โพลล์กระหน่ำ‘บิ๊กป้อม’
จี้ต้องลาออก
สนองคำท้านาฬิกาหรู
ม็อบเชียร์โผล่ขอให้อยู่ต่อ
วีระชี้ผิดเหมือนกันจี้ตร.จับ
‘วิษณุ’ยอมรับยึดบ้านปูแล้ว
ยังพักได้แต่ต้องจ่ายค่าเช่า
ชาวบ้านบุกกลาโหมให้กำลัง“บิ๊กป้อม”อยู่ต่อ ชี้การเมืองเล่นงานปมนาฬิกาหรู ด้านเว็บออนไลน์ล่ารายชื่อ ไล่ “ประวิตร” กลับบ้าน ขณะที่ “วีระ” จี้ศรีวราห์ดำเนินคดีม็อบเชียร์ ฐานชุมนุมเกิน 5 คนใกล้พระราชวัง ขู่ถ้าละเลยเจอฟ้องผิด ม.157 ด้าน“วิษณุ”ยอมรับยึดทรัพย์ปูแล้วแจงอยู่บ้านได้แต่ต้องจ่ายค่าเช่า ขณะที่คลังเร่งส่งบัญชีสมบัติให้ตามยึด ส่วนทนายยิ่งลักษณ์เตรียมยื่นทุเลาบังคับคดีเรื่อยๆ
เมื่อวันที่ 1กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากหน้ากระทรวงกลาโหม(กห.)ว่า มีตัวแทนชาวบ้านคลองลาดพร้าว กลุ่มชาวบ้านตลิ่งชัน กลุ่มพ่อค้าอ.อรัญประเทศจ.สระแก้ว ชาวบ้านจ.สมุทรปราการ ราว 40 คน เดินทางมาให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หลังมีการกล่าวเปิดใจของ พล.อ.ประวิตร เมื่อวันที่ 31มกราคมที่ผ่นมาว่า หากประชาชนไม่ต้องการตนเองก็พร้อมออกจากตำแหน่งโดยมีพล.อ.รุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ผู้ช่วย รมว.กลาโหม เป็นตัวแทนพล.อ.ประวิตรมา ออกมาต้อนรับ
ทั้งนี้ ชาชนที่ให้กำลังใจพูดเสียงเดียวว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้นัดแนะมา หรือจัดตั้งกลุ่มมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในตัวพล.อ.ประวิตร เพราะที่ผ่านมาท่านทำประโยชน์ให้มากมาย แต่ที่ผ่านมามองว่าเป็นเรื่องการเมืองและอยากให้ท่านสุขภาพแข็งแรง
พล.อ.รุ่งโรม ระบุว่า พล.อ.ประวิตร ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ตนมาเป็นตัวแทน ซึ่งตนจะนำเรียนท่านว่ามีประชาชนหลายจังหวัดมาให้กำลังใจและขอขอบคุณทุกกลุ่มที่มาในวันนี้
เว็ปล่ารายชื่อกดดันบิ๊กป้อมลาออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นางทิชา ณ นคร ผอ.ศูนย์อบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษกได้เปิดแคมเปญผ่านเว็บไซด์www.change.orgหัวข้อ“อยากให้รองนายกประวิตรฯ ลาออก ตามที่ท่านได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 31มกราคม”เพื่อล่ารายชื่อประชาชนที่เห็นว่า พล.อ.ประวิตร ควรลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งปรากฏว่าหลังจากพบยอดผู้ร่วมลงชื่อเวลา 13.30น.วันที่ 1กุมภาพันธ์ มีทั้งสิ้น 24,145คน ทั้งนี้ต้องการผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุน 25,000คน
ร้อยละ95จาก6.6หมื่นคนจี้ไขก๊อก
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 1มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กDrama-addict ซึ่งดำเนินการโดย นพ.วิทวัส ศิริประชัย หรือจ่าพิชิต ขจัดพาลชน ได้ทำโพลล์สอบถามความเห็นขึ้นแฟนเพจที่มีผู้ติดตากว่า 1.8ล้านคน ระบุว่า “สืบเนื่องจากข่าว ลุงป้อมกล่าวว่า ผมเข้ามาเพราะอยากช่วยเหลือบ้านเมืองถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้ จึงขอเชิญโหวตกันตามอัธยาศัย”ระหว่างอยากให้ท่านอยู่ต่ออีกนานๆ หรืออยากให้ท่านไปพักผ่อนผลปรากฏว่า ในเวลาเพียง 18 ชั่วโมง มีผู้เข้าโหวต66,900คน มีผู้อยากให้’ลุงป้อม’ไปพักผ่อนมากถึงร้อยละ95 มีเพียงร้อยละ5เท่านั้นที่ลงคะแนนว่าอยากให้ท่านอยู่ต่ออีกนานๆ
เพจThaiPBSร้อยละ96ไล่กลับบ้าน
ขณะที่เครือข่ายสังคมออนไลนอย่างเฟซบุ๊กก็มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้เช่นกัน โดยเพจ“ที่นี่ ThaiPBS” ก็ได้จัดทำโพลล์ในเรื่องดังกล่าว โดยเปิดให้ประชาชนโหวตตั้งแต่วันที่ 31มกราคม และจะเป็นให้ออกเสียงเป็นเวลา 7วัน ปรากฏว่าหลังจากรเปิดโหวตเพียง 18ชั่วโมง มีประชาชนมาร่วมออกเสียงถึงเกือบ 1แสนรายและมีผู้แชร์ออกไปอีกกว่า 4.4พันครั้ง โดยเบื้องต้นพบว่า มีผู้โหวตแสดงความเห็นว่า พล.อ.ประวิตร ควรลาออกมากถึง96% ส่วนคนที่ต้องการให้อยู่มีเพียง 4% เท่านั้น
‘วีระ’จี้ดำเนินคดีหนุน’บิ๊กป้อม’
ด้าน นายวีระ สมความคิด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คอ้างถึงกรณีเมื่อวันที่ 31มกราคมที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.แถลงาการดำเนินคดีผู้ร่วมชุมนุมบนสกายวอล์คว่าตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมให้มีการเลือกตั้งเพิ่มเติม 39คน ซึ่งมีนายวีระ รวมอยู่ด้วย ในความผิด พรบ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ฐานร่วมกันชุมนุมในที่สาธารณะ ในรัศมี 150เมตร จากวังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป อันเป็นความผิดตามพรบ.การชุมนุมสาธารณะ2558 มาตรา7 วรรคแรก โดยให้ทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 2กุมภาพันธ์ทั้งนี้ นายวีระ โพสต์ข้อความว่า ‘วันที่ 2กุมภาพันธ์ ผมไม่สะดวกไปพบตำรวจตามหมายเรียก ซึ่งทนายความของผมได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันแล้ว โดยผมจะไปพบตำรวจในวันเสาร์ที่ 3กุมภาพันธ์’
นอกจากนี้ นายวีระ ยังโพสต์ภาพกลุ่มประชาชนกว่า30คน เดินทางมาหน้ากระทรวงกลาโหม พร้อมถือป้ายให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวอ้างว่า’หลักฐานการชุมนุมในที่สาธารณะเกิน 5คน ห่างจากพระบรมมหาราชวังไม่เกิน 50 เมตร เป็นการชุมนุมทางการเมืองให้กำลังใจรองนายกฯ พล.ต.อ.ศรีวราห์ อย่าละเว้นนะ ต้องดำเนินคดีด้วย หากไม่ดำเนินคดีคนกลุ่มนี้เหมือนที่ดำเนินคดีผม ผมจะดำเนินคดีกับคุณศรีวราห์ตามป.อาญา ม.157’
‘ศรีวราห์’ลั่นถ้าผิดต้องดำเนินคดี
ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผย.ตร.กล่าวถึงกรณีมีมวลชนรวมตัวชูป้ายให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร ที่หน้ากระทรวงกลาโหม ข้างพระบรมมหาราชวัง ว่า ต้องพิจารณาก่อนว่าการรวมตัวมวลชนเข้าข่ายชุมนุมหรือไม่ หรือผิดกฎหมายพรบ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในประเด็นที่ชุมนุมใกล้เขตพระราชฐานหรือไม่ หากดูแล้วผิด เข้าข่ายการชุมนุมก็ต้องดำเนินคดี
สมช.ย้ำเริ่มเคลื่อนไหวล้มรบ.คสช.
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีระบุยังมีกลุ่มจ้องโจมตีรัฐบาลว่า อย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.พูดว่าเป็นช่วงรัฐบาลทำงานมานานพอสมควร พอถึงจุดหนึ่งพยายามทำให้รัฐบาลอ่อนแอเพื่อให้รัฐบาลออกไป พยายามลดเครดิตความน่าเชื่อถือรัฐบาลและเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ช่วงนี้จะเห็นว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน หลายฝ่ายๆหลายกลุ่มๆเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง กลุ่มการเมืองต่างๆก็ออกมาเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตัวเอง เพื่อบั่นทอนรัฐบาลเพื่อก่อกระแสความวุ่นวายขึ้นมา
เมื่อถามว่า งานด้านการข่าวพบมีการเตรียมก่อเหตุสร้างความวุ่นวายมากกว่านี้หรือไม่ พล.อ.วัลลภกล่าวว่า ช่วงนี้พบว่ามีการเคลื่อนไหวมากขึ้นในโดยเฉพาะเรื่องทางการเมือง ส่วนจะขยายสถานการณ์หรือไม่ ตนมองว่าเป็นความตั้งใจ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่ม อาจจะหวังผลการเมือง เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ย้ำให้ติดตามงานด้านการข่าวมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.วัลลภตอบว่า ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ติดตามอยู่แล้วในเรื่องที่จะมีผลกระทบไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวน การแสดงความคิดเห็นต่างๆ เจ้าหน้าที่ติดตามไปตามหน้าที่
‘มาร์ค’ชี้ถ้าแจงแต่ต้นไม่บานปลาย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ระบุว่าทำงานมา 50ปีและไม่เคยทำเรื่องเสียหาย แต่หากประชาชนไม่พอใจที่ผลงานก็พร้อมจะลาออก ว่า ตนเห็นใจคนที่ทำงาน ซึ่งมักมีความรู้สึกว่า พยายามทำหลายสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่หลายครั้งก็มีกระแสความไม่พอใจของสังคม ตนจึงเข้าใจความรู้สึกนี้ หากพล.อ.ประวิตรพยายามชี้แจงเรื่องนี้ให้โปร่งใสตั้งแต่ต้นเรื่องคงไม่ลุกลามบานปลาย
เมื่อถามว่า รัฐบาลเริ่มมีการขอความร่วมมือของผู้บริหารสื่อหลายแห่งว่าให้หยุดพูดเรื่องนี้ จะช่วยได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันมีโซเชียลมีเดียที่ไปไกลกว่าสื่อกระแสหลัก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าให้หยุดยังคงยาก เพราะจะเกิดปัญหาต่อไปอีก สื่อก็จะรู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพ เพราะฉะนั้น ยืนยันว่าพล.อ.ประวิตร จะทำอย่างไรก็ได้ให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส และจบลงเสียที เพราะขณะนี้ในโซเชียลมีเดีย หรือ ไลน์ ก็มีการขุดข้อมูลที่น่าสงสัยมาเรื่อยๆ จนทำให้คนที่ได้รับข้อมูลก็เกิดคำถามขึ้นมาด้วย
ติงบิ๊กตู่พูดง่ายเอาแบบเก่าหรือปัจจุบัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนฟังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูด รู้สึกท่านจะสรุปง่ายไปที่บอกว่าเลือกเอาว่าจะเอาแบบปัจจุบัน หรือกลับไปเหมือนเก่า จริงๆประเทศมีทางเลือกที่ดีกว่าทั้ง 2ทางนี้ แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำและเป็นหน้าที่หลัก หรือภารกิจหลักที่ คสช.ประกาศไปด้วยซ้ำ เพราะ คสช.เข้ามาบอกว่า 1.จะไม่ให้เหมือนเก่าและ2.ที่มาอยู่นี้เพื่อปูทางไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แต่วันนี้บอกสังคมว่าเอาแบบนี้หรือเอาแบบเก่า ซึ่งไม่ใช่ ประเทศมีทางเลือกดีกว่านี้แน่นอน ทั้งนี้อย่าไปใช้คำว่าเป็นการดิ้นของรัฐบาล ส่วนขาลงดูเหมือนทุกฝ่ายเข้าใจดีว่าความนิยมมีลดลงได้ รู้สึกว่านายกฯก็พูดเองทำนองว่า นี่มันก็ปีที่ 4แล้ว เพราะฉะนั้นต้องบริหารจัดการ เพราะภารกิจที่เหลือของคสช.มีความสำคัญทั้งนั้น
‘วิษณุ’ยอมรับเริ่มยึดทรัพย์’ปู’แล้ว
วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังศาลปกครองยกคำร้องขอทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์ในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังสามารถมอบหมายให้ทนายความร้องขอทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์ได้ ส่วนการยึดบ้านต้องดูว่า เอกสารสิทธิ์ โฉนด หรือน.ส.3 หรือส.ค.1เป็นชื่อใครและถ้าเป็นสินสมรส ก็จะสามารถยึดได้เฉพาะส่วนหนึ่งเท่านั้น
ไม่เอาเป็นเอาตาย-ร้องทุเลาคำสั่งได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าตามคำสั่งมาตรา44 ยึดทรัพย์แล้วสามารถขายทอดตลาดได้เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากพิจารณาแล้วเห็นว่าทำได้ ก็ทำเลย แต่หากพบว่ายังเป็นสินสมรส ก็ไม่ควรทำ หรือพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรขายทอดตลาด เพราะอาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับคดีตามมาก็อย่าเพิ่งทำ ซึ่งกรมบังคับคดีพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรขาย เพราะอาจจะมีการร้องขอให้ทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์อีก ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำอย่างพอสมควร ไม่ใช่จะเอาเป็นเอาตาย เพราะขณะนี้ก็มีคนอยู่อาศัย แต่อย่างน้อยที่ยึดคือไม่สามารถที่จะนำไปขายได้ แต่เมื่อใดที่เห็นว่าทำแล้วจะไม่มีปัญหากรมบังคับคดีก็จะพิจารณาขายทอดตลาด
ยังพักในบ้านได้-แต่ต้องจ่ายค่าเช่า
เมื่อถามต่อว่าเมื่อกรมบังคับคดียึดบ้านแล้วคนในครอบครัวของน.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่ต้องขออนุญาตหรือเสียค่าเช่า เพราะมีหลายกรณีที่หลังจากรัฐยึดบ้านแล้วก็อนุญาตให้เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่เป็นการอยู่ในฐานะได้รับอนุญาตไม่ใช่เจ้าของ ดังนั้นเมื่ออยู่แล้วจะไปตกแต่ง ทาสี ดัดแปลง รื้อถอนไม่ได้
คลังเร่งส่งบัญชีสมบัติให้ตามยึด
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี เมื่อยึดมาแล้วต้องรายงานกระทรวงการคลังรับทราบ เพื่อนำมาชำระความเสียหายที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาก.คลังได้ตั้งคณะทำงานสืบทรัพย์และได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ,กรมที่ดินและสถาบันการเงินทุกแห่ง ให้ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินกลับมาให้กระทรวงการคลังเพื่อส่งข้อมูลต่อให้กรมบังคับคดี โดยหลายหน่วยงานได้ทยอยส่งข้อมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังจากหน่วยงานต่างๆ ส่งรายละเอียดเข้ามา กระทรวงการคลังก็ดำเนินการส่งต่อให้กรมบังคับคดีดำเนินการยึดทรัพย์ทั้งหมด แต่ในรายละเอียดคงไม่สามารถเปิดเผยได้
ทนายเตรียมยื่นทุเลาคำสั่งเรื่อยๆ
ด้าน นายนพดล หลาวทอง ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า ทีมทนายจะยื่นอทุเลาการบังคับคดีอีกครั้งเร็วๆนี้ เนื่องจากเห็นว่ามีทรัพย์หลายรายการจำเป็นต้องขอทุเลา โดยเฉพาะบ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3 ที่ขณะนี้สามีและบุตรชายอดีตนายกฯยังพักอาศัยอยู่ หากขายทอดตลาดไป จะไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้และยากแก่การเยียวยาในภายหลัง ที่สำคัญที่ผ่านมาอดีตนายกฯไม่เคยมีพฤติการณ์ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินในส่วนนี้หรือไปดำเนินการใดๆในการสร้างภาระผูกพันกับทรัพย์สินดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมทำคำร้อง ซึ่งจะยื่นคำร้องเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ยอมรับโดนยึดแล้วกว่า30รายการ
เมื่อถามถึงทรัพย์สินที่ถูกยึดอายัดไปแล้วมีอะไรบ้าง นายนภดล กล่าวว่า มีหลายรายการ แต่จำไม่ได้ทั้งหมด เท่าที่ทราบคือ บัญชีเงินฝาก คอนโดและที่ดิน ประมาณ 30รายการ บัญชีเงินฝากก็ยึดไปแล้วกว่า 10รายการ ขณะนี้ทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดยังไม่ได้ขายทอดตลาด หรือนำเข้าคลัง อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องมายื่นคำร้องด้วยตัวเองเพราะไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีทางปกครอง โดยผู้รับมอบอำนาจสามารถดำเนินการแทนได้ ซึ่งตนต้องดูแลตามหน้าที่ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี