ฉาวอีก!!'พระไฮโซ'นอนคู่สีกา พศ.ลั่นผิดจริงจับสึกแน่
วันอังคาร ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556, 13.21 น.
Tag :
วันนี้ 18 มิ.ย. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีภาพและคลิปของพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งอยู่บนเครื่องบินเจทส่วนตัว ถือกระเป๋าหรู สวมแว่นตาดำยี่ห้อดัง ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนกระทั่งมีการสืบทราบว่าเป็นหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก พระชื่อดังซึ่งจำวัดอยู่ที่วัดป่าขันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ
ล่าสุดมีภาพอั้มบั้มอีกชุดหลุดออกมา โดยพระในรูปมีใบหน้าคล้ายคลึงหลวงปู่เณรคำ ในลักษณะนอนถอดเสื้อนอนอยู่ข้างสีกา โดยแหล่งข่าวระบุว่า ภาพชุดนี้เป็นภาพที่หลุดออกมาในโลกอินเทอร์เน็ตนานแล้ว แต่ยังไม่เคยถูกตรวจสอบเลยจนกระทั่งเกิดประเด็นฉาวขึ้น ทั้งนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะตรวจสอบคลิปและอั้มบั้มภาพดังกล่าว หากพบว่ากระทำผิดจริงจะลงโทษขั้นเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นความผิดขั้นปาราชิก
ทั้งนี้ นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ ได้ลงพื้นไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่วัดพบว่ามีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบเหงา ผิดแปลกไปจากแต่ก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้วัดแห่งนี้มีพุทธศาสนิกชน และลูกศิษย์จำนวนมากเดินทางมาบูชาวัตถุมงคล และกราบไหว้สักการะพระแก้วมรกตจำลอง องค์ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นจำนวนมาก
นายวิรอด กล่าวต่ออีกว่า ตนได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าพระในคลิปดังกล่าวเป็นหลวงปู่เณรคำหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้ติดต่อประสานไปยังคณะกรรมการของวัดป่าขันติธรรม แต่ยังไม่ได้รับคำตอบในเรื่องนี้ แต่จากการสอบถามพระลูกวัดได้รับคำตอบว่า หลวงปู่เณรคำได้เดินทางไปต่างประเทศเป็นระยะเวลาหลายเดือน และส่วนใหญ่จะะเดินทางกลับมาเฉพาะวันที่มีการจัดงานพิธีสำคัญเท่านั้น ซึ่งคาดว่าหลวงปู่คำจะเดินทางกลับมาช่วงที่วัดจัดพิธีห่มผ้าฤดูพระแก้วมรกตจำลอง ในช่วงระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย. 56 นี้
นายวิรอด ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับกรณีที่พระสงฆ์มีกิจนิมนต์เร่งด่วน และมีความจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินส่วนตัวนั้น ในหลักความผิดทางศาสนาไม่ได้กำหนดในเรื่องนี้แต่อย่างใด สามารถกระทำได้ ทั้งนี้เครื่องบินส่วนตัวอาจจะเป็นลูกศิษย์ หรือญาติโยมที่มีฐานะดี บริจาคให้เพื่อใช้ในกิจของสงฆ์ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความผิด ส่วนประเด็นเกี่ยวกับภาพหลุดพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้ที่มีหน้าตาคล้ายกับหลวงปู่เณรคำรูปถ่ายคู่กับสีกา ขณะนี้อยู่ในขั้นดำเนินการตรวจสอบหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงจะต้องสึกออกไป
นายวิรอดยังกล่าวต่ออีกว่า ตนได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ใน 2 ประเด็นคือ 1.ตรวจสอบประวัติที่พักสงฆ์ที่พำนักของหลวงปู่เณรคำปัจจุบันว่าถูกต้องหรือไม่ เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบที่หลวงปู่เณรคำพำนักอยู่นั้นเรียกว่าที่พักสงฆ์ทั่วไป ไม่มีสถานะเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักพุทธฯ กล่าวคือเมื่อพระสงฆ์พักที่ไหนก็สามารถสร้างที่พักสงฆ์ได้ ไม่ใช่วัดหรือสำนักสงฆ์ 2.ตรวจสอบประวัติของหลวงปู่เณรคำว่าปัจจุบันท่านสังกัดวัดไหน เจ้าคณะปกครองใด เพราะเท่าที่ทราบแต่เดิมท่าสังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ จ.อุบลราชธานี การเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหลวงปู่เณรคำค่อนข้างยาก เพราะเป็นพระธรรมยุต ท่านมักไม่เปิดเผยว่าปัจจุบันอยู่ในสังกัดไหน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบค่อนข้างยาก เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือ
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดป่าขันติธรรม เปิดเผยว่า ปกติแล้วชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ จะไม่พากันเข้ามาทำบุญที่วัดป่าขันติธรรม เนื่องจากทราบข่าวมานานแล้วว่าพฤติกรรมของพระวัดนี้มีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ชาวบ้านส่วนมากจะทราบเรื่อง แต่ว่าไม่กล้าพูด เพราะเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากอิทธิพลมืด เนื่องจากว่า มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้ามาที่วัดนี้บ่อยมาก และหลวงปู่เณรคำจะมีรถตำรวจทางหลวงนำขบวนตลอดเวลา จึงพากันเชื่อว่า จะต้องมีนายตำรวจ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่หนุนหลังอยู่ แม้ว่จะทราบเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง แต่ว่าชาวบ้านไม่กล้าที่จะพูด
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 999/10 บ้านทรายมูล หมู่ 2 ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามวัดประจำหมู่บ้าน มีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ส่วนหนึ่งทำเป็นบ้านพักของนายรัตน์ และนางสุดใจ สุขผล บิดาและมารดาของหลวงปู่เณรคำ อีกส่วนสร้างเป็นที่ทำการมูลนิธิหลวงปู่เณรคำ ซึ่งใหญ่โตมโหฬารกว่าบ้านในทุกหลังบริเวณนั้น
ภายในบ้านมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ช็อปเปอร์จอดอยู่หลายคัน ผู้สื่อข่าวพบกับหญิงวัยกลางคนแจ้งว่าเป็นผู้ดูแลบ้าน ส่วนพ่อแม่ของหลวงปู่เณรคำอยู่ระหว่างพักผ่อนอยู่ในบ้าน อ้างไม่ทราบเรื่องราวใดๆ จึงไม่ขอให้ความเห็น
.jpg)


บ้านพ่อ-แม่ หลวงปู่เณรคำ