร่วมกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ว่ากระทรวงการคลังได้เสนอรายละเอียด
ร่างพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาแล้ว ขึ้นอยู่กับเลขาธิการ ครม. จะบรรจุวาระพิจารณาเห็นชอบได้เมื่อใด โดยสาระสำคัญของกฎหมายฉบับดังกล่าวคือ จะบังคับให้ผู้ประกอบการทุกรายตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับลูกจ้าง
ด้าน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคลัง กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.กบช.จะเป็นกฎหมายที่ช่วยให้ผู้สูงอายุมีเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยเบื้องต้นจะบังคับกับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 รายขึ้นไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยอัตราเบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณ 3%
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการกำหนดอัตราของนายจ้างและลูกจ้างจ่ายสมทบเงินเข้ากองทุนว่า จะเป็นแบบขั้นบันได โดยจะให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายสมทบเงินเข้ากองทุนฝ่ายละ 3% ในช่วง 3 ปีแรก และจะเพิ่มเป็นฝ่ายละ 5% และ 7% ในปีถัดไป ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้ลูกจ้างที่ต้องจ่ายเงินสมทบมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะในปี 2561 การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีผลบังคับใช้ ทำให้มีภาระเสียภาษีน้อยลง ถือเป็นกฎหมายสำคัญที่กระทรวงการคลังต้องการให้นำภาระภาษีที่ลดลงกลับมาเป็นเงินออมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
ขณะเดียวกัน ในร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังยกเว้นสำหรับลูกจ้างที่รายได้ไม่ถึง 10,000 บาทต่อเดือน ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ โดยให้นายจ้างจ่ายสมทบฝ่ายเดียว เพราะถือเป็นลูกจ้างที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้ มองว่าการตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ เป็นเรื่องของนายจ้างและลูกจ้างรัฐบาลไม่เกี่ยว และคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือการจ่ายสมทบของทั้งสองฝ่าย เพราะภาระการจ่ายสมทบก็นำมาเป็นรายจ่ายหักภาษีได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.กบช. คาดว่าที่ประชุมจะพิจารณาในหลักการก่อน เนื่องจากยังมีส่วนที่กระทรวงการคลังและสำนักงานประกันสังคมต้องไปหารือให้ชัดเจนในส่วนของการจ่ายสมทบ เพราะสำนักงานประกันสังคมมีแผนที่จะปรับเพิ่มเงินสมทบเช่นกัน ซึ่งต้องพิจารณาให้สอดคล้องกัน เพื่อไม่ให้ลูกจ้างได้รับผลกระทบกับรายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี