"กฤษฏา"เดือดโคตรโกงโผล่กรมชล หลังชาวบ้านร้องทุจริตจ้าง "แรงงานผี" ขุดแก้มลิงโคราช "ทองเปลว" รับถูกร้องหลายโครงการ แต่สอบแล้วผิดไม่ถึง 1% อ้างเกิดจากความประมาทไม่ได้จงใจ ด้านศธ.ตะลึง พบเงินกองทุนเสมาฯหายเพิ่มอีก 30 ล้าน
วันที่ 24 มีนาคม นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ออกมายอมรับถึงกรณีได้รับจดหมายร้องเรียนจากประชาชนถึงกรณีทจุริตการจ้างแรงงาน ในโครงการขุดแก้มลิงของ สำนักชลประทานที่ 8 อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยได้สั่งการให้ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็วแล้ว พร้อมทั้งยังได้กำชับอย่าให้มีปัญหาทุจริตเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดในทุกโครงการ
กรมชลอ้างขรก.ประมาท-ไม่จงใจทุจริต
ขณะที่ นายทองเปลว เปิดเผยว่า ได้ให้ ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 เร่งตรวจสอบอยู่ แม้จดหมายร้องเรียนที่ได้รับจะลักษณะบัตรสนเท่ห์และไม่เป็นทางการ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามีการร้องเรียนเข้ามาหลายโครงการ จึงได้ให้ตรวจสอบทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามความผิดที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากความประมาท ไม่รอบคอบ ไม่ได้เกิดจากความเจตนาหรือจงใจใดๆ และพบโครงการที่มีปัญหาจริงๆ ไม่ถึง 1% ของโครงการที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทั่วประเทศ
ฟุ้งลงโทษไปเพียบตั้งแต่ตัดเงินเดือนยันไล่ออก
“ที่ผ่านมาตรวจสอบเจอปัญหาได้ลงโทษไปแล้วหลายโครงการ ทั้งการภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ปลดออก และไล่ออก โดยระบบของกรมชลประทาน มีการตรวจสอบ มีขั้นตอนการปฎิบัติ ชัดเจนโปร่งใส รวมทั้งหน่วยงานรัฐ มีกติกาปฎิบัติทางกฎหมายให้หลายหน่วยงาน เข้าร่วมตรวจสอบก่อนผ่านโครงการ ทั้งภาคประชาชน สื่อโซเซียลมีเดียเยอะแยะในพื้นที่ไม่มีใครกล้าประพฤติมิชอบ” นายทองเปลว กล่าว
ศธ.พบเงินกองทุนเสมาฯหายเพิ่มอีก30ล.
วันเดียวกัน นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเอกสารย้อนหลัง ได้พบหลักฐานการเบิกเงินช่วงปี 2550, 2551 และ 2553 ที่เข้าข่ายอาจมีการทุจริตเพิ่มเติม โดยพบว่ามีเงินหายไปอีกประมาณ 30 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเงินที่หายไปเป็นเพราะทุจริตทั้งหมดหรือไม่ เพราะยังหาเอกสารที่เกี่ยวข้องอีกส่วนหนึ่งไม่ครบ และยังต้องเรียนบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนต่อไป
แฉกลโกงใช้วิธีซิกแซกแก้บันทึกประชุม
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบรายงานการประชุมในหลายๆ ปีพบว่า ค่อนข้างมีความสับสน โดยเข้าใจว่า ผู้ดำเนินการใช้เล่ห์กลเขียนรายงานการประชุม โดยตัวเลขที่คณะกรรมการกองทุนฯอนุมัติวงเงิน กับตัวเลขในรายงานการประชุมไม่ตรงกัน โดยคนที่บันทึกการประชุมมาตลอดก็คือ นางรจนา สินที ข้าราชการระดับ 8 ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้
ไม่ฟันธงอดีตปลัดศธ.เอี่ยว-แต่ไม่เชื่อทำคนเดียว
“ยอมรับว่า มีช่องโหว่ให้เขาทำ เพราะเราให้เขาทำคนเดียว ศธ. คิดเพียงว่า อยากให้การดำเนินงานมีความรวดเร็ว สุดท้ายกลายเป็นดาบสองคม ขาดการถ่วงดุล อยู่ในวิสัยที่จะเป็นช่องว่างให้เกิดการทุจริตได้ ทั้งนี้ จากที่ตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้อง ไม่พบว่า มีบัญชีข้าราชการใน ศธ. ร่วมในการทุจริตด้วย ส่วนการทุจริตคนเดียวหรือไม่นั้น ผมก็เชื่อว่า มีการทุจริตหลายคน เพราะบัญชีที่รับโอนมีถึง 22 บัญชี ขณะที่ผู้บริหารระดับปลัด ศธ. ส่วนใหญ่จะมอบอำนาจให้รองปลัด ศธ. และผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ สป. ส่วนปลัดศธ. จะอนุมัติเฉพาะหลักการ ให้ใช้วงเงิน ตามมติคณะกรรมการกองทุนฯ และมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ อนุมัติการเบิกจ่ายและโอนเงิน ดังนั้นจะสรุปว่าอดีตปลัดมีความผิดด้วยก็ต้องดูบริบทแวดล้อมแต่ละปีประกอบ ส่วนจะใช้เวลาตรวจสอบเท่าไรนั้น ตอนนี้บอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเอกสาร เพราะตอนนี้มีเอกสารหลายอย่างที่ยังหาไม่ได้”นายอรรถพล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี