“หมอธี” ประกาศชัด 1 ต.ค.ครูเลิกงานธุรการ สพฐ.เตรียม 3 พันล้าน จ้างธุรการ-ภารโรงทั่งประเทศ ลดภาระครู พร้อมสำรวจและซ่อมแซม“บ้านพัก”แก้ปัญหาย้ายถิ่น หวังพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมประกาศนักการเมืองเข้ามา“รื้อ”ขอครูช่วยกันประท้วง
20 ส.ค.61 ที่โรงเรียนอนุบาล จ.ชุมพร นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) พร้อมด้วยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) และผู้บริหารระดับสูงของ ศธ. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่ โดยมีครู ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ศึกษาธิการภาค(ศธภ.) และศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) เข้าร่วมประชุม
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ศธ.ตกเป็นจำเลยสังคมในเรื่องการจัดการศึกษามานานพอสมควร แต่ขณะนี้เท่าที่ดูการศึกษาในภาพรวมของเราเป็นไปในทิศทางค่อนข้างดี ทั้งที่ปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมาเราได้รับงบฯน้อยลง ขณะที่ปีงบประมาณ 2562 ก็ได้งบฯน้อยลงอีก แต่ยังแก้ไขปัญหาได้หลายส่วน เช่น การอบรมครู ซึ่งที่ผ่านมาใช้งบฯปีละประมาณ 9 พันกว่าล้านบาท แต่เมื่อทำโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร ใช้งบเพียง 2 พันกว่าล้านบาท ในการอบรมพัฒนาครูกว่า 3 แสนคน ครูที่ไม่ลงทะเบียนอบรมส่วนใหญ่คือครูที่ใกล้เกษียณ เชื่อว่าปีต่อไปจะดีขึ้นสามารถพัฒนาครูได้อย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันยังขอให้ สพฐ. ไปปรับลดโครงการต่างๆที่ไม่จำเป็น เช่น การจัดกิจกรรมต่างๆที่ทำอยู่เป็นประจำทุกปี และต้องขนคนไป ซึ่งใช้งบฯจำนวนมาก ก็ขอให้ยกเลิก เว้นไว้เฉพาะการแข่งขันระดับนานาชาติ เชื่อว่าจะทำให้มีเงินเหลือจ่ายเพิ่มขึ้น เพื่อนำไปช่วยพัฒนาในส่วนอื่น
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ตนมีนโยบายจะนำเงินในส่วนนี้ไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงนำไปใช้ในการดูแลคุณภาพชีวิตครู โดยเฉพาะบ้านพักครู ซึ่งหลายแห่งมีความทรุดโทรม และจำเป็นต้องปรับปรุง ขณะที่ปีนี้จะมีครูเกษียณอายุราว 20,000 คน รวม 10 ปีจะมีครูเกษียณประมาณ 200,000 คน เมื่อมีครูเกษียณก็ต้องมีครูย้ายเข้ามาใหม่ ซึ่งครูเหล่านี้ก็ต้องมาอยู่ที่บ้านพักครู แต่มีปัญหาที่พักไม่เพียงพอ หรือบางแห่งมีความทรุดโทรม โดยที่ผ่านมา ศธ. ได้มีการซ่อมบำรุงมาตลอด แต่ตอนนี้ดูแล้วว่ามีความจำเป็นต้องสร้างใหม่ด้วย เพราะบางแห่งชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ รวมถึงไปพิจารณาแก้ไขระเบียบข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบการเข้าพักบ้านพักครู เพื่ออำนวยความสะดวก ขณะเดียวกันจะได้แก้ปัญหาไม่ให้ครูย้ายถิ่นฐานบ่อย
“ผมขอให้ผู้อำนวยการ สพท.ทุกคนไปสำรวจปัญหา และจำนวนบ้านพักครู เพื่อเร่งดำเนินการ ขณะเดียวกันยังต้องเดินหน้าลดภาระให้ครูมีเวลาสอนเด็กได้อย่างเต็มที่ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ครูไม่ต้องทำงานธุรการ โดย สพฐ.เตรียมงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท ในการจ้างครูธุรการ และนักการภารโรงให้ครบทุกโรงเรียนทั่วประเทศ” รมว.ศธ.กล่าว
รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า ขณะที่เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง โรงเรียนขนาดใหญ่ หากยังสามารถดำเนินการได้ก็ให้ทำต่อไป ส่วนโรงเรียนอื่นๆให้ สพท.รับ ไปดำเนินการแทน การดำเนินการทั้งหมดหวังว่าการย้ายถิ่นฐานของครูจะน้อยลง และจะทำให้คุณภาพชีวิตครูดีขึ้น จากนี้อีกไม่นานจะมีการเลือกตั้ง ตนพูดแบบนี้ไม่ได้จะมาหาเสียง เพราะไม่ใช่นักการเมือง แต่ที่เป็นห่วงคือกลัวว่าเมื่อนักการเมืองเข้ามาแล้ว จะทำให้ทุกอย่างที่ทำเปลี่ยนแปลง ดังนั้นนักการเมืองถ้าจะมารื้อสิ่งที่ผมทำก็ขอให้ทุกคนช่วยกันประท้วงหน่อย เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตครูดีขึ้น
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวด้วยว่า ประเด็นสำคัญที่ตนอยากย้ำ คือ การทำตามกฎหมายใหม่ โดยขณะนี้ประกาศ กฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2561 มีผลบังคับใช้แล้ว จำได้ว่าที่ผ่านมาโรงเรียนและครู จะมีปัญหากับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) มาโดยตลอด แต่ต่อไปนี้จะไม่มีแล้ว โดยจากนี้ทุกโรงเรียนจะเป็นหน่วยประกันคุณภาพภายในตัวเอง จะไม่มีการประกันคุณภาพภายในจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) อีก ผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดจะต้องรู้ตัวว่าโรงเรียนตัวเองมีคุณภาพระดับใด โดยมีหลักฐานสนับสนุน ส่วน สมศ.มีหน้าที่เข้าไปดูว่าโรงเรียนมีคุณภาพตามที่บอกหรือไม่ เพื่อเสนอแนะและปรับปรุงให้พัฒนายิ่งขึ้น แต่หากดีเลิศอยู่แล้ว ก็เป็นคำแนะนำในลักษณะการคงคุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี