ดร.ภาวิช ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ในงานครบ 121 ปี วิทยาลัยครู ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2556 ถึงเรื่องการสอบวัดผลคุณภาพการศึกษา หรือ พีซ่า ว่า การสอบวัดผล พีซ่า มันเหมือนกับเป็นการตรวจสุขภาพทางการศึกษา ทุกประเทศยอมรับกันเหมือนหมด เพราะเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่า คุณภาพการศึกษาของแต่ละคนเป็นอย่างไร มีคุณภาพดีมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากการสอบแบบพีซ่า เขามีการทำวิจัย และพิสูจน์ออกมาแล้วว่า เป็นคะแนนที่มีมาตรฐานที่สุด ไม่ว่าคุณจะวัดผลตรงจุดไหน ทุกอย่างจะมีความสมบูรณ์ไปหมด เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก หลายๆ ประเทศจึงหันมาที่จะเอาคะแนนวัดผล พีซ่า เป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพการศึกษาของประเทศของตน อย่าง ประเทศมาเลเซีย ตั้งเป้าเอาไว้เลยว่า ภายใน 15 ปี เขาจะทำคะแนนพีซ่าของนักเรียนในประเทศเขาให้ติด 1 ใน 3 ของโลกให้ได้ โดยจะเริ่มในปี 13 นี้ ทั้งนี้เนื่องจาก นักวัดผลที่ออกแบบการสอบแบบพีซ่า เขาออกแบบการวัดผลเอาไว้อย่างแยบยลมาก คือ ไม่ใช่จะวัดผลแค่ความรู้อย่างเดียว แต่เขาวัดผลถึงการวิเคราะห์ด้วย

สำหรับประเทศไทย เรามีผลการประชุม ครม.ผ่านมาแล้วว่าจะจัดตั้ง แผนปฏิบัติการสอบพีซ่า หรือวอร์รูมพีซ่า ขึ้น ซึ่งคาดว่าในวันที่ 4 ที่จะถึงนี้ คงจะประกาศออกมาได้ว่า มีใครอยู่ในคณะกรรมการบ้าง ส่วนหัวหน้าของวอร์รูม กำหนดไว้แล้วว่าเป็น อาจารย์ธงชัย ซิวปรีชา เป้าหมายคือในปี 2015 เราสามารถส่งเด็กไทยเข้าไปสอบวัดผลพีซ่าได้ เนื่องจากการสอบวัดผลพีซ่า เขาจะสอบกัน สามปี ต่อครั้ง ตอนนี้ เราก็เตรียมเด็กที่กำลังเรียนอยู่ในชั้น ม.1-2 พอถึงปี 2015 เด็กพวกนี้ก็จะอยู่ในชั้น ม.4 ทาง วอร์รูม จะต้องเตรียมเด็กพวกนี้ให้เข้ม เพราะเท่าที่ผ่านมา เด็กไทยเราสอบพีซ่าไม่ผ่านตั้งแต่ก้าวแรกแล้ว คือ การสอบพีซ่า เขาจะจัดสอบ 3 อย่าง คือ การอ่าน, คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เด็กไทยของเราที่ส่งเข้าไปสอบ แค่อ่านข้อสอบก็ยังอ่านไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น วอร์รูมจะต้องเตรียมความพร้อมเหล่านี้ให้เข้ม ต้องมีการปรับปรุงการอ่านครั้งใหญ่ นี่เป็นแผนระยะสั้นที่เราต้องทำ ส่วนแผนระยะยาวเราต้องนำไปใช้เพื่อหลักสูตรใหม่ คือ แบ่งออกเป็นสองช่วงชั้น คือ ช่วงแรกในชั้น ม.1-3 เป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่พีซ่า เพื่อเข้าวัดผลกับการสอบพีซ่า จากนั้นก็เข้าสู่แผนระยะยาวคือ ปรับการสอนทั้งหมด

สำหรับการจัดตั้งคณะทำงาน พีซ่า จะแบ่งเป็น 2 ระดับ คือระดับ นโยบาย โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯเป็นประธาน และระดับปฏิบัติการ ทั้งนี้เนื่องจากการปฏิบัติการเรื่องพีซ่า จะต้องมีการสั่งงานไปยังแท่งอำนาจต่างๆ ในกระทรวงศึกษาฯ จึงต้องไปเกี่ยวกับรัฐมนตรีด้วยที่เป็นคนสั่ง ปีใหม่นี้จะมีการสอบอีกหัวข้อหนึ่งคือ การแก้ปัญหาร่วมกัน และมีการสอบที่ไม่บังคับอีกวิชาคือ การสอบเรื่องการเงิน ที่แสดงให้เห็นว่า ทั่วโลกเขากำลังมองถึงผลสะท้อนของการใช้เงินของคนในประเทศ