"นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "คุณภาพการศึกษาไทย" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17 – 18 พฤษภาคม 2556 จากประชาชนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ จำนวน 1,253 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ เกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงของเด็ก คุณภาพของระบบการศึกษาไทย และการออกกฎระเบียบทรงผมของเด็กนักเรียน เป็นดังนี้
สิ่งที่ท่านเป็นห่วงหรือกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กนักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในขณะนี้ คือเรื่องใด สิ่งที่ประชาชนเป็นห่วงหรือกังวลมากที่สุด
เกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กนักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
ร้อยละ 17.40 ยาเสพติด และอบายมุขต่างๆ
ร้อยละ 14.05 การยึดติดแฟชั่นต่างชาติ วัตถุนิยม เทคโนโลยีต่างๆ
ร้อยละ 13.33 ความมีระเบียบวินัย
ร้อยละ 09.18 ความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น
ร้อยละ 08.22 การมีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
ร้อยละ 07.58 ความสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาท
ร้อยละ 06.46 ความขยันหมั่นเพียร
ร้อยละ 04.07 การใช้ของฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักอดออม
ร้อยละ 03.91 เพศสัมพันธ์ในวัยเรียน ชู้สาว
ร้อยละ 02.87 ความอดทน อดกลั้น
ร้อยละ 02.55 การทะเลาะวิวาท ความรุนแรง
ร้อยละ 08.46 อื่นๆ การติดเกมส์ การคบเพื่อน การมั่วสุม การใช้ภาษาไม่ถูกต้อง
ร้อยละ 01.92 ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ
คุณภาพการศึกษาในโรงเรียนปัจจุบันเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา
ร้อยละ 42.86 แย่ลง เพราะ เด็กไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ เน้นท่องจำ ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ ครูที่สอนไม่มีคุณภาพ ไม่เอาใจใส่หรือสอนไม่เต็มที่ เด็กติดเทคโนโลยีและไม่ใส่ใจการเรียน
ร้อยละ 41.74 ดีขึ้น เพราะทุกวันนี้มีสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยมากขึ้น มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอน มีหลักสูตรที่เข้มข้น และตัวเด็กมีการแข่งขันกันสูงทำให้เด็กหันมาเอาใจใส่กับการเรียนมากขึ้น
ร้อยละ 10.69 เท่าเดิม เพราะ เพราะยังมุ่งเน้นแต่หลักสูตรการสอนที่มีเนื้อหาด้านวิชาการมากกว่าเนื้อหาด้านคุณธรรมจริยธรรม ขาดการพัฒนาบุคลากรครูและนโยบายของรัฐที่ไม่ต่อเนื่อง
ร้อยละ 04.71 ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณภาพการศึกษาในโรงเรียนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมีการพัฒนาดีขึ้น
ร้อยละ 40.92 สื่อการเรียนการสอน
ร้อยละ 22.37 หลักสูตรการเรียนการสอน
ร้อยละ 14.72 ครูผู้สอน และการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ
ร้อยละ 09.37 ตัวเด็กนักเรียน
ร้อยละ 05.16 นโยบายทางการศึกษา
ร้อยละ 03.82 ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา รัฐมนตรี รัฐบาล
ร้อยละ 02.49 อื่นๆ เช่น ผู้ปกครอง สังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี
ร้อยละ 01.15 ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณภาพการศึกษาในโรงเรียนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมีพัฒนาการแย่ลง
ร้อยละ 29.80 ตัวเด็กนักเรียน
ร้อยละ 24.21 ครูผู้สอน และการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ
ร้อยละ 12.85 หลักสูตรการเรียนการสอน
ร้อยละ 10.24 สื่อการเรียนการสอน
ร้อยละ 09.12 นโยบายทางการศึกษา
ร้อยละ 08.01 ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา รัฐมนตรี รัฐบาล
ร้อยละ 04.28 อื่นๆ เช่น ผู้ปกครอง สังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี
ร้อยละ 01.49 ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการออกกฎระเบียบอนุญาตให้เด็กนักเรียนชายไว้ผมรองทรงได้ และเด็กนักเรียนหญิงไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบให้เรียบร้อย
ร้อยละ 56.03 เห็นด้วย เพราะ การไว้ผมสั้นหรือยาวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลการเรียนแต่อย่างใด ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิของเด็ก นักเรียนที่ยังรักสวยรักงาม และเด็กอาจจะลดพฤติกรรมการต่อต้านลงได้
ร้อยละ 39.19 ไม่เห็นด้วย เพราะ ดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เด็กอาจจะสนใจเรื่องความสวยความงามมากกว่าการเรียน กฎเดิมก็ดีอยู่แล้ว ควรไปแก้ไขในเรื่องระบบการศึกษามากกว่า
ร้อยละ 04.79 ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี