‘ยูเอ็น-อียู’จี้ปล่อย14นศ.

‘บิ๊กตู่’ไม่สน

กร้าว!นี่คือประเทศไทย

ตอกคืนทำผิดรธน.ตรงไหน

‘ไก่อู’ซัดการเมืองเก่าปั่นหัว

281คณาจารย์บีบให้ปล่อยตัว

เลยฮือไล่‘ดาวดิน’ยุแตกแยก

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าประชุม ครม.ถึงการพิจารณาคดีของศาลทหาร หลัง 14นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ไม่ขอประกันตัวว่า หากไม่ขอประกันตัวศาลทหารก็ให้ประกันไม่ได้ กระบวนการจึงต้องเดินไปตามปกติเหมือนคดีอื่นๆ ส่วนที่กลุ่มนักศึกษาต้องการขึ้นศาลพลเรือนนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะฐานความผิดตามหมายจับต้องขึ้นศาลทหาร

สมช.คาดไม่ประกันหวังปลุกม็อบ

ด้าน นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา ว่า การทำงานของรัฐบาลเพื่อมุ่งหวังในการปฏิรูปบ้านเมืองให้ดีขึ้นสำหรับอนาคตที่ไม่ใช่ของวันนี้อย่างเดียว แต่เป็นอนาคตของลูกหลาน เพื่อปรับวางระบบให้ดีขึ้นการเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็น่าจะรับฟังได้ แต่ถ้าการเคลื่อนไหวก่อให้เกิดความวุ่นวาย ความไม่สงบ ตรงนี้ประชาชนไม่ได้อะไร น่าจะเอาเวลานี้มาปฏิรูปบ้านเมืองดีกว่า

ส่วนที่กลุ่มนักศึกษาทั้ง 14คน ไม่ขอประกันตัวจะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ปกติคนถูกจับต้องขอประกันตัว ประเด็นคือ ทำไม เรื่องเหล่านี้มันมีการพยายามปลุกกระแส ตนตามข่าวอยู่ก็พยายามเฝ้ามองว่า ทำไมไม่ประกันตัวแล้วอะไรจะเกิดขึ้น จะมีการรวมตัวกันอีกหรือไม่ แต่คงไม่บานปลาย คิดว่าท้ายที่สุดทุกคนต้องห่วงชาติบ้านเมือง โจทย์มันใหญ่กว่าการเคลื่อนไหว หรือถ้าเราคิดว่าการเคลื่อนไหวตรงนี้เป็นโจทย์ที่ใหญ่กว่า ก็ช่วยไม่ได้ ทุกคนก็ช่วยไม่ได้ เพราะมันก็กลายเป็นว่า จะทำให้เกิดการจลาจล เกิดความวุ่นวายหรือเปล่า ถ้ามันขยายตัวเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น แต่อาจมีคนบางกลุ่มอยากจะให้เกิดขึ้น

‘ไก่อู’เชื่อฝีมือกลุ่มการเมืองเก่า

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เชื่อว่ากลุ่มผู้เสียผลประโยชน์และกลุ่มการเมืองเก่า มีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นกระบวนการมากขึ้นเพื่อสร้างความไม่สงบในสังคม ทั้งสนับสนุนให้กลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวภายในประเทศและมีการนำข้อมูลความคิดเห็นในอดีตของบางฝ่ายที่เคยเข้าใจรัฐบาลผิดมาปล่อยในโลกโซเซี่ยล รวมทั้งสร้างข้อมูลเท็จออกมาสร้างความสับสนในสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ขอให้ประชาชนมีความรอบคอบในการบริโภคข่าวสารและไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวต่อกระแสข่าวความเคลื่อนไหว ข่าวลือ ข่าวร้ายต่างๆ เราขอมีสมาธิกับการแก้ปัญหาชาติให้ดีที่สุด

แห่เยี่ยมนศ.ประชาธิปไตยใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ สถานที่ควบคุมตัวนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ 13คน ว่า ได้มีอาจารย์ เพื่อนๆนักศึกษาและประชาชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจนักศึกษาที่ถูกคุมขัง พร้อมมีการตั้งกล่องรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาด้วย มีรายงานข่าวว่า นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้เดินทางมาเยี่ยมกลุ่มนักศึกษาด้วย โดยปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆต่อสื่อมวลชน

คณาจารย์281คนวอนปล่อยตัว

ต่อมา เครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้นำเครือข่ายอาจารย์มหาวิทยาลัยเข้าเยี่ยมนักศึกษาที่ถูกคุมขัง หลังเข้าเยี่ยมได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมอ่านแถลงการณ์ฉบับที่1 เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาและยุติการดำเนินคดี

โดย นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คณาจารย์ได้หมุนเวียนกันมาเยี่ยมนักศึกษาที่ถูกจับกุมคุมขังได้หารือกันถึงทิศทางการเคลื่อนไหว จึงรวมตัวกันเป็นเครือข่ายฯและมีข้อตกลงร่วมกันในการออกแถลงการณ์ โดยมีอาจารย์ร่วมลงนาม 281คน มาจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยในฐานะที่เป็นผู้มีหน้าที่อบรมบ่มนิสัย ให้ความรู้ จริยธรรมและความกล้าหาญ โดยจะจัดสรรสมาชิกเครือข่ายฯมาเยี่ยมนักศึกษาวันละ 10คน

พ่อ’ไผ่ ดาวดิน’ให้กำลังลูกชาย

จากนั้น นายวิบูลย์ บุณภัทรรักษา ละนางพริ้ม บุญภัทรรักษา บิดาและมารดาของ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน หนึ่งในนักศึกษาที่ถูกคุมขัง ได้เข้าเยี่ยมลูกชายและเพื่อนนักศึกษา พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ขณะเข้าเยี่ยมลูกก็พูดกับเขาว่า ถ้าเรามั่นใจว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเป็นนักต่อสู้และนักสังคมที่ช่วยเหลือชาวบ้าน ก็ขอให้มั่นใจและภูมิใจ ถือว่าการโจมตีเป็นเรื่องเล็ก ส่วนปัญหาเรื่องคดีความเดี๋ยวก็คลี่คลายได้ ขอให้ลูกรู้ว่ายังมีครอบครัวอยู่และเราจะเดินไปด้วยกัน เขาก็ยิ้มตลอดและมีกำลังใจเข้มแข็งอยู่แล้ว

กลุ่มนศ.ลั่นให้แนวร่วมสู้ต่อไป

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวผ่านห้องขังกรณีมีนักศึกษา จ.เชียงใหม่ ชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัว 14นักศึกษา ว่า รู้สึกดีใจที่มีคนคิดถึงเรา ในแง่หนึ่งเราต้องสู้กับเผด็จการ เรามาอยู่ตรงนี้ก็เพราะคสช.ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อถามว่ากลัวกระแสจะเงียบหายไปหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หวังว่าคนข้างนอกจะสู้ต่อไปแม้ไม่มีพวกตนและหวังว่าการเคลื่อนไหวจะยังคงดำเนินต่อไปได้ กรณีนักศึกษาเชียงใหม่ ชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกตนนั้น ต้องขอขอบคุณที่ออกมาสู้และขอให้ยืนหยัดในสิ่งที่ทำ มั่นใจว่าทำถูกแล้ว

ชาวบ้านวังสะพุงลุกฮือไล่’ดาวดิน’

ส่วนที่หน้าศาลากลางจังหวัดเลย มีชาวบ้านจาก ต.ขาหลวง จำนวน 200คน นำโดย นายสมบัติ ต้นคำ กำนัน ต.เขาหลวง เข้ายื่นหนังสือในนามชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านและประชาชน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ต่อ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.เลย

ทำแตกแยก-ขู่ตื้บคนเห็นแย้ง

นายสมบัติ กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลเรียกตัวเองว่า”กลุ่มดาวดิน”เข้ามาทำกิจกรรมร่วมกับ”กลุ่มรักษ์บ้านเกิด”เป็นกิจกรรมที่ต่อต้าน คสช.และรัฐบาล ถือว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงเรียกร้องให้กลุ่มดาวดิน กลุ่มรักษ์บ้านเกิดและแนวร่วมฯหยุดกิจกรรมต่างๆที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและหยุดให้ข่าวที่อ้างว่า เป็นมติของประชาชน 6หมู่บ้านโดยเด็ดขาด เพราะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดว่า ชาว ต.เขาหลวง มีพฤติกรรมก้าวร้าว กระด้างกระเดื่องต่อการบริหารบ้านเมือง ขอให้ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง จัดการตามกฎหมายกับกลุ่มเหล่านี้ นอกจากนี้ การกระทำของคนกลุ่มนี้ ยังมีการข่มขู่ ทำร้าย ตัดน้ำ ตัดไฟ กับคนที่ไม่เห็นด้วย

ด้าน นายวิโรจน์ กล่าวว่า จ.เลย เป็นจังหวัดที่สงบไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุแหย่เสี้ยมสอนให้เกิดความแตกแยก เพราะฉะนั้นคนจังหวัดเลยสามารถคิดเองได้ว่า สิ่งใดผิด สิ่งใดถูก เด็กเองมีหน้าที่เล่าเรียนเพื่อนำความรู้ไปประกอบอาชีพ เพื่อดูแลครอบครัวของตนเอง และนำอาชีพนั้นมาทำประโยชน์ให้บ้านเมือง เป็นสิ่งที่พวกเราต้องสนับสนุนให้ทรัพยากรเหล่านี้ไปทำหน้าที่ให้ถูกต้อง ไม่ควรนำเรื่องต่างๆ มาทำให้บ้านเมืองแตกแยก

UNเรียกร้องปล่อยนศ.ดาวดิน

วันเดียวกัน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือUN OHCHR ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ออกเเถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีอาญากับนักศึกษาที่ถูกจับกุมและขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวทันที รวมถึงขอให้ทางการไทยทบทวนการใช้กฏหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม ให้สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้กฏหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ในฐานะที่ไทยเป็นภาคีสมาชิกของกติการะหว่างประเทศว่า ด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งมีพันธกรณีที่ต้องรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก(ข้อ19)และสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ(ข้อ21) โดยสํานักงานข้าหลวงใหญ่ยังแสดงความกังวลว่า การดําเนินคดีอาญาที่มีโทษจำคุกยาวนานต่อการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและการแสดงออกนั้น ถือว่าไม่มีความจําเป็น

สหภาพEUค้านใช้ศาลทหาร

เช่นเดียวกับ สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณีการจับกุมนักศึกษา 14คน จากข้อหาที่ถูกตั้งขึ้นอันเนื่องมาจากการชุมนุม อย่างสันติของพวกเขาในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า สหภาพยุโรปมีความเชื่อในสิทธิของคนทุกคนในการแสดงออกทางความคิดเห็นอย่างสันติและขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยปฏิบัติตามข้อผูกพันของประเทศไทย ภายใต้กติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง โดยให้เคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานนั้น จะต้องได้รับการค้ำชู โดยศาลทหารไม่ควรถูกนำมาใช้กับพลเรือน

บัวแก้วยังไม่ได้รับหนังสือUN

ด้าน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR) เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีอาญาต่อนักศึกษาว่า เป็นเรื่องความฝ่ายความมั่นคงที่ดำเนินการอยู่ คงว่ากันไปตามกฎกติกา เพราะกฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ทุกประเทศเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการแถลงลักษณะใด เพราะหนังสือที่เป็นทางการยังไม่มีมาถึงตน แต่ทุกคนมีสิทธิ์แถลงได้ทั้งนั้น อย่างกรณี ฮิวแมนไรซ์ วอทช์ เขาแจ้งมาเราก็แจ้งกลับไปว่า เราผิดหวังกับสิ่งที่เขาเขียนมา เพราะเป็นเรื่องเดิมๆ เป็นข้อมูลด้านเดียว หากอยากได้ข้อมูลที่ถูกต้องให้เข้ามาที่กระทรวงการต่างประเทศ เข้ามาอย่างเป็นทางการ เพราะเรามีทั้งข้อมูลและบุคคลากรที่ให้ข้อมูลได้

‘บิ๊กตู่’เมินแจงอียู-ลั่นยึดกม.ไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความจำเป็นในการชี้แจงต่อกรณีสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย(อียู)และสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR) ที่ออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลไทยยุติดำเนินคดีอาญาต่อนักศึกษาที่ถูกจับกุมตัวว่า ตนไม่ต้องชี้แจงในเรื่องนี้ กฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย ที่ผ่านมาตนให้โอกาสตลอด ถ้าคนนี้ทำ คนอื่นทำ วันหน้าจะมีอีกหรือไม่และที่ออกมาเขาได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาและปฏิรูปประเทศหรือไม่ วันนี้ต้องรู้ปัญหาประเทศ วันหน้าหากเลือกตั้งกันต้องไปทำตรงโน้น ที่ผ่านมาตนก็ให้ทำมาโดยตลอด แต่พอทำไม่ได้ ตนจึงต้องเข้ามาทำเอง จะสำเร็จหรือไม่ตนยังไม่รู้

เผยนักศึกษาที่ดีๆยังมีอยู่อีกเยอะ

“ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้และผมไม่อยากมายืนตรงนี้ พูดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว พูดอยู่นั่นว่า ต้องการใช้อำนาจๆ ผมไม่ได้ใช้อำนาจในทางที่ผิด ไม่ไปละเมิดใคร เว้นแต่คนไม่ทำตามกติกาเท่านั้น ผมต้องขอบคุณนักศึกษาและองค์กรต่างๆ ที่ไม่ใช่มีเพียง 14คน นักศึกษาดีๆมีอีกเยอะ เวลาผมไปไหนมาไหนก็มีมาชื่นชมและขอให้ผมทำให้พวกเขา แต่กลุ่มนักศึกษาที่ออกมาคัดค้าน กลับเรียกร้องแต่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง จึงอยากถามว่า ตนทำผิดรัฐธรรมนูญตรงไหน รัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไร ตอนนี้ยังไม่เสร็จ จะผ่านหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ แต่เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำประชามติ กลับกล่าวหาว่ารัฐบาลต้องการสืบทอดอำนาจ จึงอยากขอให้เข้าใจว่าระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและโรดแมปเดิม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

‘ไก่อู’เมินEU-หวั่น’ลัทธิเอาอย่าง’

ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีองค์กรต่างประเทศทั้งสํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและสหภาพยุโรป(อียู) เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาที่ถูกจับกุม ว่า รัฐบาลไม่มีปัญหากับใครไม่ว่าจะเป็นผู้เห็นแย้ง หรือนักศึกษา แต่ถ้ามีการทำผิดกฎหมาย ต้องว่าไปตามกระบวนการ ทั้งทหาร ตำรวจหรือพลเรือน ต้องไม่มีข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น รัฐบาลยึดตามข้อกฎหมาย หากทำตามเสียงเรียกร้องจากองค์กรต่างๆโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย ก็จะเกิดลัทธิเอาอย่าง นักศึกษาเป็นมนุษย์คนหนึ่งและยังมีการศึกษาค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นปัญญาชน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี เราไม่ได้เป็นกังวลว่า การเคลื่อนไหวของนักศึกษาจะขยายตัวออกไป เพราะเมื่อครั้งที่ คสช.เข้ามาใหม่ๆก็มีเหตุการณ์ลักษณ์นี้ ดังนั้นสังคมต้องตระหนักและร่วมกันคิดเพื่อเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ที่สำคัญหากไม่หยิบยกสิ่งที่ไม่เป็นประเด็นมาเป็นประเด็น รับข่าวร้ายแล้วไม่ส่งต่อ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

‘วิษณุ’หวังรบ.เอาน้ำเย็นเข้าลูบ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีองค์กรทั้งในและระหว่างประเทศกดดันให้ปล่อยตัวและไม่ดำเนินคดีกับ 14 นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวต้านรัฐประหารว่า ถ้าจะบอกว่าไม่เป็นห่วงก็คงไม่ได้ เพราะตนก็เคยเป็นอาจารย์และคนเหล่านั้นก็มีลูกศิษย์ตน แต่ก็เชื่อว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งจะต้องมีการทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม การพูดคุยบนโต๊ะอาหารในที่ประชุมรัฐมนตรีหลายท่านต่างคิดว่าเรื่องนี้จะไม่บานปลาย โดยพยายามจะใช้น้ำเย็นเข้าลูบและใช้การอธิบายสร้างความเข้าใจ แต่ตามระเบียบแล้วเรื่องนี้ต้องขึ้นศาลทหาร จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้

ครม.ตั้งกก.ยุทธศาสตร์ชาติ20ปี

นายวิษณุ ยังกล่าวหลังประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20ปี โดยมี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ดูแลเรื่องนี้ จะพิจารณากำหนดระยะเวลาการปฏิรูปใน 20ปี แบ่งเป็น 4ระยะ ระยะละ 5ปี ซึ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯจะเป็นคนคิด ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะรวบรวมแนวทางการปฏิรูป 11ด้านที่ คสช.เป็นผู้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ บวกกับ 36เรื่องของ สปช.ข้อเสนอแนะของฝ่ายราชการต่างๆ รวมกันออกมาเป็นยุทธศาสตร์ชาติใน 20ปีข้างหน้า ทำเหมือนกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 และ12 โดยในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เขียนไว้อยู่มาตราหนึ่งว่า ครม.ไม่ว่าจะเป็นใครจะต้องบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามแนวทางนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐและตามยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้น แต่จะเปิดช่องให้รัฐบาลหน้าที่จะเข้ามาได้คิดยุทธศาสตร์ชาติบางส่วนของเขาเองบ้างเหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ถ้าไม่พอใจสามารถแก้แผนได้เพื่อความเหมาะสม

‘วัฒนา’เข้าพบคสช.ตามคำเชิญ

เวลา 10.50น.นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ภายในกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1

ต่อมา นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์หลังเข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ กกล.รส.ว่า เรื่องที่มาคุยคือเรื่องการขออนุญาตเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งตนขออนุญาตเดินทางบ่อย ทำให้ข้อมูลมีความสับสนทางเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบข้อมูลการเดินทางทั้งหมดและเนื่องจากที่อยู่บ้านพักกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของตนไม่ตรงกัน เพราะตามทะเบียนบ้านตนอยู่ต่างจังหวัด แต่ตัวอยู่ กทม.เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบข้อมูลโดยให้ตนกรอกประวัติใหม่หมด ทั้งนี้ การหารือเป็นไปในบรรยากาศแบบสบาย ๆ พูดคุยกันด้วยมิตรไมตรีที่ดี ไม่มีการจำกัดการแสดงความคิดเห็นและไม่มีการปรับทัศนคติใดๆ

‘คำนูณ’ปัดกมธ.ล็อบบี้’สปช.’

สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาแก้ไขปรับร่างรัฐรรมนูญแบบรายมาตรานั้น นายมานิจ สุขสมจิตร รองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกมธ.ยกร่างฯ แทน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งมีวาระปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราเป็นวันที่4

นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯไม่มีการเดินสายล็อบบี้สมาชิก สปช.เพื่อให้ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ มีแค่เพียงการพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจภาพรวมร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนสมาชิก สปช.จะตัดสินใจรับหรือไม่รับ เป็นสิทธิแต่ละคน

ปปช.ตั้งอนุฯสอบซื้อมันยุค’ปู’

วันเดียวกัน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สนามบินน้ำ ได้มีมติไต่สวนข้อเท็จจริงและมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 31ราย กรณีซื้อขายมันสำปะหลังในรูปแบบสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ปปช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนฯโดยกรณีนี้สำนักงาน ปปช.ได้แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทำสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 7สัญญา ปริมาณ 4,790,000ตัน วงเงิน 30,642,500,000บาท ซึ่งส่อมีการช่วยเหลือให้บริษัทของจีนได้สิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย