‘บิ๊กตู่’สั่งสอบ21คนไทย
ลั่นผิดติดคุก
เซ่นเอกสารลับ‘ฟอกเงิน’
แฉตระกูลดังชื่อโผล่เพียบ
ปปง.จ่อเปิดโต๊ะแจง8เมย.
‘บรรณวิทย์-บรรยง’ยืนยัน
ไม่เคยรู้จักบริษัท‘ปานามา’
ผู้นำหลายชาติดาหน้าปัด
กรณีสมาคมผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติ(ICIJ) เปิดเผยเอกสารลับ จำนวน 11.5 ล้านฉบับ เกี่ยวกับการทำงานของบริษัท “มอสแซค ฟอนเซกา” ในประเทศปานามา ซึ่งช่วยเหลือลูกค้ารายใหญ่ ทั้งนักการเมืองและผู้นำประเทศทั่วโลก เพื่อฟอกเงินและหลีกเลี่ยงภาษี โดยระบุว่าเชื่อมโยงถึงคนไทย 21 คน ใช้บริการจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขตไปแล้ว 963 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้กระจายไปตามที่ต่างๆ ซึ่งเป็นสวรรค์ปลอดภาษี เช่น หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หรือเคย์แมน เป็นต้น
“บิ๊กตู่”สั่งสอบ21คนไทยฟอกเงิน
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในส่วนของคนไทย 21 คนที่มีรายชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ก็ให้สอบสวนอยู่ เพราะเป็นหลักฐานที่ไม่เป็นทางการมาจากสื่อ เราก็รับทุกเรื่องอยู่แล้ว
กร้าวทำผิดติดคุกอย่างเดียว
“ถ้ามันใช่ก็ดีสิ จะได้มีคนชี้เป้าให้เรา และเราก็จะดำเนินการต่อเนื่อง ต้องสรุปข้อเท็จจริงก่อน จำไว้ว่าการทำงานของรัฐบาล ทำได้ 2 อย่าง เปิดเผยเข้ากระบวนการได้เลย ในกรณีที่เป็นหนังสือราชการหรือหนังสือที่มาถึงรัฐบาลต่อรัฐบาลหรือหน่วยงานต่อหน่วยงาน แต่เรื่องนี้เผยแพร่จากผ่านสื่อก็ต้องสอบข้อเท็จจริงก่อน และมีหลายประเทศเกี่ยวข้อง ต้องดูแนวทางจากต่างประเทศด้วยว่าเขาทำอย่างไร คณะทำงานของเรามีอยู่แล้ว ฝ่ายยุติธรรมมีการประสานงานกัน การทำงานเชื่อมโยงกันหมดแล้วสมัยรัฐบาลนี้ ดี ถ้าผิดจริงจะได้จับติดคุกเยอะๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ประวิตรยันต้องแจงสังคมโลก
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ประเด็นที่มีคนไทยเกี่ยวข้อง 21 คน ต้องมีการชี้แจงต่อสังคมโลกอยู่แล้ว แต่ต้องถามผู้ที่เผยแพร่ดูก่อน ถ้าไม่มีข้อมูลแล้วไปตอบโต้มันไม่ได้ ต้องให้คนที่มีส่วนในรายชื่อแก้ตัวด้วย
เมื่อถามว่า เห็นรายชื่อคนไทย 21 ราย แล้วตกใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตกใจอะไรไม่ใช่มีชื่อตน ตนไม่เกี่ยว เมื่อถามว่าข้อมูลที่เปิดเผยนี้ ประเทศไทยมีข้อมูลอยู่แล้วก่อนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนที่ดูแลเรื่องนี้อาจจะมี แต่ไม่ได้ผ่านตน ตนไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องของการเงิน เมื่อถามว่า ได้หารือเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีหรือยัง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกัน
“บิ๊กต๊อก”ติงสื่อรีบสรุปทุจริต
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลที่ปรากฏขณะนี้เป็นข้อมูลที่ปรากฏทางสื่อ ไม่ใช่ข้อมูลที่ออกมาจากทางราชการ สำหรับขั้นตอนตรวจสอบ ต้องรอหลังจากที่ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้รายชื่อมาแล้วก็ทำการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินจึงจะทราบว่ามีการทำผิดกฏหมายหรือไม่ ดังนั้น ตอนนี้สื่ออย่าเพิ่งไประบุชื่อบอกว่าเป็นการฟอกเงิน แต่กลับมีหลายสื่อเสนอว่าเป็นการฟอกเงินกลายเป็นเรื่องเชิงลบไป ซึ่งต้องเข้าใจว่าอาจเป็นลักษณะการทำธุรกิจ ต้องให้เกียรติและเคารพกัน
ยังไม่รีบสอบ21คนไทยมีใครบ้าง
ต่อข้อถามว่าขณะนี้ได้รับข้อมูล 21 รายชื่อคนไทย ทราบว่าเป็นใครแล้วหรือยัง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้สนใจว่าข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวเท็จหรือจริงก่อน เรื่องนี้เป็นข้อมูลที่สามารถตรวจสอบกับ ปปง.ได้ว่าเป็นเงินจากการทำธุรกิจหรือเงินที่เกี่ยวข้องการทำผิดกฏหมาย การทุจริต ซึ่งการเคลื่อนไหวทำธุรกรรมต้องมีแหล่งที่มา แต่ที่สำคัญในการตรวจสอบต้องได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศ ซึ่งเราไม่สามารถไปเร่งรัดได้
ยันหากทุจริตต้องจัดการแน่
“รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามการทุจริต ซึ่งมีขั้นตอนการตรวจสอบทางราชการ ตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน ถ้ามีแนวโน้มทุจริตก็ต้องจัดการ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ใครมาเอ่ยชื่อกัน ต้องให้ความเคารพ หากเขาไม่ได้ทำผิด บางทีไปลงว่าการฟอกเงิน หรือ ปปง.เร่งรัดการฟอกเงิน มันไม่ใช่ฟอกเงิน เป็นการมองภาพลบไป ตอนนี้เป็นเพียงข้อมูลข่าวสาร ยังไม่ใช่ข่าวกรอง ปปง.จะมีช่องทางในการตรวจสอบ แต่ต้องดูว่า ต่างประเทศจะให้เราขนาดไหน” รมว.ยุติธรรม กล่าว
บัวแก้วชี้ข้อมูลยังไม่ชัดเจน
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า เรายังไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น ขณะนี้ยังเป็นเพียงข่าว เชื่อว่าคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบเขาจะดูแลเรื่องนี้เอง ส่วนผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวนั้นยังไม่มีการหารือกัน เพราะว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าเกี่ยวโยงกับใครอะไรอย่างไร และยังไม่มีการรายงานอะไรเข้ามา เป็นเพียงข่าวเท่านั้น ซึ่งในที่ประชุม ครม.ก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้
สมช.ขอรอดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อน
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ทางเลขาธิการ ปปง. กำลังประสานขอข้อมูลไปยังบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา ฉะนั้น ตอนนี้เราจะไปตีความบริษัทหรือบุคคลเหล่านั้น ไปดำเนินการผิดกฎหมายไม่ได้ ต้องให้เกียรติ แต่หากพบว่าเงินที่นำไปดำเนินการในส่วนดังกล่าว ไม่มีที่มาที่ไป ตรงนี้เราสามารถเรียกมาซักถามได้ ทั้งนี้ ในส่วนของ สมช.ต้องรอดูก่อนว่า ปปง.จะได้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไร เพื่อดูว่ากระทำความผิดกฎหมายหรือไม่
“สรรพากร”แบะๆไม่มีข้อมูล
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ว่า ในส่วนของ สตง. คงจะประสานไปยังกรมสรรพากร เพื่อให้ตรวจสอบการเสียภาษีของ 21 คนไทยที่มีชื่อปรากฏออกมา เพื่อดูว่ารายได้ที่มีนั้นสอดรับกับการเสียภาษีย้อนหลังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ นอกจากนี้ยังจะประสานไปยังหน่วยงานรัฐที่สามารถตรวจสอบ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ทางกรมสรรพากรยังไม่มีข้อมูลดิบเรื่องคนไทยไปฟอกเงินในต่างแดนเพื่อเลี่ยงภาษี เรื่องดังกล่าวต้องสอบถามทาง สตง.
ปปง.นัดแจงคืบหน้า8เม.ย.
พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษา ปปง. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวระหว่างการประชุมร่วมกับหน่วยงาน ปปง. ประเทศเมียนมาว่า กำลังเร่งดำเนินการประสานงานไปยังแหล่งที่มาของข้อมูลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดก่อน เพราะสำนักงาน ปปง. มีการประสานงานและบูรณาการข้อมูลกับเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินข้ามชาติทั่วโลกกว่า 150 ประเทศ หากประเทศใดพบข้อมูลการฟอกเงินของกลุ่มบุคคลใดเข้าข่ายฟอกเงิน จะมีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องมายังประเทศที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้นๆ หรือรายงานข้อมูลให้รับทราบ ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. จะแถลงข่าวความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวในวันที่ 8 เมษายน 2559 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุม 501 ชั้น 5 สำนักงาน ปปง.
DSIประสานตรวจสอบ21คนไทย
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ในส่วนของดีเอสไอได้ประสานไปยัง ปปง. เพื่อขอข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลจากคดีที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่ในปัจจุบันด้วย ซึ่งการประสานขอข้อมูลไปยังปปง.นั้น เพื่อตรวจสอบดูว่ารายชื่อทั้ง 21 คน จะตรงกับข้อมูลในคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ ทั้งนี้ต้องรอข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ทราบรายชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจากสื่อต่างๆ เท่านั้น หากมีรายชื่อตรงกัน ก็จะพิจารณาตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
พบคนดังในเมืองไทยเอี่ยวเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สมาคมผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่มีใช้บริการของบริษัท มอสแซค ฟอนเซกา ออกมาแล้ว ซึ่งสามารถเปิดดูได้ที่เว็บไซต์http://offshoreleaks.icij.org ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสอบพบว่า ในส่วนของประเทศไทยมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายราย ทั้งนักการเมือง นักร้องเพลงเพื่อชีวิตซึ่งผันตัวไปเป็นเศรษฐี และนักธุรกิจชื่อดัง รวมทั้งบุคคลนามสกุลดังของเมืองไทยอีกหลายราย
“บรรณวิทย์”งงมีชื่อโผล่
ทางด้าน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หนึ่งในคนไทยที่มีชื่อปรากฏ กล่าวว่า ตนสงสัยอยู่ว่าไปมีชื่อได้อย่างไร เพราะไม่เคยไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศ ตอนนี้กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ปัญหาขณะนี้ที่เป็นกังวลคือ กลัวเพื่อนจะมายืมเงิน เพราะเห็นว่าตนมีเงินเยอะ ทั้งๆ ที่มันไม่มี จากรายชื่อที่ปรากฏ ให้ความเห็นยากว่าชัวร์หรือมั่วนิ่ม ล้วนแต่เป็นคนที่มีเงิน น่าจะเป็นตนคนเดียวที่จนสุด อย่างตนถ้าจะเอาเงินไปฝากต่างประเทศ คงไม่มีเงินเหลือพอไปฝาก เป็นอะไรที่แปลก ทำไมถึงมีชื่อ ยังงงอยู่ และไม่ได้เป็นเกียรติที่ถูกจัดไปอยู่ในกลุ่มคนมีเงินดังกล่าว
“บรรยง”เผยมีคนไทยเอี่ยวเป็นพัน
ส่วนในเฟซบุ๊กของ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด ที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับเอกสารดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความส่วนตัว ระบุว่า “เห็นชื่อตัวเองอยู่ใน Panama Leak แล้วงงมากครับ ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยติดต่อ ไม่เคยใช้บริการใดๆ จาก Mossack Fonseca (เพิ่งรู้จักชื่อก็วันนี้เอง) และไม่เคยมีนิติกรรมใดๆ ในปานามา จะติดตามหาข้อเท็จจริงมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ มีรายชื่อคนไทยเกือบพันคน ดังๆ ทั้งนั้น”
หลายชาติตื่นตัวเร่งสืบสวน
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลของหลายประเทศได้เคลื่อนไหวเพื่อเร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยออสเตรเลีย ออสเตรีย สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ประกาศสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด ต่อบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเอกสารปานามา ขณะที่ เยอรมนี ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ก็เริ่มสืบสวนสอบสวนในขั้นต้น
บรรดาผู้นำโลกยันไม่ได้ทำผิด
ด้านบุคคลระดับผู้นำประเทศที่มีอยู่อยู่ในเอกสารดังกล่าว อาทิ ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ผู้นำอาร์เจนตินา, ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครน, นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ผู้นำปากีสถาน และ นายซิกมุนตูร์ กุนลอคสัน นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ ต่างก็ออกมาปฎิเสธข้อสงสัยในเรื่องการเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน โดยยืนยันว่าดำเนินธุรกิจและเสียภาษีอย่างโปร่งใส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี