ตำรวจบุกขวางการแถลงข่าว “4 ปีที่ล้มเหลวของรบ.-คสช.”ของพรรคเพื่อไทย เตือน ระวังผิดคำสั่งคสช.ที่ 3/58 พบครึ่งทางแกนนำยอมขึ้นแถลง 3 คน ที่เหลือหลบรอ "จาตุรนต์"ซัดส่อประจานชาวโลก ลิดรอนสิทธิ ซัดฉ้อฉลทำทุกอย่างหวังสืบทอดอำนาจ
17 พ.ค. 61 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัยเกษม นิติศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นานพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เรื่อง 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช. นำประเทศไปสู่ความมืดมนและอันตราย
ซึ่งก่อนการแถลงข่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.มักกะสันจำนวนหนึ่งนำโดยรองผู้กำกับนครบาล 1 เข้ามาขอพูดคุยกับแกนนำพรรค ซึ่งพรรคได้ส่ง พล.ต.ท.วิโรจน์ นายภูมิธรรม และนายชูศักดิ์ไปพูดคุยทำความเข้าใจภายในห้องสมุดชินวัตร
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ทางตำรวจมาเพื่อขอให้ทางพรรคดำเนินการใดๆด้วยความระมัดระวังอย่าให้ขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ซึ่งการแถลงข่าวเกิน 5 คน สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดคำสั่งดังกล่าว ขอให้หลีกเลี่ยงประเด็นทางการเมือง และอย่าให้เกิดความวุ่นวาย หลังจากการพูดคุยประมาณ 5 นาที แกนนำพรรคพท.ก็ได้ข้อสรุปว่า จะให้แกนนำขึ้นแถลง 3 คน คือนายชูศักดิ์ นายจาตุรนต์ และนายวัฒนา
ซึ่งทั้ง 3 คน ไม่ใช่คณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนแกนนำคนอื่นๆนั้นยืนรออยู่ข้างล่าง โดยเชิญให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกันบริเวรภายนอกอาคารที่ทำการพรรค มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 20 นาย กระจายกำลังอยู่โดยรอบด้วย
จากนั้นเวลา 10.50 น. นายชูศักดิ์ นายจาตุรนต์ และนายวัฒนา ได้ขึ้นแถลงข่าว โดยนายชูศักดิ์ กล่าวก่อนว่า ความตั้งใจของเราที่ต้องการมาพบพี่น้องสื่อมวลชนวันนี้เพื่อพูดคุยให้ทราบว่า 4 ปี ของรับบาล คสช. ซึ่งจะครบรอบในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ มีความสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างไร โดยเราตั้งใจไว้ว่า จะมีผู้มาแถลงประมาณ 5-6 ท่าน เพราะเราเชื่อว่า การแถลงเรื่องนี้เป็นสิทธิ เสรีภาพของพรรคการเมือง และของพี่น้องประชาชนที่จะสามารถกระทำได้
แต่เมื่อมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาบอกว่า การแถลงของเรานี้อาจจะเข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 ทั้งที่การแถลงในลักษณะนี้เราแถลงมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้วแต่ครั้งนี้กลับมีปัญหา เราจึงตัดสินใจลดขนาดคนแถลงลงเหลือเพียง 3 คน เพราะเราต้องรักษาพรรค พท.ไว้ เพราะเราต้องทำอะไรอีกนาน
ต่อมา นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนเคยถูกจับกุมหลังจากการแถลงข่าว ซึ่งไม่ใช่การถูกจับกุม เพราะการแถลงข่าว แต่เป็นการจับตามข้อหาอื่น หรืออาจเป็นเพราะเราพูดถึงสิทธิ เสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น กรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า 4 ปี คสช. ปัญหาการริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน นักการเมือง พรรคการเมือง โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และเป็นสิ่งที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ กลับกลายเป็นอาชญากรรม และถูกริดรอนมากกว่าเดิม
"การที่ คสช. ส่งเจ้าหน้าที่มาบอกพรรคพท.เช่นนี้ ผมถือว่า เป็นการประจานไปทั่วโลกว่า คสช.ไม่ได้เคารพสิทธิ เสรีภาพของประชาชน เป็นความล้มเหลวในการทำตามข้ออ้างในการยึดอำนาจ และการสร้างความปรองดอง ยิ่งทำไป ก็ยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งความขัดแย้งในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากกลุ่มต่างๆสีต่างๆกลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง คสช. ฝ่ายหนึ่ง และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และต้องการสิทธิเสรีภาพอีกฝ่ายหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการสร้างระบบช่วยพวกพ้องเพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจได้อย่างยาวนาน เล่นงานฝ่ายตรงข้าม" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า สรุปแล้ว 4 ปี คสช. ที่บอกว่า จะทำก็ไม่ได้ทำเลย ทั้งเรื่องการปฏิรูป การสร้างความปรองดอง การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ แต่สิ่งที่ทำในช่วงหลังคือ การทำลายระบบพรรคการเมือง สรุปแล้วคือ คสช. ทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองพร้อมอยู่ในอำนาจหลังการเลือกตั้ง ภายใต้ระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เอื้อพวกพ้อง ฉ้อฉล หวังให้ได้รัฐบาลที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ องค์กรต่างๆถูกออกแบบให้เป็นคนของ คสช.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี