28 ม.ค.59 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน อายุ 51 ปี ทนายความของ นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม หนึ่งในผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดขอนแก่น เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อธิลักษณ์ หวังสิริวรกุล พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.เพื่อมอบตัวต่อสู้คดี ภายหลังเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.58 ได้ถูก พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย , แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำความผิด , การแจ้งนั้นเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ซึ่งความผิดดังกล่าวมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 , 173 , 174 , 181 และ 328 โดยนำหนังสือมอบอำนาจจากนายธนกฤต เพื่อหลักฐานในการต่อสู้คดี
น.ส.เบญจรัตน์ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากนายธนกฤต ได้ถูกศาลออกหมายจับกรณีร่วมกระทำผิดในคดีขอนแก่นโมเดล เมื่อวันที่ 26 พ.ย.58 แต่นายธนกฤต ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดขอนแก่น นับตั้งแต่เดือน พ.ค.57 จึงไม่มีทางเป็นไปได้ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.58 นายธนกฤตจึงมอบอำนาจให้ตนเข้าแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.วิจารณ์ หลังจากนั้นทหารได้เข้าพบนายธนกฤต ที่เรือนจำดังกล่าว พร้อมกับขอให้มีการถอนแจ้งความเจ้าหน้าที่ แลกกับการถอนหมายจับคดีขอนแก่นโมเดล แต่ภายหลังถอนแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่กลับไม่ได้ถอนแจ้งความแต่อย่างใด ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.58 จึงมอบอำนาจให้ตนมาแจ้งความดำเนินคดีใหม่
น.ส.เบญจรัตน์ กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.58 พล.ต.วิจารณ์ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีตน รวม 5 ข้อหา โดยอ้างว่า นายธนกฤต ไม่ได้ประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ วันเดียวกันนี้ตนได้มอบตัวเพื่อต่อสู้คดี พร้อมกับนำหลักฐานการได้รับมอบอำนาจจากนายธนกฤต ซึ่งมอบให้ตนเป็นผู้แทนในการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ตนเพียงแค่ทำตามที่ได้รับมอบอำนาจมาในฐานะทนาย และต้องขอความเป็นธรรมด้วย หากพนักงานสอบสวนต้องการแจ้งความเอาผิด ก็ต้องดำเนินคดีกับนายธนกฤต ผู้มอบอำนาจ ตนสู้คดีครั้งนี้ก็เป็นตัวอย่างให้กับทนายความทั่วประเทศ เพราะไม่เช่นนั้นการรับมอบอำนาจมาจะต้องถูกดำเนินคดีไปด้วยนั้นไม่ถูกต้อง
"ดิฉันได้ฟ้องคดีต่อศาลอาญา โดยฟ้องกลับเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.วิจารณ์ และ พ.ต.ท.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป.ในข้อหาเดียวกับที่มีการแจ้งดำเนินคดีดิฉันเช่นเดียวกัน" น.ส.เบญจรัตน์ กล่าวและว่า ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับ พล.ต.วิจารณ์ จึงไม่มีเจตนาจะฟ้องคดีเพื่อกลั่นแกล้งใคร และกลับเป็นฝ่ายตนต่างหากที่ถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง ซึ่งขณะนี้ยังพิจารณาอยู่ด้วยว่าจะแจ้งข้อหาข่มขู่ทำให้เกิดความตกใจกลัวกับทางทหารอีกด้วย อย่างไรก็ดี ตนได้เตรียมหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 300,000 บาท ไว้เพื่อขอยื่นประกันตัวแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี