แชร์สนั่นรีไซเคิล‘พะโล้บูด’ให้นร.กิน แม่ครัวรับเรื่องจริง ถกเอาผิดรร.จันทร์นี้

4 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี ว่า จากกรณีโลกออนไลน์มีการโพสต์ภาพไข่พะโล้ พร้อมมีข้อความระบุว่า “ไม่คิดว่าที่ปราจีนบุรี จะมีเรื่องโครงการอาหารกลางวันเด็กไร้คุณภาพกับเขาด้วย สายข่าวรายงานมาว่า มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี เรื่องโครงการอาหารกลางวันเด็ก  ไข่พะโล้บูด แล้วนำไปล้างน้ำแล้วนำกลับมาต้มให้เด็กกินอีก” นั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน เบื้องต้นทราบโรงเรียนที่ถูกโพสต์อ้างถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว และจากการตระเวนสอบถามนักเรียนในหลายหมู่บ้าน ทราบว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องจริง มีการนำไข่พะโล้บูดกลับมารีไซเคิลและปรุงรสใหม่ให้นักเรียนกิน ซึ่งอาหารดังกล่าวเป็นโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้น ป.6

จากการสอบถามข้อมูลทราบว่าหลังจากที่นักเรียนได้รับประทานไข่พะโล้รีไซเคิลแล้ว มีอาการปวดท้อง และท้องเสียหลายราย เบื้องต้นทางผู้ปกครองก็ไม่ทราบว่าเด็กไปทานอะไรมา แต่มีอาการปวดท้อง และไม่แน่ใจว่าเกิดจากอาหารของทางโรงเรียนหรือไม่ แต่ปกติลูกก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้ ถ้าไม่ได้รับหรือรับประทานสิ่งแปลกปลอมลงไป

จากการสอบถาม ด.ญ.เอ(นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ป.4 ของโรงเรียนดังกล่าว ระบุว่า ไข่พะโล้ มีรสเปรี้ยวและกลิ่นเหม็นเน่า แต่ก็ต้องกินและไม่กล้าบอกครู เพราะกลัวครูตี ได้แต่พูดกันในกลุ่มเพื่อนนักเรียน หลังจากรับประทานไข่พะโล้ได้ไม่นานก็ท้องเสีย คาดว่าน่าจะมาจากไข่พะโล้บูดของทางโรงเรียนที่นำกลับมารีไซเคิลใหม่ และได้นำกลับมาให้นักเรียนทาน

ด้านแม่ครัวของโรงเรียนดังกล่าว ยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยได้มีการทำไข่พะโล้ เพื่อที่จะเป็นอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนในวันที่ 30 กรกฎาคม แต่พอถึงช่วงเช้าแม่ครัวได้ไปตรวจสอบ พบว่า ไข่พะโล้ที่ต้มเอาไว้มีฟอง จึงรายงานไปยัง ผอ.โรงเรียน ซึ่งได้สั่งให้แม่ครัวนำไข่พะโล้ที่บูดไปล้างน้ำ และกลับมาต้มปรุงรสใหม่ เพื่อนำไปให้เด็กรับประทาน จนเป็นเรื่องราว อย่างที่มีการแชร์กัน

ด้านผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากมีการตรวจสอบแล้ว พบว่ามีข้อมูลความเป็นจริง จึง   ได้รายงานไปยังนายอำเภอกบินทร์บุรี และหน่วยงานที่รับผิดชอบสถานศึกษาในเบื้องต้นแล้ว โดยจะมีการเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม นี้ ซึ่งตนไม่ยอมอย่างแน่นอน ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินตามขั้นตอนต่อไป