“ตู่-นพพล”เดือดด่ายับ
ใบสั่งถอดเหนือเมฆ 2
พวกปลายแถวไม่รู้จริง
“ยุทธนา”ซัดรัฐเผด็จการ
ชี้ปชต.ปูแดงกรรเชียง
ปชป.จี้สกทช.สอบทีวี3
ความคืบหน้ากรณีสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ถอดละครเรื่อง “เหนือเมฆ 2 ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์ “โดยอ้างว่า มีเนื้อหาไม่เหมาะสมท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงการกระทำดังกล่าว ซึ่งเชื่อกันว่ามีคนในรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงใช้อำนาจบีบช่อง 3 ให้ยุติการฉายละครทันทีทั้งที่ยังไม่ถึงตอนอวสานเนื่องจากละครมีเนื้อหาประจานนักการเมืองโกงกินนั้น
เมื่อวันที่ 6 มกราคมสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โดยนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ช่อง 3 ละเมิดสิทธิผู้บริโภคและรัฐธรรมนูญ พร้อมกับเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุมครองผู้บริโภค (สคบ.) และคณะกรรมการกำกับกิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ต้องให้การคุ้มครองสิทธิผู้ชมโดยทันที
ชี้ช่อง3ริดรอนสิทธิผู้บริโภค
ในแถลงการณ์ ระบุว่า เนื้อหาสาระดังกล่าวของละครไม่ว่าจะเป็นตอนใด ไม่มีข้อความหรือเนื้อหาใดที่เข้าข่ายผิดต่อพระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ปี 2551 เลย ดังนั้น การที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ออกมาให้ข่าวว่ามีเนื้อหาไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสมนั้น จึงไม่อยู่ในฐานข้อเท็จจริงแต่ประการใด
พฤติการณ์หรือการกระทำของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ซึ่งได้สิทธิในการใช้สื่อสาธารณะของชาติไปดำเนินการแสวงหากำไร และผลประโยชน์ในรูปสัมปทานส่วนตนนั้น จึงได้ดำเนินการในลักษณะริดรอนสิทธิของผู้บริโภคหรือของสาธารณะโดยชัดแจ้ง อันเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 45 และมาตรา 61 ประกอบมาตรา 4 แห่ง พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค 2522 โดยชัดแจ้ง
ขู่ฟ้องศาลเรียกคืนสัมปทาน
ทั้งนี้ หาก สคบ. และ กสทช. ไม่ดำเนินการอย่างใด อย่างหนึ่ง เพื่อมีคำสั่งให้นำละครเรื่องดังกล่าวกลับมาออนแอร์ได้ตามปกติภายใน 3 วันนับแต่วันที่ 5 ม.ค.ก็ถือได้ว่า สคบ. และ กสทช. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค สมาคมฯ จะได้ร่วมมือกับผู้ชมละครดังกล่าวและหรือผู้บริโภค ในการยื่นฟ้องทั้ง 2 หน่วยงานต่อศาลปกครองกลาง ในวันอังคารที่ 8 ม.ค.56 ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้หน่วยงานรัฐทั้ง สคบ.-กสทช.และช่อง3 นำละครดังกล่าวออกมาออนแอร์ต่อจนจบตามที่ควรจะเป็นต่อไป
นอกจากนี้ ยังจะยื่นขอให้ศาลสั่งยกเลิกสัญญาสัมปทานที่รัฐทำไว้กับช่อง 3 เนื่องจากการกระทำของผู้รับสัมปทานช่อง 3 มีพฤติการณ์ละเมิดสิทธิผู้บริโภคและขัดต่อกฎหมาย
แม่ค้า-ชาวบ้านรุมด่าเปิง
ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มแม่ค้าพ่อค้าและประชาชนที่มาซื้อสินค้า จับกลุ่มพูดคุยกรณีละครเรื่องเหนือเมฆภาค 2 ซึ่งถูกช่อง 3 สั่งแบนเสียความรู้สึกอย่างมาก เพราะละครกำลังดำเนินเรื่องไปด้วยดี โดย นางภัทรี สมศรี ข้าราชการบำนาญกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ติดตามดูละครเรื่องนี้ตลอด เพราะชอบเนื้อหา และดาราที่แสดงเป็นผู้มีความสามารถ มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการ
“การนำเสนอเป็นเรื่องของละครที่นำเรื่องจริงมาสะท้อน ซึ่งคนดูก็รู้จักแยกแยะออกว่า นี่เป็นเรื่องของละคร หรืออันนี้เป็นเรื่องจริง การมาทำอย่างนี้ ทำให้คนดูเสียความรู้สึก เพราะปัจจุบันคนดูไม่ได้โง่ และฝากถึงคนสั่งแบนละครเรื่องนี้ การสั่งอย่างนี้มันสะท้อนถึงตัวคนสั่งว่ารู้สึกเดือดร้อนใช่หรือไม่”นางภัทรี กล่าว
เสียดายไม่ได้ดูตอนละครจบ
ด้านนางนิภาพร ขันเงิน อาชีพแม่บ้าน กล่าวว่า รู้สึกงง เพราะละครหายไปจากหน้าจออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และเพิ่งทราบจากข่าวเมื่อเช้าวันนี้ว่าละครถูกแบนแล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่ติดตามดูก็มองเป็นเรื่องของความบันเทิง ไม่ได้คิดเป็นเรื่องเสียดใคร กระทั่งเพื่อนบ้านบอกสาเหตุที่ถูกห้ามออกอากาศ เพราะไปกระทบกระทั่งคนในรัฐบาลทั้งที่ตลอดเวลาการติดตามดูไม่ได้คิดเลยไปไกลขนาดนั้น และรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ดูอีก เพราะอยากรู้ตอนจบจะเป็นอย่างไร
ผู้กำกับชื่อดังดาหน้า โพสต์ด่า
ในขณะที่ ตู่-นพพล โกมารชุน ผู้กำกับและนักแสดงอาวุโส ซึ่งรับบทเป็น “ดร.เมฆา” ในละครเรื่อง “เหนือเมฆ 2” โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กข้อความสุดเผ็ดร้อน " ...ไอ้ที่ออกมาพูดก็ระดับปลายแถวเกินกว่าจะรู้ตื้นลึกหนาบาง...”
ขณะที่ ยุทธนา มุกดาสนิท ผู้กำกับภาพยนตร์และละครชื่อดัง ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า “ประชาธิปไตยแบบปูแดงกรรเชียง!!!!! จำเอาไว้แล้วกัน ปิดกั้นสื่อ ปิดกั้นภาพสะท้อนที่แตกต่างขอร่วมประณามรัฐเผด็จการครับ!!!”
ส่วนอรรถพร ธีมากร ดาราหนุ่มและผู้กำกับชื่อดัง โพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่า "นี่เป็นกรณีศึกษาหนึ่งของสังคมไทยระหว่างผู้มีอำนาจกับคนทำงานสื่อ สะท้อนสังคม เรามีแค่มือกับสมอง เค้ามีอำนาจ นี่คือ สังคมประชาธิปไตยของสังคมไทยในยุคนี้คับ ขอคารวะ"
หมอกัมปนาทรับไม่ได้ลาช่อง3
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์และวิทยากรรายการ "ชูรักชูรส" ทางช่อง 3 โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวมีเนื้อหาระบุว่า ตนเป็นวิทยากรกับทางช่อง 3 มายาวนานเป็นสิบปี บัดนี้ถึงเวลาที่ขอประกาศตัวเอง ต่อสาธารณชน ว่า ตนขอยกเลิกการเป็นวิทยากรของรายการชูรักชูรสตลอดไป เพราะไม่สามารถยอมรับได้ ในความคิดเห็นของตน ไทยทีวีสีช่อง 3 มีผู้บริหารที่ไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นสื่อมวลชนอย่างสิ้นเชิงแล้ว
“ดังที่เห็นในตัวอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย แต่ทางสถานีก็มีข้ออ้างทุกประการเพียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ในฐานะที่ตนเป็นจิตแพทย์ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ทางด้านจิตเวชศาสตร์ เพื่อให้พวกเราดำรงตนเพื่อคุณงามความดีของบ้านเมืองเรา ดังนั้น ตนจึงถือว่า ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 อีกต่อไป”นพ.กัมปนาท ระบุ
พร้อมกล่าวอีกว่า ตนได้แสดงความไม่พอใจทางสถานีผ่านสื่อสังคมออนไลน์บ่อยครั้ง ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดข้อครหานินทาว่า "ด่าแต่เขา แต่อิเหนาก็ยังมีรายการมาออกช่องดังกล่าวอยู่" และตนก็มิใช่คนตอแหลและหน้าด้านเหมือนใครบางคนในสังคมและในสถานีดังกล่าว
กสทช.งงใช้ม.37ไม่ถูกต้อง
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว (@supinya) ใจความว่า ในฐานะคณะกรรมการ กสทช.ไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ช่อง 3 ระงับการออกอากาศละครเรื่อง "เหนือเมฆ 2" เนื่องจากผิดมาตรา37 ตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 เนื่องจาก มาตรา37 ครอบจักรวาลและละเอียดอ่อนต่อเสรีภาพสื่อมาก ซึ่งที่ผ่านมา กสทช.ไม่เคยใช้มาตรานี้ในการสั่งแบนสื่อใดเลย แม้แต่กรณีช่อง11 หรือ ละครเรื่องแรงเงา ซึ่งการอ้างมาตรา 37 พร่ำพรื่อจะทำให้สิทธิเสรีภาพสื่อ (โดยเฉพาะฟรีทีวี) ถอยหลังหรือติดลบ โดยเฉพาะในละครที่จริงๆ นอกจากนี้ ถ้าใช้มาตรา37 กับกรณีช่อง 3 เป็นมาตราฐาน ต่อไปรายการในทีวีกว่าครึ่งคงออกอากาศไม่ได้เลย เราจะกลับไปสู่ยุคที่ยังมี กบว.คือก่อนปี2535 ทั้งนี้ การกำกับดูแลกันเองตามกรอบจรรยาบรรณสื่อ (self-regulation) กับการเซ็นเซอร์ตัวเอง (self-censorship) ไม่เหมือนกัน กสทช.ต้องส่งเสริมการเซ็นเซอร์ตัวเองบนฐานจรรยาบรรณวิชาชีพ ไม่ใช่เซนเซอร์ตัวเองบนฐานการสร้างอาณาจักรแห่งความกลัว (climate of fear)
“องอาจ” ชี้ช่อง3ละเมิดสิทธิ
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า การใช้อำนาจถอดละครสาระดีๆออกนั้น เป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจเพื่อเอาใจเจ้านาย จนลืมคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา การใช้อำนาจนั้นเป็นการละเมิดสิทธิ์ผู้สร้างละคร และละเมิดสิทธิ์ประชาชนที่ติดตามชมละคร ซึ่งจากเนื้อหาของละครเหนือเมฆ 2 ตนเห็นว่ารัฐบาลที่ดีควรจะส่งเสริม เพราะเป็นละครสะท้อนพฤติกรรมนักการเมือง เป็นละครต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น
จี้กสทช.ตรวจสอบขัดม.37หรือไม่
นายองอาจ กล่าวต่อว่า กรณีที่กสทช. แจ้งว่า ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 ได้ชี้แจงด้วยวาจาว่า ของดการเผยแพร่ละคร เหนือเมฆ 2 เพราะมีเนื้อหาไม่เหมาะสมขัด มาตรา 37 ตาม พ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ทางด้านความมั่นคงนั้น ตนเห็นว่ารู้สึกเห็นใจช่อง 3 ที่ไม่มีทางเลือกในเรื่องนี้ ตนจึงเห็นว่าอย่างไรก็ตามกสทช. ควรจะมีการตรวจสอบว่าเนื้อละครว่าเป็นไปตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
“ขอฝากความหวังไว้กับกสทช. ที่จะช่วยเป็นองค์กรอิสระสร้างบรรทัดฐานในเรื่องที่เกิดขึ้น และต่อไปในอนาคตจะได้ไม่มีการใช้อำนาจโดยไม่ชอบในลักษณะนี้กับแทรกแซงสื่อมวลชน”นายองอาจ กล่าว
มัลลิกาบี้ช่อง3ออกมาชี้แจง
ส่วน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวในกรณีเดียวกันว่า หลังจากที่ช่อง 3 ได้ออกประกาศถอดละครเหนือเมฆ 2 โดยให้เหตุผลว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสม ทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างปรากฏการณ์ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างกว้างขวาง ซึ่งทั้งหมดของผู้ที่แสดงความคิดเห็นอยากให้มีการนำละครเหนือเมฆ 2 กลับมาออกอากาศให้จบ และเรียกร้องให้ผู้บริหารการช่อง 3 ออกมาชี้แจงรายละเอียดการถอดละครดังกล่าวให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี