วันที่ 9 เมษายน 2568 จากกรณีชายวัย 50 ปี ใส่เสื้อสีน้ำเงิน สวมหมวกแก๊ป ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า บุกเข้าห้างทองแห่งหนึ่งใน ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  แล้วใช้ปืนขู่ชิงทอง ก่อนคว้าเก้าอี้วางคั่นประตูร้านไว้ จากนั้นเดินเข้าไปบริเวณตู้โชว์ทองรูปพรรณ และใช้มือรวบสร้อยทองคำ 4 ถาด ใส่กระเป๋าสะพาย ท่ามกลางพนักงานที่ตื่นตกใจ บางคนวิ่งหนีออกนอกร้าน บางคนยกมือไหว้ขอชีวิต แล้วพากันหลบหนีและอาศัยจังหวะนั้นโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่คนร้ายไม่สนใจเดินออกจากร้านไปอย่างใจเย็น ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม สีแดง ที่จอดห่างจากร้านประมาณ 20 เมตร หลบหนีลอยนวล ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 2 นาทีเท่านั้น

เบื้องต้นสร้อยคอทองคำถูกชิงไปทั้งหมดน้ำหนัก 184 บาท ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท 21 เส้น (21 บาท) สร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท 30 เส้น (60 บาท) สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท 20 เส้น (40 บาท) สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 3 บาท 21 เส้น (63 บาท) รวมมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท

ต่อมา เจ้าหน้าที่ สภ.หาดใหญ่ ลงพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามถนนโดยรอบที่เกิดเหตุ แกะรอยจนพบรถของคนร้ายตรงกับทะเบียนที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ จอดทิ้งข้างต้นไม้ ในซอยแสงศรี ตัดกับซอยทิพรัตน์ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านทองประมาณ 1 กิโลเมตร

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ละแวกดังกล่าวให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายจอดรถและเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หลังบ้าน แล้วเดินออกจากซอยไปทางตลาดกิมหยง โดยไม่ทราบว่าก่อเหตุชิงทองมา แต่เห็นว่าคนร้ายเปลี่ยนจากกางเกงขายาวเป็นขาสามส่วนแทน

เมื่อตรวจสอบชื่อของผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบว่าเป็นของบริษัทแห่งหนึ่ง ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา

ขณะที่ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่าตอนนี้รู้ตัวคนร้ายแล้ว คาดว่าเป็นชาวมาเลเซีย ทราบชื่อคือ นายยีบุนลง ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในหาดใหญ่ เมื่อปี 60 โดยครั้งนั้นได้ทองไป 31 เส้น น้ำหนักทองรวม 115 บาท มูลค่าว่า 2.3 ล้านบาท หลังถูกจับกุมถูกจำคุกหลายปีและเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ปีเศษ

จากการสืบประวัติทราบว่าคนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุฆ่าคนในประเทศมาเลเซียมาแล้วเป็น 10 ราย และในไทยอีก 2 ราย เป็นพี่น้องกัน เพราะโกรธที่ถูกด่าบุพการี ตอนนี้รอเพียงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัวเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ได้ตั้งค่าหัวผู้แจ้งเบาะแส 1 แสนบาท ตอนนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายดังกล่าว

ล่าสุดศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับแล้ว ในความผิดฐานชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน และทำด้วยประการใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

ส่วนความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มีการระดมทีมสืบสวนทั้งตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังเกิดเหตุ โดยตามไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ในเมืองหาดใหญ่ รวมถึงในพื้นที่ อ.สะเดา เชื่อว่าน่าจะยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ ไม่น่าจะหลบหนีออกไปยังมาเลเซีย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คนร้ายบุกเดี่ยว ชิงทองร้านดังกลางเมืองหาดใหญ่ กวาดไปกว่า 138 บาท ก่อนซิ่งจยย.หนี