แก๊งมิจฉาชีพบุกรพ.รามา
ตีซี้วางยารูดทรัพย์คนไข้
ตร.เต้นส่งชุดสืบตามล่า
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมว่า รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ส่งหนังสือเวียนถึงหน่วยงานภายในโรงพยาบาลเตือนภัย โจรอาละวาดวางยาปลดทรัพย์คนไข้ เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติระวังตัวมากขึ้น โดยเนื้อหาในหนังสือระบุ เนื่องด้วยสัปดาห์ที่ผ่านมามีมิจฉาชีพเข้ามาปลดทรัพย์ผู้ป่วยนอก ที่รอรับการรักษาในโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยใช้สารโซลาซีน (Xylazine) ซึ่งเป็นสารไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี และดูดซึมได้เร็วทางกระเพาะอาหารทำให้ผู้ป่วยหมดสติหรือเสียชีวิต โดยวิธีการผสมน้ำและนำมาให้ผู้ที่รอรับบริการในโรงพยาบาลดื่ม ทั้งนี้ โรงพยาบาลได้สอบถามสน.พญาไท ปรากฏว่าเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ในโรงพยาบาลอื่นๆ เช่นกัน
รศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มักพบกรณีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุล้วงกระเป๋า ซึ่งมีประกาศเตือนสม่ำเสมอ สำหรับกรณีมอมยาปลดทรัพย์ ผู้เสียหายเข้ามาเล่าให้โรงพยาบาลฟัง ทำให้ทราบว่ากรณีนี้เป็นการมอมยา โดยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาผู้ทำผิดแล้ว ส่วนมาตรการเรื่องยา โรงพยาบาลประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อหาแนวทางป้องกันในระยะยาวต่อไป
ด้านร.ต.ท.สมพร ชูนุ่น ร้อยเวร สน.พญาไท เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่าน เวลา 23.00 น.รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายว่า เมื่อเวลา 9.00 น.วันเดียวกันไปหาหมอที่โรงพยาบาลรามาฯ และะนั่งทานข้าวที่โรงอาหารในโรงพยาบาล ต่อมามีผู้ชายซื้อน้ำมาให้ ทำให้เหยื่อตายใจว่าเป็นผู้หวังดี เมื่อผู้เสียหายดื่มน้ำที่คนร้ายซื้อให้ ก็หมดสติ พอฟื้นขึ้นมาพบทรัพย์สินหายไป หลังเกิดเหตุตำรวจประสานไปยังโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด และให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบพยานหลักฐานโดยละเอียด
ขณะที่พ.ต.ท.บรรยง แดงมั่นคง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ (พงส.ผนพ.)สน.พญาไท ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า พฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้จะทำทีเข้าไปตีสนิทกับผู้ป่วย ที่มารอรับการรักษาเพียงคนเดียว โดยซื้ออาหารและเครื่องดื่มมาให้ เมื่อเหยื่อดื่มแล้วหมดสติจะลงมือฉกโทรศัพท์มือถือ ทรัพย์สินมีค่าหลบหนีไป ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจสน.พญาไทรับแจ้งเหตุถูกแก๊งมิจฉาชีพมอมยารูดทรัพย์ที่รพ.รามาธิบดี 2 ราย และรพ.ราชวิถีอีก 1 ราย จึงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย และกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งอาจตรงกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันที่รพ.สงฆ์เมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งลักษณะคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์อายุ 30 ปี และถูกออกหมายจับแล้ว ส่วนมาตรการเฝ้าระวังได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตบุคคลที่มีพิรุธภายในโรงพยาบาล
พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.ดูแลงานสืบสวนเปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เชื่อว่าน่าจะเป็นแก๊งเดียวกันที่ตระเวนก่อเหตุมอมยารูดทรัพย์เหยื่อตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ผ่านมารับแจ้งเหตุดังกล่าวตามโรงพยาบาลหลายแห่งได้แก่ รพ.รามาธิบดี รพสงฆ์ รพ.พระมงกุฎเกล้าและรพ.ราชวิถี โดยแก๊งดังกล่าวอาละวาดมอมยารูดทรัพย์ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจเร่งหาหลักฐานจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้อยู่
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารแลยา(อย.) ภญ.ประภัสสร ธนะผลเลิศ รักษาการ ผอ.อย.กล่าวว่า สารไซลาซีน (Xylazine) เป็นยาสำหรับสัตว์ จัดเป็นยาอันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ยานี้มีฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง ส่วนมากใช้เคลื่อนย้ายสัตว์ ทำให้สัตว์ซึม สงบนิ่ง ออกฤทธิ์ประมาณ 20 นาที อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานใช้ในคนแล้วจะส่งผลอย่างไร แต่มีข้อมูลทางวิชาการระบุผลข้างเคียงทำให้หัวใจเต้นช้า เต้นผิดจังหวะ ปัสสาวะมาก ความดันต่ำ น้ำตาลในเลือดสูง ปากแห้งและมีอาการในระบบทางเดินหายใจและระบบเลือด หากผู้รับยาเป็นผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็ก หรือ ผู้มีโรคประจำตัว อาจเกิดผลกระทบรุนแรงกว่าคนปกติทั่วไป อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นยาอันตราย แต่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาที่มีเภสัชกร ดังนั้น สัปดาห์หน้า อย.จะประชุมผู้เชี่ยวชาญหามาตรการควบคุม ไม่ให้คนร้ายนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยยกระดับเป็นยาควบคุมพิเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี