เพื่อไทยแถลง ซัด 4 ปี คสช.ล้มเหลวทุกด้าน นำประเทศสู่ความมืดมน-อันตราย “ชูศักดิ์” ชี้4 ปีไม่ปรองดองแถมกลายเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ขณะที่จาตุรนต์ชี้ 4 ปีคสช.ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เอื้อประโยชน์แต่หมู่คณะคสช.เพื่ออยู่ยาว
17 พ.ค. 61 ที่พรรคเพื่อไทย คณะแกนนำพรรค และสมาชิกพรรคทยอยเดินทางเข้าพรรคกันอย่างคึกคัก อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายนพดล ปัทมะ นายชัยเกษม นิติสิริ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรค เนื่องจากเตรียมข้อมูล เตรียมตัวแถลงตามที่ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนก่อนหน้าว่า จะมีการแถลงประเมินผลงาน4ปีรัฐบาลคสช.
กระทั่งเวลาประมาณ10.15น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงจากนครบาล และพื้นที่สน.มักกะสัน เดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์ โดยพ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล และมี พ.ต.ท.ศักดิเดช กัมพลานุวงศ์ รอง ผกก.สส.สน.มักกะสัน เข้าพูดคุยกับ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำของพรรค ที่ห้องสมุดทักษิณ ชินวัตร บริเวณชั้น1 ใกล้กับห้องแถลงข่าว โดยพ.ต.ท.ศักดิเดช กล่าวแจ้งต่อนายภูมิธรรมว่า การแถลงครั้งนี้ เกรงว่า จะกระทำผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ห้ามชุมนุมทางการเมือง
โดยนายภูมิธรรม ชี้แจงว่า ไม่มีปัญหา หากจะเข้าสังเกตการณ์ เคยแถลงข่าวมาโดยตลอดอยู่แล้ว จากนั้น พ.ต.ท.ศักดิเดช และ พ.ต.ท.ปุญรัสมิ์ โชติ รอง ผกก.ป.สน.มักกะสัน ได้ชี้แจงข้อกฎหมายต่อนายภูมิธรรมอีกครั้งว่า ย้ำถึงการแถลงข่าวที่อาจละเมิดฝ่าฝืนคำสั่งต่อ คสช. ในการชี้แจงครั้งนี้มีเพียง นายภูมิธรรม นายชูศักดิ์ พล.ต.ท.วิโรจน์ ร่วมชี้แจง ขณะที่นายวัฒนา เดินมาบ่นกับผู้สื่อข่าวบางส่วนที่เตรียมพร้อมทำข่าวในห้องแถลงข่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ "กลัวแม้กระทั่ง การพูดความจริง" จากนั้นได้เดินเข้าไปยังห้องสมุดทักษิณ ชินวัตร แต่ไม่ได้ร่วมชี้แจงด้วย โดยไปสังเกตุการณ์พร้อมกับ นายนพดล ปัทมะ นายชัยเกษม นิติสิริ ที่กำลังรอความชัดเจน ตกลงว่า จะมีการแถลงหรือไม่
ต่อแกนนำพรรคเพื่อไทยยืนยันจะแถลงตามเดิม แต่มีการลดจำนวนผู้แถลงลงจากเดิม 7 คนเหลือ 3 คน ประกอบด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวัฒนา เมืองสุข ส่วนแกนนำคนอื่นยืนอยู่ด้านล่างเวที เช่นเดียวกับนายตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นายที่เข้าร่วมฟังการแถลงข่าวในฐานะผู้สังเกตการณ์
ทั้งนี้แกนนำพรรคที่มาแถลงล้วนไม่ได้มีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรค เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเชื่อมโยงนำไปสู่ประเด็นทางข้อกฎหมายที่อาจเกิดผลกระทบกับพรรค
โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนที่จะแถลงข่าว มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาบอก การแถลงในวันครบรอบ 4 ปีรัฐประหารของ คสช. นั้น อาจเป็นการขัดต่อคำสั่ง คสช. 3/2558 แต่ขอยืนยันว่า การแถลงเป็นการใช้สิทธิ เสรีภาพ สามารถดำเนินการได้ พรรคเคยแถลงมาไม่รู้กี่ครั้งไม่เคยมีปัญหา แต่ครั้งนี้เมื่อจะแถลงประเมินผลงานครบรอบ 4 ปีรัฐประหารกลับมีปัญหา จากผู้ที่จะแถลง7คนจึงต้องลดผู้แถลงเหลือเพียง 3 คน ก็ขอให้สื่อแปลเอาเองว่า หมายความว่า อย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า 4 ปีในการบริหารประเทศของ คสช. จากวันที่ 22 พ.ค.2557 ในประกาศฉบับที่1 ของ คสช.ระบุว่า ต้องการให้เกิดความรักความสามัคคี สัญญาว่าจะใช้อำนาจเผด็จการไม่นาน ปราบปรามการทุจริต จากประกาศดังกล่าววันนี้ครบ 4 ปี พบว่า ที่จะสร้างความปรองดอง ความสามัคคีคนในชาติ ไม่เคยเห็นความจริงใจ ความแตกแยก ยังมี คสช. กลายมาเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ที่เคยบอกจะคืนประชาธิปไตยใน15 เดือน ก็มีการเลื่อนเลือกตั้งมา 4 ครั้ง
"บอกจะปฏิรูปโครงสร้างการเมือง แต่เรากลับได้รัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมืองที่ถอยหลัง ได้ประกาศคำสั่งจาก คสช. ที่ทำลายพรรคการเมือง การประกาศว่า จะปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่คนในสังคม ยังมีความเป็นอยู่แร้นแค้น ประชาชนลำบาก กำลังซื้อหดหาย ธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมปิดตัวเอง ถือว่าประกาศฉบับที่ 1 ที่เคยประกาศมานั้นล้มเหลว รัฐบาล และ คสช. นำประเทศไปสู่ความมืดมนและอันตราย" นายชูศักดิ์ กล่าวละย้ำว่า ในการแถลงครั้งนี้เรามาเพียง 3 คน ไม่ได้มา 3 หมื่นคน เต็มสนามฟุตบอล เพื่อจะเปรียบเทียบให้เห็นว่า อย่างไหนเป็นการทำกิจกรรมทางการเมือง
ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า 4 ปีของ คสช. ยังมีปัญหาการลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน พรรคการเมือง นักการเมือง โดยเฉพาะการแสดงความเห็นอย่างสุจริต ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญกลับถูกลิดรอน การแถลงไม่ได้ทำเกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองหรือต่อใคร คณะรัฐมนตรีเคยประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ แต่คสช.กลับส่งเจ้าหน้าที่มาบอกว่า การแถลงอาจเข้าข่ายขัดต่อประกาศ คสช. ถือว่า เป็นการประจานไปทั่วโลก คสช. ไม่ได้เคารพสิทธิเสรีภาพประชาชน ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ถึงความล้มเหลวในการปกป้องสิทธิมนุษยชน มีความขัดแย้งจากกลุ่มสีเสื้อ มาเป็นความขัดแย้งระหว่าง คสช กับ ประชาชน
รวมทั้งสร้างระบบ เอื้อต่อการปกป้องประโยชน์หมู่คณะของ คสช. เพื่อให้อยู่อีกยาวนาน พร้อมเล่นงานฝ่ายตรงข้าม แต่ปกป้องการทำหน้าที่ไม่สุจริตของ คสช. รวมทั้งยังล้มเหลวทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ทำลายระบบพรรคการเมือง ใช้วิธีการเพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไปหลังการเลือกตั้ง ภายใต้ระบบไม่เป็นประชาธิปไตย
"ประชาชนกำหนดอะไรไม่ได้ คสช. กำหนดทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูป เมื่อประชาชนไม่มีสิทธิเสียง ทำให้ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุล 4 ปี เห็นความพยายามการสร้างระบบการปกครอง มีเงื่อนไขต่อการฉ้อฉล มีรัฐบาลบริหารประเทศโดยไม่มีการตรวจสบถ่วงดุล ทั้งองค์กรอิสระและฝ่ายนิติบัญญัติ" นายจาตุรนต์ กล่าว
ขณะที่ นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ย้อนไปดูประกาศ คสช.1/2557 ที่อ้างความจำเป็นในการยึดอำนาจ ด้วยเหตุผลจะทำให้บ้านเมืองสงบสุข ให้คนไทยรักสามัคคี ปฏิรูป และสร้างความชอบธรรมให้ทุกฝ่าย โดยความจำเป็นของคสช.ต้องทำเท่าที่ขออำนาจประชาชนไว้ การอ้างว่า จะทำให้บ้านเมืองสงบ เป็นความสงบแบบใช้อำนาจปืน บังคับ ไม่สงบจริง ประชาชนยังไม่มีสิทธิแสดงความเห็น การจะแสดงความเห็นเพื่อต้องการบอกให้ประชาชนผู้เสียภาษีรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นในรอบ 4 ปี แต่ถูกปิดกั้น
"รัฐบาล คสช. ควรถูกตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ได้ เป็นอำนาจของประชาชนที่มีสิทธิจะรับรู้ ในส่วนของการที่จะสร้างความสามัคคีปรองดอง แต่กลับสร้างความขัดแย้งเพิ่ม แต่เห็นว่า มีการโกงอำนาจประชาชน ไม่ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม โกงในสิ่งที่ตัวเองเขียน ไม่เคารพสิ่งที่ตัวเองเขียน ใช้งบประมาณสูง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มีการขาดดุลงบประมาณสูงเท่าที่ประเทศไทยเคยมี และมีพฤติกรรมในการสืบทอดอำนาจ ตัดการตรวจสอบจากประชาชน" นายวัฒนา กล่าว
นายวัฒนา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การกำหนดให้นายทหารยศ พล.ต.เทียบเท่ากับตำแหน่งอธิบดี จากนี้บุคคลเหล่านี้คงจะไปนั่งมีตำแหน่งต่างๆในองค์กรอิสระ เพราะตามเงื่อนไขระบุว่า บุคคลที่จะไปมีตำแหน่งในองค์กรอิสระได้ต้องเคยเป็นอธิบดีมาเกินกว่า 5 ปี และต่อไปบุคคลเหล่านี้คงจะไปมีตำแหน่ง อย่างนี้ถือว่า เป็นการสืบทอดอำนาจ และเป็นการตัดการตรวจอบหรือไม่ รัฐบาลไม่ว่า จะได้อำนาจโดยวิธีการใด ต้องถูกตรวจสอบได้เสมอ ไม่ว่า จะเป็นรัฐบาลจากรัฎฐธิปัตย์ หากใช้อำนาจเกินเลยจากประชาชน หมดจากอำนาจแล้วขึ้นศาลได้ ติดคุกได้เสมอ
นายชูศักดิ์ ยังกล่าวเปิดเผยอีกว่า สำหรับการแถลงข่าวในครั้งต่อไป ของพรรคเพื่อไทย อาจเป็นลักษณะเช่นนี้คือ จะไม่ให้ผู้มีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคมาเป็นผู้แถลง เอาเซฟๆหรือขอป้องกันไว้ก่อน กลัวเขาจะนำไปโยงไปสู่การยุบพรรค อย่างไรก็ดีก่อนหน้าจะแถลง พวกเราเดินไปหานายตำรวจที่มาสังเกตการณ์ พร้อมกับเชิญไปหารือที่ด้านบนที่ทำการพรรคเพื่อไทยก่อน แต่เขาไม่ขึ้นไป แน่นอนการมาครั้งนี้ของตำรวจคงถูกสั่งมาแน่ เพียงแต่ไม่รู้ใครเป็นคนสั่งมาเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี