“ประยุทธ์”กระฉูดไอเดีย
เกณฑ์ทหาร
เลิกยกเว้นเด็กเรียนรด.
อ้างทำยอดตรวจเลือกหด
ย้ำกติกาตัดผมหัวเกรียน
เมื่อเวลา 09.30 น.ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันสถาปนา นรด.ครบรอบ 65 ปีว่า หลักสูตรการฝึกนักศึกษาวิชาทหารต้องปรับปรุงให้ทันต่อสถานการณ์ และให้ทันต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดยให้ช่วยเหลือการปฏิบัติการทางทหารเป็นหลัก ดังนั้นต้องปลูกฝังให้เยาวชน โดยเฉพาะนักศึกษาวิชาทหารให้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ
ผบ.ทบ.กล่าวว่า นอกจากนี้ อยากให้ รด.เรียนรู้ถึงภัยคุกคามที่มีมากมายในทุกประเทศทั่วโลก ทั้งปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าว เพื่อทำให้ประเทศชาติมีความเข้มแข็งขึ้น ซึ่งประเด็นสำคัญ คือ จะทำอย่างไรให้ รด.มีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลประเทศชาติให้มากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ปัญหาของนักศึกษาวิชาทหาร คือ สัดส่วนในการเกณฑ์ทหารในแต่ละปี เรามีความต้องการทหาร 8 หมื่น โดยมีคนเข้ามาเกณฑ์ในระบบมากกว่า 3 เท่า ดังนั้นถ้ามีคนเข้ามาเป็นศึกษาวิชาทหารมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้สัดส่วนคนเข้ามาเกณฑ์ทหารมีจำนวนลดลง และอาจจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลว่า ให้เพิ่มอัตรานักศึกษาวิชาทหารในแต่ละปี ดังนั้นต้องมองว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“ต่อไปอาจเสนอว่า ถ้าคนอยากเป็นนักศึกษาเพื่อเรียนวิชาทหารจริงๆ ก็เรียนได้ แต่เมื่อถึงเวลาตรวจเลือกทหารจะต้องมาตรวจเลือกด้วย อยากจะดูว่า คนจะมาเรียน รด.มากเหมือนเดิมหรือไม่ หากมีนักศึกษาวิชาทหารเรียนมากขึ้นก็ต้องเพิ่มครูและสถานที่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ยังกล่าวชมเชยนักศึกษาวิชาทหารหญิงที่สมัครเข้ามาเรียนทั้งที่ไม่ได้รับสิทธิอะไรทั้งสิ้นว่า ผู้หญิงไทยเก่ง เข้มแข็งดี ส่วนกฎหมายที่ห้ามเยาวชนต่ำว่า 18 ปี ถืออาวุธนั้น เราแก้ปัญหาโดยให้เรียนแค่อาวุธศึกษา ไม่ต้องฝึกยิงปืน ซึ่งจะไม่ขัดกฎหมายอื่น
ส่วนเรื่องทรงผมนักเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการอนุญาตให้นักเรียนไว้ผมยาวได้นั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า ในส่วนของนักศึกษาวิชาทหารต้องมีกติกา ดังนั้นขอเถอะ เมื่อทุกคนแต่งเครื่องแบบทหารจึงควรจะไว้ผมสั้นเสียหน่อย มิเช่นนั้นจะแยกแยะไม่ออกระหว่างทหารกับพลเรือน ถ้าผม และหนวดยาวจะดูไม่เรียบร้อย
ขณะที่ พล.ท.วิชิต ศรีประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวความคิดของ ผบ.ทบ. ที่จะให้ผู้ที่จบหลักสูตรนักศึกษาวิชาการทหารต้องเข้ามาเกณฑ์ทหารว่า เป็นแนวคิดที่ดี ซึ่งกองทัพมีแนวคิดเรื่องนี้มานานแล้วว่า ทุกคนที่เรียนจบหลักสูตรควรเข้ามารับการฝึกประมาณ 3-6 เดือน เพื่อเพิ่มพูนจิตวิญญาณรักชาติ แต่ขณะนี้ยังเป็นเพียงแนวความคิดเท่านั้น คงต้องไปศึกษากันในรายละเอียดว่าจะทำกันอย่างไรต่อไป
พล.ท.วิชิต กล่าวว่า ขณะนี้อัตราส่วนของชายไทยที่เข้ารับการตรวจเลือกแล้วต้องเป็นทหารเกณฑ์ลดลงไปเรื่อยๆ โดยมีอัตราส่วนอยู่ที่ 2.3 คน ต่อการเป็นทหารเกณฑ์ 1 คน ดังนั้นหากเราเพิ่มยอด นศ.วิชาทหารมากเท่าไหร่ จะทำให้อัตราส่วนลดลงไปอีก ตรงนี้เป็นสัดส่วนสำคัญที่ทางกองทัพมีการพูดคุยกันมาก ที่สำคัญจะทำให้เกิดความรู้สึกต่อคนในระดับรากหญ้า
“ในเรื่องการเกณฑ์ทหารต้องมีความยุติธรรมเหมือนกัน ไม่ใช่กลายเป็นว่า คนจนต้องเป็นทหาร ถ้าเป็นอย่างนั้นจะดูไม่ดี เพราะคนจนยังจำเป็นต้องทำงาน เพื่อครอบครัว แต่มีโอกาสที่จะได้จับใบดำใบแดงมาก ดังนั้นคนที่อยู่ในสังคมชั้นกลางและสังคมชั้นสูงควรจะมีโอกาสเป็นทหารด้วยเหมือนกัน เพื่อให้มีความเท่าเทียมกัน”ผบ.นรด.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมี นักศึกษาวิชาทหารที่ศึกษาระหว่างชั้นปีที่ 1-5 รวมทั่วประเทศจำนวน 3 แสนคน โดยในชั้นปีที่ 4-5 จะมี นศ.วิชาทหารหญิงด้วย ทั้งนี้ นรด.ได้กำหนดจำนวนผู้เข้ารับการเรียนหลักสูตรไม่เกินปีละ 1 แสนคน ซึ่งจากการหารือในรายละเอียด คาดว่า ต่อไป นศ.วิชาทหารอาจจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการ แต่จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนระยะเวลาในการรับราชการทหารแทน โดยอาจจะต้องเข้ารับการฝึกประมาณ 3-6 เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี