ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง อาจารย์สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการพัฒนานวัตกรรมการวิเคราะห์และรายงานการใช้หน้ากากอนามัยเป็นรายพื้นที่แบบทันท่วงที (Real-Time) ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)ว่า สามารถคำนวณผลได้ในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีด้วยการใช้สีจำแนก ได้แก่ สีเขียวคือผู้ที่สวมใส่หน้ากากถูกต้อง สีเหลืองคือผู้ที่สวมใส่ไม่ถูกต้อง และสีแดงคือผู้ที่ไม่สวมใส่เลย อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดคือยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกแหล่ง ทำให้บางแหล่งต้องใช้ภาพย้อนหลังอย่างน้อย 1 วัน
ฉะนั้นจึงอยากได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายไม่เพียงแต่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) เท่านั้น เพราะหากมีข้อมูลนี้ก็สามารถทราบถึงจำนวนผู้ใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงการรักษาระยะห่างในบริเวณต่างๆ ได้ ซึ่งในอนาคตอยากให้มีการติดตั้งโปรแกรมนี้ในสถานที่ที่มีผู้สัญจรจำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้า และอยากให้มีข้อมูลเรื่องนี้แสดงผลผ่านหน้าจอในการแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ควบคู่ไปกับการรายงานผลผู้ติดเชื้อในแต่ละวันด้วย
ขณะที่ ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ของ AI มีความสำคัญและเป็นภาพรวมของประเทศที่จะมีประโยชน์ในการบริหารสถานการณ์บุคคลได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากในอนาคตสามารถรายงานการสวมใส่หน้ากากอนามัยและจุดเสี่ยงต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ได้แบบ Real-Time ก็จะยิ่งช่วยให้สามารถจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“นอกเหนือการสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้ว นวัตกรรมนี้ยังสามารถดูอัตราการเคลื่อนไหว การรักษาระยะห่างของประชาชนได้ด้วย ขณะเดียวกันระบบการตรวจวัดอุณหภูมิในปัจจุบันก็ได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะสามารถบอกข้อมูล Real Time ได้เช่นกันว่าในพื้นที่นั้นๆมีจำนวนประชนที่มีอุณภูมิสูงเกินกำหนดเท่าใด ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะยิ่งช่วยสนับสนุนการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี” ศ.นพ.สิริฤกษ์ กล่าว
ด้าน น.ส.วิภารัตน์ ดีอ่อง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ วช. กล่าวว่า นวัตกรรมดังกล่าวเป็นผลมาจากที่ วช. ดำเนินตามนโยบายของ อว. ในการใช้นวัตกรรมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยหลังจากนี้ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะประสานไปยัง กทม. เพื่อใช้ชุดภาพประจำวันจากกล้องวงจรปิด (CCTV) และใช้ AI เข้าไปประเมินพฤติกรรมในพื้นที่ที่มีการสัญจรจำนวนมาก ก่อนจะขยายผลไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และขอยืนยันว่าการดำเนินการจะไม่มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างแน่นอน
สำหรับนวัตกรรมการวิเคราะห์และรายงานการใช้หน้ากากอนามัยเป็นรายพื้นที่แบบทันท่วงที (Real-Time) ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) เป็นความร่วมมือกันของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีผู้ร่วมพัฒนาคือ ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง และ นายกอบกฤตย์ วิริยะยุทธกรซึ่งทั้ง 2 เป็นอาจารย์สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มธ. กล่าวเสริมว่า นวัตกรรมที่คณาจารย์ มธ. คิดค้นขึ้นเรียกว่าเทคโนโลยีการประมวลผลภาพ (Image Processing) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ เพิ่งมีการใช้ประมาณ 2 ปี โดย มธ. ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในช่วงโควิด-19 ซึ่งจะช่วยวัดผลได้อย่างแม่นยำมาก เชื่อว่านวัตกรรมนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยหนุนเสริมรัฐบาลและประชาชนรับมือกับวิกฤติโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี