จากสถานการณ์ทางกรเมืองที่กำลังร้อนแรงกรณี “พลังดูด” จากฝีมือของกลุ่มสามมิตรที่เดินหน้าเข้าพบปะพูดคุยกับอดีต ส.ส. ส.ว. และนักการเมืองในขั้วต่างๆ เพื่อเชิญชวนมาร่วมงานอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้เดินทางไปพบกับนายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติหนึ่งในอดีตแกนนำ กปปส. และศิษย์เอกอดีตหลวงปู่พุทธอิสระ เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือในการปรองดองชาติ ตามแนวทางของกลุ่มสามมิตร

โดยนายภิรมย์ เปิดเผยว่า กลุ่มสามมิตรยึดแนวทางสร้างความปรองดองของคนในชาติเป็นหลัก ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเองในฐานะเลขากลุ่มสามมิตร ก็ได้เดินสายพูดคุยกับกลุ่มการเมืองอื่นๆ โดยไม่เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง และกลุ่ม นปช. ซึ่งจากการที่ได้พบกับ นายสิระ เจนจาคะ ซึ่งถือว่า เป็นเพื่อนเก่าที่เคยต่อสู้ทางการเมืองเหมือนกัน และที่สำคัญเป็นผู้ที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับอดีตหลวงปุ่พุทธอิสระ สมัยนำกลุ่ม กปปส. เคลื่อนไหวทางการเมืองก่อนที่จะมีการทำรัฐประหาร ซึ่งกลุ่มสามมิตรมีความตั้งใจที่จะเดินทางมาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่ม กปปส. ว่า มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ที่จะให้ประเทศไทยเราเดินทางไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ซึ่งจากการที่ตนเองไปเดินทางไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่ม นปช.ในภาคอีสาน ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยที่จะมีการจับมือกันเดินหน้า เพื่อให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ และวันนี้ก็ยินดียิ่งที่ได้มาพูดคุยกับอีกฝั่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่ม กปปส.

"ผมเห็นว่า ที่บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวสำคัญของ กปปส.มาก่อน จึงอยากมาขอใช้สถานที่บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ เป็นศูนย์ประสานงานกลุ่มสามมิตร ในพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย" นายภิรมย์ กล่าว.

ด้าน นายสิระ กล่าวว่า บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อประเทศชาติของกลุ่ม กปปส. ตนเองก็รู้สึกยินดีต้อนรับ เพราะกลุ่มสามมิตร นำเรื่องการปรองดองของคนในชาติขึ้นมาพูดคุย และตนเองก็เห็นด้วยที่จะมีการสลายสีเสื้อต่างๆ ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง และไม่ต้องการให้มีการแบ่งแยกว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดงแท้ เทียมอีกต่อไป หลังจากนี้เราควรจะเป็นเสื้อสีเดียวกันทั้งประเทศ เพราะตอนนี้ประเทศชาติต้องการการปรองดอง เพื่อพัฒนาประเทศสู่ความเจริญในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะช่วงนี้ทางรัฐบาลได้มีโครงการช่วยเหลือเรื่องปากท้องของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่นโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ตนเองเกิดมา 54 ปี ยังไม่เคยมียุคใดที่ทำให้คนจน ซึ่งถือว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง มีเงินเดือนใช้ เดือนละ 300-500 บาท เหมือนยุคนี้ เพราะเงินเพียงเท่านี้ก็มีค่ามากสำหรับคนจน ที่พวกเขาจะได้นำไปซื้อข้าว ซื้อของอุปโภคบริโภคไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างทั่วถึง

นายสิระ กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่ม กปปส.ในกรุงเทพมหานครนั้น ถ้าหากกลุ่มสามมิตรมาเชิญชวนให้ร่วมทำงานด้วย ก็ยินดีและพร้อมเสมอ เพราะเราก็ต้องการให้เกิดความปรองดองของคนในกรุงเทพมหานครเช่นกัน ส่วนการที่กลุ่มสามมิตร จะขอใช้สถานที่บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ เป็นศูนย์ประสานงานกลุ่มสามมิตรในกรุงเทพมหานคร ตนก็ไม่มีปัญหาอะไร ยินดีให้ใช้สถานที่เต็มที่ เพราะครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้ก็เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของกลุ่ม กปปส.เคลื่อนไหวเพื่อประเทศชาติมาแล้ว และครั้งนี้หากกลุ่มสามมิตรจะใช้ทำงานเพื่อประเทศชาติอีกครั้ง ตนก็ยินดียิ่ง.