เชียงรายหนาวยะเยือก
อุณหภูมิลดจ่อ10องศา
ชาวบ้านลุ้น‘หิมะ’ตก
เตือนดื่มเหล้าถึงตาย!
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย รายงานสภาพอากาศจากบริเวณท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง ว่ามีอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าอยู่ที่ 14.7 องศาเซลเซียส ซึ่งลดต่ำลงจากช่วงเดียวกันของวันก่อนหลายองศาเซลเซียส เป็นผลมาเกิดฝนตกหนักในช่วงบ่ายถึงเย็นของวันที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนต้องนำเสื้อผ้ากันหนาวกันมานุ่งห่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ขณะที่ยังคงมีลมเย็นพัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่พยากรณ์ว่า สภาพดังกล่าวจะทำให้อุณหภูมิยังคงลดต่ำลงอีกเล็กน้อยไปตลอดสัปดาห์นี้โดยอุณหภูมิจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 องศาเซลเซียส
ขณะที่บรรดานักท่องเที่ยวและภาคธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งมีการติดต่อค้าขายและสื่อสารด้านการท่องเที่ยวกับเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ ห่างจาก จ.เชียงราย ประมาณ 1,000 กม. แจ้งว่า ได้มีหิมะตกที่เมืองคุนหมิงแล้ว ประกอบกับข่าวหิมะตกในประเทศอียิปต์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตร้อน ทำให้มีประชาชนพากันวิพากษ์วิจารณ์และตั้งความหวังว่า อยากให้มีโอกาสเกิดหิมะตกในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
นายพีรัตน์ เรืองสุกใส ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย กล่าวว่า ระยะนี้ความกดอากาศสูงจากตอนบนได้แผ่ปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นระลอกถี่ขึ้น ทำให้มากระทบกับเมฆหมอกเดิมที่เคยแผ่ปกคลุมทำให้เกิดฝนตกหนักเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม จากนั้นเมฆค่อยๆ ถูกดันลงไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดความหนาวเย็นตามฤดูกาล แต่ก็คาดว่าอุณหภูมิระดับ 10-12 องศาเซลเซียสคงจะเป็นระดับต่ำสุดสำหรับพื้นที่ราบส่วนพื้นที่ดอยสูงอาจจะต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส
นายพีรัตน์ กล่าวว่า สภาพหนาวเย็นเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปจนถึงช่วงต้นเดือนมกราคม 2557 จากนั้นอุณหภูมิจึงจะค่อยๆ อบอุ่นและร้อนตามลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม สภาวะอากาศหนาวเย็นที่ จ.เชียงรายคงจะไม่ถึงขั้นทำให้เกิดหิมะเหมือนที่เมืองคุนหมิง
“การเกิดหิมะต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียสนานติดต่อกันหลายวันและต้องมีความชื้นในอากาศด้วยแต่ที่บ้านเราอุณหภูมิเคยต่ำสุดที่เคยวัดกันเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2517 และวันที่25 ธันวาคม 2552 ต่ำสุดที่ 1.5 องศาเซลเซียส หรือบางปีต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส แต่ก็เกิดขึ้นเพียงวันเดียว รวมทั้งไม่มีความชื้นในอากาศรองรับด้วย ทำให้ไม่น่าจะมีหิมะเกิดขึ้นแน่นอน” นายพีรัตน์ กล่าว
วันเดียวกัน นพ.ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด อาจมีทำให้ประชาชนเจ็บป่วยได้ เนื่องจากสภาพร่างกายปรับตัวไม่ทัน ซึ่งเสี่ยงกับหลายโรค โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ หอบหืด หลอดลมอักเสบ ปอดบวม อีกทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้เลือดมีความหนืด หัวใจทำงานหนัก อาจทำให้ช็อคเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ กลุ่มที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษได้แก่ เด็กเล็กและผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ จึงขอให้ป้องกันด้วยการสวมเสื้อผ้าหลายชั้น สวมหมวก ผ้าพันคอ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายอย่างเพียงพอ
นพ.ชำนาญ กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าคลายหนาว ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการดื่มสุราในระยะแรกจะทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบเนื่องจากหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ความร้อนจะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลง ระบบไหลเวียนเลือดหนืดขึ้น หากดื่มจนเมามากหลับไม่รู้สึกตัว และไม่สวมเสื้อกันหนาวหรือไม่ห่มผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเพียงพอ และการนอนหลับในสภาพอากาศเย็นเป็นเวลานานก็ทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้การดื่มสุราอาจส่งผลกระทบทำให้ติดเชื้อไวรัส แอลกอฮอล์จะทำลายตับและเยื่อบุกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ทำให้เจ็บป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย
“เพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยในฤดูหนาว ขอให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นผัก ผลไม้สด ซึ่งมีวิตามินซีช่วยเสริมภูมิต้านทานโรค ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งๆ ละ 30 นาที นอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชม. สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย จุดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือ ศีรษะ คอ และหน้าอก ซึ่งต้องสวมหมวก ผ้าพันคอ และเสื้อหนาๆ ให้ความอบอุ่นเป็นพิเศษ” นพ.ชำนาญ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี