นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในช่วงนี้น่าห่วงมาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูกาลระบาดของโรคนี้ แม้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายมาตั้งแต่ต้นปีก็ตาม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 4,000 ราย เฉลี่ยวันละ 570 ราย เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนถึง 2 เท่า จำนวนผู้ป่วยสะสมตั้งแต่มกราคม-4 มิถุนายน รวม 39,029 ราย ร้อยละ 50 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิต 44 ราย พบทุกวัยตั้งแต่เด็กทารกจนถึงผู้สูงอายุ ใน 26 จังหวัด มากที่สุดที่จังหวัดสงขลา7 ราย รองลงมาคือ นครศรีธรรมราช สุรินทร์ เลย จังหวัดละ3 ราย สาเหตุที่พบผู้ป่วยมากเนื่องจากมีจำนวนยุงลายเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งยุงชนิดนี้ชอบอยู่ในบ้านและรอบๆ บ้าน
ชอบกัดดูดเลือดคนในเวลากลางวัน และอาจกัดตอนกลางคืนได้เช่นกันถ้ายังไม่ได้กินเลือดในตอนกลางวัน ดังนั้นความเสี่ยง ถูกยุงกัดจึงมีมากขึ้น รวมทั้งยุงลายแพร่พันธุ์แบบทวีคูณ ออกไข่ครั้งละ 100-200 ฟอง กำจัดได้ง่ายช่วงที่ยังเป็นลูกน้ำ การเทน้ำทิ้งลงพื้นดินและขัดล้างภาชนะจะช่วยลดยุงลายเป็นเท่าตัว
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า ในการรักษาชีวิตของผู้ป่วยไข้เลือดออก กระทรวงสาธารณสุขได้กำชับทีมแพทย์พยาบาลในโรงพยาบาลทุกแห่งให้การดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการให้ข้อมูล ความรู้ตอบข้อสงสัยแก่ประชาชนที่มีข้อสงสัย หรือกังวลกับอาการป่วยของคนในครอบครัว และจัดมุมให้ความรู้เรื่องไข้เลือดออก นอกจากนี้ให้กรมการแพทย์ทบทวนมาตรฐานการรักษาจัดทำเป็นคู่มือแก่แพทย์ในการวินิจฉัยและให้การรักษาผู้ป่วย และจัดทีมผู้เชี่ยวชาญออกให้คำปรึกษาแก่แพทย์ในภูมิภาคตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ปัญหาที่พบมากในกลุ่มผู้เสียชีวิตคือผู้ป่วยมักซื้อยากินเอง บางรายซื้อยาลดไข้ชนิดที่มีฤทธิ์เสริมให้เกิดเลือดออกในอวัยวะภายใน เช่น ไอโบรบูเฟน แอสไพริน รวมทั้งยาสเตียรอยด์ บางรายไปพบแพทย์ช้า
“ขอให้ข้อสังเกตแก่ประชาชนเพื่อช่วยกันลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้เลือดออก ซึ่งโรคนี้โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะหน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก และจะมีไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน หากหลังไข้ลงแล้วผู้ป่วยสดชื่นขึ้นแสดงว่าฟื้นไข้ แต่หากไข้ลงแล้วแม้จะพูดได้ เดินได้ แต่มีอาการซึม อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เบื่ออาหาร ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนถือเป็นสัญญาณของอาการช็อก ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องหมดสติหรือชักตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ หากไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์โอกาสเสียชีวิตจะสูง ขอให้รีบพาไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด” นายแพทย์ณรงค์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี