สธ.ไทยหนุน6ประเทศลุ่มน้ำโขง
สร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
แก้ปัญหาสาธารณสุขแนวชายแดน
นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมสรุปผลการอภิปรายและแนวทางการดำเนินงานต่อในอนาคต ในการประชุมสาธารณสุขแนวชายแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Biregional Meeting on Healthy Borders in the Greater MeKong Subregion) จัดโดยองค์การอนามัยโลก ที่โรงแรมรอยัลออร์คิด เชอราตัน กทม. โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงต่างๆ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข พาณิชย์ เกษตร แรงงาน ต่างประเทศ การท่องเที่ยว ทรัพยากรฯ จาก 6 ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ไทย และจังหวัดยูนนาน ประเทศจีน ภาคเอกชน เช่น สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ธนาคารเพื่อการพัฒนา (Development Bank) และองค์กรเอกชน เข้าร่วมประชุมประมาณ 180 คน เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพประชากรที่เคลื่อนย้าย แรงงาน และประชาชนที่อาศัยในพื้นที่แนวชายแดน 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงร่วมกันในอนาคต
ทั้งนี้ประเทศไทยมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศคือ พม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย ซึ่งโรคตามแนวชายแดน แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยโรคที่ยังพบในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เช่น เอชไอวี เอดส์ วัณโรค มาลาเรีย โรคอุบัติใหม่ ปัญหาอนามัยแม่และเด็ก รวมทั้งปัญหาการค้ามนุษย์ ล่าสุดการรวมเศรษฐกิจของภูมิภาคเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 จะส่งเสริมการค้าบริเวณชายแดน เกิดการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของประชาชนในภูมิภาคเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ปัญหาสาธารณสุขตามแนวชายแดนมีความรุนแรงขึ้น ทั้งโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อุบัติเหตุจราจร รวมทั้งอาหารและผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ เช่น เหล้า บุหรี่ ที่ผ่านเข้ามาในประเทศด้วย
ปัญหาสาธารณสุขแนวชายแดนเป็นปัญหาของทั้งภูมิภาค ไม่ใช่ประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงต้องอาศัยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและ
ความร่วมมือในระดับนานาชาติ เพื่อระดมทรัพยากรและการสนับสนุนในการวางแผนและการดำเนินงานแก้ไขปัญหาของ ภูมิภาค เป้าหมายสูงสุดในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขแนวชายแดนคือการสร้างหลักประกัน สุขภาพถ้วนหน้าของภูมิภาคให้เกิดขึ้น โดยการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีขั้นตอนการพัฒนา 3 ขั้น ขั้นแรกคือการสร้างระบบบริการสุขภาพและพัฒนาบุคลากร โดยรับบุคลากรสาธารณสุข เช่น แพทย์จากประเทศเพื่อนบ้านเข้าทำงานในโรงพยาบาลแนวชายแดนไทย โดยได้รับใบอนุญาตชั่วคราว และมีสิทธิ์รับการพัฒนาศักยภาพต่อในไทย ขั้นที่ 2 สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยสร้างหน่วยบริการปฐมภูมิในประเทศเพื่อนบ้านตลอดแนวชายแดนไทย ระบบส่งต่อในชุมชน และโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิ หน่วยบริการปฐมภูมิรับผิดชอบดูแล ทั้งการควบคุมโรค เอชไอวี เอดส์ วัณโรค มาลาเรีย และการดูแลรักษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งพัฒนาโรงพยาบาลที่มีอยู่เพื่อให้บริการระดับทุติยภูมิ และขั้นสุดท้ายการระบุสิทธิประโยชน์หลักและพัฒนารูปแบบระบบการเงินด้าน สุขภาพ เพื่อเริ่มต้นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยไทยพร้อมจัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลังด้านสุขภาพเพื่อร่วมทำงาน กับประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรนานาชาติอื่นๆ เพื่อให้ได้รูปแบบหลักประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับบริบทของภูมิภาค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี