ขนเงินออกนอกประเทศ
แก๊งโกงข้าว
ดึงปปช.ทั่วโลกแกะรอย
‘วิชา’แฉสุดยอดความชั่วร้าย
เสก7แสนล้านหายเข้ากระเป๋า
ปัดน้อยใจสนช.คว่ำถอดถอน
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ลานกิจกรรมอเวนิวโซนศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทุจริต และโครงการ “ดู Cheat don’t cheat เป็นวัยรุ่นต้องกล้าโชว์ใจฮีโร่ต่อต้านโกง” ภายใต้โครงการยุวทูต ป.ป.ช. โดยมีนายวิชา มหาคุณ
กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานเปิดโครงการ
นอกจากนี้ยังมีการเสวนาในหัวข้อ “เมื่อการทุจริตมีรอบตัว รัฐหรือเราที่ต้องแก้” โดยนายวิชา กล่าวช่วงหนึ่งว่า ในต่างประเทศเรตติ้งด้านการโกงของประเทศไทยโกงสูงมาก สอบตกทุกปี น่าอับอายและขายหน้าหรือไม่ หรือต้องนำปี๊บมาคุมหัวแบบนายสุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ปลุกจิตสำนึกร่วมต่อต้านทุจริต
“มาตรฐานเรื่องการโกง นานาชาติเขารับไม่ได้ แล้วเราจะไม่เปลี่ยนหรือ ในขณะที่ประเทศอื่นปรับเปลี่ยนแล้ว แต่เรายังย่ำเท้าอยู่กับที่ ดังนั้นต้องร่วมมือร่วมใจกัน เริ่มต้นต้องไม่คิดเอาของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเรา รวมทั้งไม่เอาของที่เป็นสาธารณประโยชน์หรือสาธารณสมบัติของชาติ เช่น ภูเขา ต้นน้ำ ลำธาร แต่ต้องรวมกันพิทักษ์ไว้ยิ่งกว่าของส่วนตัว”นายวิชา กล่าว
ซัดโกงข้าววางแผนไว้ล่วงหน้า
และว่า ปัจจุบันจำนวนคดีทุจริตมีมากขึ้นเรื่อยๆ มาเหมือนกับสายน้ำ หากไม่มีเขื่อนตั้งรับไว้ รับรองน้ำท่วมองค์กรหมดแล้ว นอกจากคดีมากมายแล้วยังมีความสลับซ้อน เช่น การทุจริตเชิงนโยบาย โดยเข้ามาปกครองบ้านเมืองแล้วกำหนดว่าจะต้องออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์พรรคพวก คิดแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว อาทิ การทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของกทม. หรือการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว
เสกเงิน7แสนล้านเข้ากระเป๋า
ทั้งนี้วิธีการเรียกว่าจำนำ แต่ก็คือการให้เงินฟรี จะเห็นว่าชาวนาปล่อยข้าวให้แล้วไม่เอากลับคืน ไม่มีชาวนาที่ไหนมารับข้าวคืนจนล้นโกงดัง กระบวนการเหล่านี้คนคิดต้องเรียกว่าสุดยอดของความชั่วร้าย ทำให้เงินที่รัฐจ่ายไป 7 แสนล้านบาทหายไปเข้ากระเป๋าพรรคพวกตัวเอง ถือเป็นการโกงที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเอาชนะการโกงที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ได้เลย เพราะเป็นกระบวนการที่มีความรู้ความชำนาญ
แฉเงินโกงขนออกนอกประเทศ
“ดังนั้นคนที่ทำหน้าที่ไต่สวนต้องมีความเชี่ยวชาญเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นหาไม่เจอว่าเงินหายไปไหนเพราะเงินที่โกงจากโครงการรับจำนำข้าว ส่วนใหญ่ขณะนี้ขนออกไปนอกประเทศ ไม่ได้อยู่ในประเทศ ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ร่วมมือกับ ป.ป.ช.ทั่วโลกที่มีการลงนามในเอ็มโอยูกันเอาไว้ เพื่อจะได้รู้ว่าคนของเราไปประเทศเขาแล้วฝากเงินไว้ในธนาคารใดบ้างโดยป.ป.ช.ประเทศนั้นๆจะช่วยหาข้อมูลของเงินให้เรา” นายวิชากล่าว
กร้าว!ไม่ปรองดองพวกขี้ฉ้อ
นายวิชา ยังกล่าวถึงแนวทางการทำงานของ ป.ป.ช.ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันด้วยว่าไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ป.ป.ช.ต้องทำงานและทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริตมีคนพูดกันหลายครั้งว่าบ้านเมืองปรองดองแล้ว เหตุใด ป.ป.ช.จึงไม่ปรองดองบ้าง ถามว่าเมื่อมีคนที่ทุจริตโกงบ้านโกงเมืองแล้ว จู่ๆ จะบอก ป.ป.ช.ว่าปรองดอง เลิกแล้วต่อกัน คงเป็นไปไม่ได้ จะไปมโนทั้งที่บอกปาวๆว่าเผาเลยพี่น้องแล้วจะมาปรองดอง ซึ่งไม่ใช่ แต่ถ้าทะเลาะเบาะแว้งกันแล้วจะมาปรองดองอันนี้ได้ เพราะต้องอยู่ร่วมแผ่นดินกัน
จุดจบสุดท้ายต้องอยู่ที่ศาล
“ที่มีการฟ้องร้องหรือร้องทุกข์กล่าวโทษกันแล้วมาบอกให้ ป.ป.ช.เลิกเถอะ แยกย้ายกลับบ้าน ซึ่งไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะมี ป.ป.ช.ทำไม ในเมื่อมีการโกงปรากฏขึ้นต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ถ้าทำอย่างนั้นเท่ากับว่าโกงแล้วเลิกได้ ป.ป.ช.ไม่ทำอะไร ดังนั้น สถานการณ์ขณะนี้ ป.ป.ช.ต้องทำหน้าที่ของตัวเองไป ส่วนจะจบอย่างไร ไม่ได้จบที่เรา แต่จบที่ศาล และสนช. ภารกิจใครมีก็ทำไป ทำหน้าที่ตนเองให้ดี” นายวิชากล่าว
นักวิชการแนะตั้งเครือข่ายสู้
นายอุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของการคอรัปชั่นมาจากภาครัฐ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และ เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ แต่เนื่องจากสังคมปัจจุบันเป็นสังคมบริโภคนิยม ซึ่งทุกคนแสวงหาสิ่งที่ต้องการ รวมทั้งทรัพย์สินเงินทอง ทำให้ความโลภเข้าครอบงำ จึงจำเป็นต้องมีกระบวนการสร้างค่านิยม สร้างคุณค่าที่ดี รวมทั้งสร้างวัฒนธรรมในการต่อต้านการโกง โดยอาจมีการรวมกลุ่มเพื่อดำเนินกิจกรรมในลักษณะที่เป็นเครือข่าย เพื่อช่วยกันป้องกันการทุจริต
ปลุกโจ๋เริ่มจากเลิกโกงข้อสอบ
น.ส.สุนทรี ปรางค์ทอง ยุวทูต ป.ป.ช.ภาคกลาง กล่าวว่า เยาวชนไม่ควรมองว่า การโกงเป็นเรื่องไกลตัว เพราะการโกงมีอยู่ทุกพื้นที่ หากเยาวชนเริ่มต้นโกงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การลอกข้อสอบ ต่อไปก็จะทำให้เป็นนิสัยและติดไปสู้สังคมในอนาคต
ขอข้อมูลจีนมัด”บุญทรง”
ภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ นายวิชา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการไต่สวนการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวกรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวก ทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับทางการจีนว่า ป.ป.ช.ได้ประสานร่วมมือไปยัง ป.ป.ช.ของจีน ซึ่งเราได้ส่งข้อมูลไปให้กับจีนบ้างแล้ว
ชี้ปมถอดถอนแล้วแต่’สนช.’
ส่วนกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชะลอการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาออกไปก่อนนั้น นายวิชากล่าวว่า ป.ป.ช.คงไม่มีความเห็นอะไร เพราะได้ทำจนสิ้นสุดหน้าที่แล้ว
“หน้าที่ต่อไปเป็นของ สนช.ที่จะรับผิดชอบ ป.ป.ช.อาจจะโล่งอกแต่คงเป็นเรื่องหนักอกของสนช. ทั้งนี้ป.ป.ช.มองว่าสนช.มีอำนาจที่จะถอดถอนได้จึงส่งเรื่องไป ถ้าไม่สามารถทำได้ก็คงไม่ส่งไป ส่วนที่มีข่าวว่าป.ป.ช.ส่งเอกสารไปไม่ครบถ้วนนั้นยืนยันว่าป.ป.ช.ส่งสำนวนไปครบถ้วนกว่า4,000 หน้าแต่ปัญหาคือสนช.ยังอ่านไม่หมดเพราะอายุมากแล้วต้องเห็นใจ”นายวิชา กล่าว
ย้ำหน้าที่ของปปช.จบไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสนช.มีมติไม่รับเรื่องการถอดถอนไว้พิจารณา ป.ป.ช.จะนำสำนวนเรื่องดังกล่าวกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งหรือไม่ นายวิชากล่าวว่า คงไม่ เพราะเรื่องจบคือจบ ป.ป.ช.คงไม่ไปแบกรับเรื่องที่ดำเนินการจบสิ้นไปแล้ว ส่วนคดีถอดถอนอื่นๆ ยังคงต้องทำตามหน้าที่ โดยขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมดพิจารณาไม่ใช่ตนเพียงคนเดียว
ปัดน้อยใจ-ไม่เกี่ยวคดี”ปู”
เมื่อถามต่อว่า น้อยใจหรือไม่หาก สนช.ไม่รับเรื่องเอาไว้พิจารณา เพราะ ป.ป.ช.ใช้เวลาในการไต่สวนค่อนข้างนาน นายวิชา กล่าวว่า เป็นการทำเพื่อบ้านเมือง จะมัวไปนั่งเศร้าไม่ได้เป็นอันขาด ทั้งนี้การที่สนช.ชะลอเรื่องถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคมนั้น ไม่มีผลกระทบใดๆต่อการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในคดีทุจริตจำนำข้าวเพราะเป็นคนละเรื่องกัน
คดีถอดถอนไม่เกี่ยวปรองดอง
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า กังวลหรือไม่ว่าประเด็นเรื่องถอดถอนของ ป.ป.ช.จะไม่สอดคล้องกับแนวทางปรองดอง นายวิชากล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน การปรองดองเป็นเรื่องของการเมือง จะต้องรู้จักแยกแยะ ในฐานะ ป.ป.ช.ต้องมีความหนักแน่น ส่วนที่มีคนเสนอให้ปฏิรูปปปช.ด้วยนั้น ไม่ได้กังวลใดๆ ที่ผ่านมามีการปฎิรูปองค์กรตลอดเวลา และขณะนี้ก็มีแผนที่จะปฎิรูปและจะบอกให้ทราบในวันอังคารที่ 21 ต.ค.นี้ ที่มีจะมีการแถลงผลงานป.ป.ช.ครบ 8 ปี
จะยุบปปช.ให้ถามสังคมก่อน
“ใครที่ขัดข้องใจต้องการลดบทบาทของ ป.ป.ช.ก็คิดได้ เพราะเป็นเรื่องสปช.ที่เขาจะเข้าไปมีส่วน และคนไทยสามารถให้ความเห็นเรื่องการปฏิรูปได้ เราจะไปห้ามคนอื่นไม่ให้คิดมาปฏิรูปเราไม่ได้ หรือแม้แต่สื่อก็ต้องปฎิรูปเหมือนกัน ส่วนที่จะให้ยุบ ป.ป.ช. ก็ลองดูว่าประชาชนจะว่าอย่างไร ขึ้นอยู่กับประชาชน” นายวิชาระบุ
“วิษณุ”เชื่อสนช.มีทางออกแน่
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวถึงกรณีสนช.เลื่อนการพิจารณาคดีถอดถอนออกไปว่าอย่าไปขี้สงสัยอะไรไปเสียหมด เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา ทางสนช.ก็ต้องหาทางออก เพียงแต่จะเลือกทางออกอย่างไรเท่านั้นเอง มันอยู่ในอำนาจสนช.ในมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวว่าจะตีความอย่างไร ถ้าตีความว่ามีอำนาจก็ทำไป แต่ถ้าตีความไม่มีอำนาจก็ไม่ทำเท่านั้นเอง เมื่อเกิดเรื่องในวงสนช.ดังนั้นสนช.จะเป็นคนวินิจฉัย
สนช.สายทหารพร้อมถอดถอน
แหล่งข่าวจากสนช.สายทหาร กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวใบสั่งจากบิ๊กคสช.ให้คว่ำการพิจารณาถอดถอนว่า คงเป็นไปไม่ได้เพราะสนช.สายทหารเกษียรณราชการกันหมดแล้ว ทุกคนมีอิสระเต็มที่ในการตัดสินใจเพียงแต่ในการพูดคุยกันวงเล็กๆ ของสนช.สายทหาร ยังกังวลว่าเรามีอำนาจถอดถอนหรือไม่ จึงต้องขอเวลาในการศึกษาเอกสารสำนวนของปปช.กว่า 4 พันหน้าก่อนว่านายสมศักดิ์ และนายนิคมมีความผิดอย่างไร
กลัวติดคุกขอเวลาดูสำนวนก่อน
“อยู่ดีๆจะให้เรามารับเรื่องโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ละเอียดคงทำไม่ได้ ซึ่งทางสนช.สาย
ทหารแต่ละคนได้ตั้งทีมงานขึ้นมา ศึกษาสำนวนทั้ง 4 พันหน้าอยู่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปให้เร็วที่สุด และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เราไม่ใช่นักการเมือง หรือนักกหมายจะบุ่มบ่ามตัดสินใจเลยไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องเสี่ยงคุก อีกทั้งเรื่องนี้ก็ไม่ต้องรีบร้อน ยังมีเวลาให้พิจารณา ถ้าผิดจริงก็ต้องถูกถอดถอนยู่แล้ว”แหล่งข่าวระบุ
ยึดอำนาจมาจะไปเข้าข้างทำไม
ส่วนกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่า สนช.สายทหารร่วมกลุ่มกันเพื่อไม่รับเรื่องดังกล่าว ตนอยากถามกลับไปว่า ใครเป็นคนทำรัฐประหาร ทหารเป็นผู้เอาเขาลงมาจากอำนาจ แล้วพวกเราจะไปเข้าข้างเขาทำไม ไม่เข้าใจ มันไม่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม สนช.ฝากทหารทุกคน ยืนยันจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและไม่รู้สึกกดดันอะไร เพราะการทำงานต้องยึดความถูกต้องเป็นที่ตั้ง
“ไพบูลย์”เชื่อเทียนฉายปธ.สปช.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ด้านการเมือง กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของสมาชิกสปช.ก่อนที่จะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 21 ต.ค.เพื่อเลือกประธานและรองประธานสปช.ว่า เป็นไปได้ที่จะเป็นนายเทียนฉาย กีระนันท์ เพราะคนอื่นๆที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตออกมาปฏิเสธไปแล้ว ส่วนนายชัย ชิดชอบ ก็เป็นคนที่มีประสบการณ์ แต่คงถูกเสนอชื่อเพื่อเป็นสีสันมากกว่า
“บวรศักดิ์-ทัศนา”นั่งรองปธ.1-2
นายไพบูลย์ ยังกล่าวว่า ในส่วนของตำแหน่งรองประธานคนที่หนึ่งและคนสองซึ่งได้ปรากฎชื่อของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สปช.ด้านการเมือง และน.ส.ทัศนา บุญทอง สปช.ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เป็นแดนติเดตมาก่อนหน้านี้นั้น เท่าที่ดูเสียงที่สนับสนุนในขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่นายบวรศํกดิ์ จะได้เป็นรองประธานสปช.คนที่หนึ่ง และน.ส.ทัศนาเป็นรองประธานคนที่2 อย่างไรก็ดีเชื่อว่าการประชุมดังกล่าวจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พระราชทานเพลิงศพ”อภิวันท์”
วันเดียวกัน เวลา 15.30น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่วัดบางไผ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยได้รับการปรบมือต้อนรับและเสียงตะโกน”ยิ่งลักษณ์สู้ๆ” จากกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานเป็นระยะๆ นับตั้งแต่เดินลงจากรถไปจนถึงศาลาที่บำเพ็ญกุศลศพ พ.อ.อภิวันท์ ใช้เวลากว่า 15 นาที
โดยพิธีพระราชทานเพลิงศพครั้งนี้มีแกนนำคนสำคัญของ นปช. รวมทั้งพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมงานด้วยเช่นกัน โดยมีประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก และมีซุ้มจำหน่ายของที่ระลึกที่เกี่ยวกับ พ.อ.อภิวันท์ เช่น เสื้อ แก้วน้ำ ตลอดจนสินค้าที่ระลึกถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์วางจำหน่ายตามจุดต่างๆ ทั้งในและนอกวัด
แกนนำเสื้อแดงร่วมพิธีคับคั่ง
ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงต่างก็เดินทางไปร่วมงานคับคั่ง เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ น.พ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวีระ มุสิกพงษ์ นายวรชัย เหมะ เป็นต้น
ด้านนายภูมิธรรม เวชชยะชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศว่าต้องรอดูการทำงานของรัฐบาลจากนี้ไปก่อน ซี่งเขาเห็นว่าแนวทางที่ควรก็คือการทำให้คนในชาติเกิดความสามัคคี ปรองดองกันได้
พระราชทานเพลิงศพ“อภิวันท์”
ต่อมา เวลา 13.00น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบางไผ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำสำคัญ นปช. พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากแต่งกายชุดดำ ต่างทยอยเดินทางมาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพพ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาฯ และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย อย่างเนืองแน่นจนเต็มพื้นที่วัด ทั้งนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯเดินทางมาเป็นประธานในพิธี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี